ตอนที่สอง ความฝันของแพรพิมล

1477 คำ
"ถึงจะแต่งแค่ชั่วคราวแต่ก็คุ้มแหละแพร เธอแต่งเข้าไปช่วยเหลือตระกูลเขาขนาดนั้น ตอนหย่าเขาไม่ปล่อยให้เธอออกมามือเปล่าหรอก" พิมพ์พลอย พี่สาวของแพรพิมลบอกในตอนที่รู้ว่า แพรพิมลจะต้องแต่งงานกับจิณณะ "ถ้ามีลูกด้วยกัน แล้วต่างคนต่างไม่มีใคร พี่พลอยว่าแพรกับพี่เจ็ทจะอยู่ด้วยกันได้ไหมคะ" แพรพิมลปรึกษาพี่สาว "พี่ว่ามันเป็นไปได้ยาก พี่เจ็ทชอบแพททริเซีย ถ้าแพทริเซียมีแฟนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่เจ็ทตามข่าวจริง พี่เจ็ทก็คงไปชอบคนสไตล์เดิมซึ่งแตกต่างกับแพรมาก" นอกจากจะแต่งงานแล้ว แพรพิมลกับจิณณะต้องมีลูกด้วยกันตามเงื่อนไขของพินัยกรรม ผู้ใหญ่อาจจะคิดเหมือนที่แพรพิมลถาม แต่ในความเป็นจริงแล้วพิมพ์พลอยคิดว่าโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นไม่มีเลย จิณณะพูดอยู่เสมอว่าชอบลูกครึ่ง ที่ดูสวยโฉบเฉี่ยว สไตล์นางร้ายไม่ใช่แบบหวาน ๆ "พี่อยากให้แพรมองว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นธุรกิจ อย่าเอาใจลงไปเล่น จนกว่าพี่เจ็ทจะเป็นฝ่ายเริ่มหวั่นไหวก่อน ตอนนั้นแพรค่อยเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้" "..." แพรพิมลหลุบตามองมือตัวเอง ความหวังกับความจริง มันสวนทางและไม่มีวันบรรจบกันได้เลย "ดูเหมือนว่าคำเตือนของพี่จะสายไปแล้วสินะ เราชอบพี่เจ็ทมานานหรือยัง" คนเป็นพี่สาวหยั่งเชิง เมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มของน้องสาวอ้าแล้วหุบ อ้าแล้วหุบเหมือนหาเรื่องมาเถียงไม่ทัน พิมพ์พลอยก็เอามือคลึงขมับคล้ายจะบรรเทาอาการปวดหัว "พี่เห็นใครมาชอบเรามากมายเราก็ไม่สนใจ ที่แท้เก็บใจไว้ให้พี่เจ็ทนี่เอง ถ้ารู้อย่างนี้พี่จะได้เปลี่ยนคำแนะนำ" "เปลี่ยนคำแนะนำยังไงคะ" "ถ้าแต่งเพราะธุรกิจก็ต้องรีบแต่งรีบเลิกไปใช้ชีวิต แต่ถ้าแต่งเพราะมีใจแพรก็ต้องพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์กับสามี" "แล้วแต่งเพราะมรดก กับแต่งเพราะมีใจ มันต่างกันตรงไหนคะ" แพรพิมลคิดว่าแต่งงานก็คือแต่ง ทำไมต้องแยกกัน "เด็กน้อย" พิมพ์พลอยที่เคยมีแฟนมาหลายคนเอ่ยเสียงอ่อนโยน "ความใส่ใจ และความอดทน มันต่างกัน ลองเทียบง่ายๆ ว่าระหว่างเพื่อนร่วมงานที่เจอแค่ตอนทำงานกับคนในครอบครัว เวลาทะเลาะกัน แพรจะแคร์ใครมากกว่า" "แพรเข้าใจแล้ว" ถ้าแต่งเพราะมีใจ ก็ต้องพยายามมากกว่า แคร์มากกว่านี่เอง "พี่ขอให้แพรสมหวังนะ แพรเป็นคนจิตใจดี อยู่ที่ไหนใครก็รัก พอแต่งงานแล้วก็อย่าให้ความสดใสนี้หายไป ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าไม่ได้รับการเคารพมากพอ ก็ไม่ต้องไปรักเขาอีกต่อไป กฎของการมีความสัมพันธ์ก็คือ แพรต้องมีขอบเขตแล้วรักตัวเองให้เป็น จำไว้ว่าอย่ารอความรักจากคนอื่น เราต้องรักตัวเองก่อน" แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือจากด้านหลังทำให้สองพี่น้องหันไปเห็นคนที่หน้าตาเหมือนว่าที่คู่หมั้นของแพรพิมลทุกกระเบียด ไม่รู้ว่าเขามายืนฟังพวกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ คนตรงหน้าคือ หมอเจย์ หรือนายแพทย์จิระ พี่ชายฝาแฝดของจิณณะ พวกเธอเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กเลยสนิทมาก หลายปีมานี้มีเพียงจิณณะที่มีงานในวงการบันเทิงเยอะเลยหายหน้าไป ส่วนหมอหนุ่มที่โผล่พรวดมากลางวงสนทนานั้นเป็นเรื่องที่สองสาวชินแล้วเพราะบ้านของพวกเธออยู่ใกล้กัน แม้จิระและจิณณะจะไปอยู่ห้องชุดกลางในตึกสูงเมือง แต่เมื่อไหร่ที่เขากลับมาที่บ้านใหญ่ก็จะเดินข้ามรั้วเข้ามาเยี่ยมคุณปู่ของพวกเธอ "พี่มาทันฟังวัวจูงควายโชว์พอดีเลย" ชายหนุ่มมองกูรูความรักอย่างพิมพ์พลอยแล้วก็ล้อแบบบอกให้รู้ว่าเขาได้ยินที่สองพี่น้องคุยกันทั้งหมด ที่กล้าพูดเช่นนี้เพราะยัยพลอยผู้ที่ให้คำปรึกษาน้องสาวเป็นอย่างดีนั้นก็เอาเรื่องตัวเองไม่รอดในเรื่องความรักเหมือนกัน "แรงงงงงง" สองสาวโวยวายขึ้นมาพร้อมกัน "ได้ยินหมดเลยเหรอเนี่ย" แพรพิมลทำท่าเหมือนอยากมุดดินหนี "มาหาว่าเค้าเป็นวัวจูงควาย ตัวเองก็กระบือแหละ" พิมพ์พลอยมองจิระแรง ๆ แล้วก็พูดประชดเข้าให้ จิระเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเธอหรอก ทำแต่งาน ไม่มีแฟน ไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่หลังจากพินัยกรรมเปิด เขาก็มาสารภาพกับผู้ใหญ่ว่ามีครอบครัวแล้ว แถมยังส่งรูปลูกกับเมียมาให้ดูแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าเฟค "อือ" จิระพยักหน้ารับ "เนี่ยปู่ของพวกเรายังวางแผนจะให้ผสมพันธุ์กัน ไม่เห็นใจรุ่นเหลนบ้างเลย ยีนส์ชิดกันเกินไปแล้ว" "พี่เจ็ทเป็นคนดี คงส่งต่อพันธุกรรมดีให้ลูกบ้างแหละ" แพรพิมลยังคงอวยชายในฝันของตนให้ฝาแฝดของเขาฟัง ส่วนพิมพ์พลอยกับจิระนั้นมองหน้ากันแล้วก็ยักไหล่ พวกเธอดีใจที่ไม่ได้เป็นฝ่ายโดนคลุมถุงชน แตกต่างจากแพรพิมลที่เป็นคนเชื่อฟังผู้ใหญ่ ชี้นิ้วไปทางไหนเธอก็เดินไปทางนั้น แถมเจ้าตัวยังมีใจให้จิณณะเป็นทุนเดิม การคลุมถุงชนครั้งนี้จึงไม่นับว่าเป็นการพรากอิสระของเจ้าตัว "น้องแพรเสียสละแต่งงานเพื่อตระกูลพี่ พี่สัญญาว่าจะคอยช่วยให้น้องแพรสมหวัง อย่างแรกที่ทำเลยก็คือพี่เสียสละให้น้องแพรแต่งงานกับไอ้เจ็ท" "พูดดูดีนะ แต่ก็คล้ายจะเอาดีเข้าตัว" พิมพ์พลอยรีบท้วง "งั้นพลอยก็ขอเอาดีเข้าตัวด้วย พลอยบอกปู่ไปว่ามีแฟนแล้ว เป็นการเสียสละให้พี่เจย์ได้มีโอกาสแต่งงานกับคนที่พี่อยากแต่งด้วย แล้วทำให้ยัยแพรได้สมหวังกับการแต่งงานกับพี่เจ็ท" "แต่ละคน เอาดีเข้าตัวแข่งกันไปพลาง ๆ นะคะ แพรปวดหัวแล้ว แพรจะไปทำขนม" แพรพิมลรู้สึกเหนื่อยกับพี่ ๆ ผู้ร้ายกาจ พวกเขาเป็นเด็กซน หาเรื่องดื้อหรือไม่ก็ตีกันตลอด แพรพิมลมักจะเลี่ยงเพราะสู้ไม่ไหว ในตอนเด็กเธอกับจิณณะมักจะแยกไปอ่านหนังสือนิทาน ร้องเพลง เล่นพ่อแม่ลูก เล่นบทเจ้าสาวเจ้าบ่าวเข้าโบสถ์แต่งงานกันไปเรื่อยเปื่อย ไม่เคยทะเลาะกันสักแอะ รอยยิ้มผุดขึ้นบนดวงหน้างามเมื่อนึกถึงชีวิตในวัยเยาว์ จิณณะคุกเข่าขอแต่งงานเธอหลายครั้ง แหวนที่ร้อยจากดอกหญ้าที่เขาเคยทำให้เล่น ๆ กำลังจะเป็นแหวนแต่งงานจริง ๆ ห้องหอที่ทำมาจากเต็นท์ของเล่น จะกลายเป็นเรือนหอหลังใหญ่สำหรับเราสามคนพ่อแม่ลูก อันที่จริงแล้วแพรพิมลไม่ได้แต่งงานเพื่อช่วยครอบครัวของจิณณะเพียงอย่างเดียว แต่เธอเองก็เลือกแต่งงานกับเขาเพื่อสานความฝันของตัวเองเหมือนกัน... เธอฝันอยากจะครองคู่กับเขาตลอดไป ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้รัก แต่หญิงสาวก็หวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจในสักวันหนึ่ง เมื่อตกลงกันได้ เรือนหอหลังใหญ่ที่อยู่ระหว่างสองบ้านก็ถูกสร้างขึ้น ตลอดเวลาที่เริ่มมีเสาเข็ม ฝาผนัง หลังคา จนวันที่ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ความรัก ความหวัง ความฝันของแพรพิมลก็ก่อร่างสร้างตัว ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ Jetjinna : วันนี้น้องแพรว่างไหม พี่มีเรื่องจะคุยด้วย ในวันหนึ่งข้อความของว่าที่สามีที่ส่งหาเธอทำให้แพรพิมลรีบส่งข้อความตอบกลับไปว่าว่าง เขานัดเธอให้ไปพบที่คาเฟ่ย่านชานเมืองระหว่างช่วงพักกองละคร เธอตอบตกลงแล้วกดค้นหาพิกัด หัวใจที่พองฟูเพราะจะได้เจอว่าที่สามีแฟบลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสถานที่นัดพบนั้นเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพของ 'แพททริเซีย' ผู้หญิงที่จิณณะแอบหลงรัก แต่แพรพิมลก็ฟื้นฟูกำลังใจขึ้นมาใหม่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นมีแฟนแล้ว เธอควรดีใจมากกว่าที่จะได้แต่งงานกับจิณณะในช่วงที่เขาต้องปลดพันธะในหัวใจกับใครสักคน ตอนที่เขาต้องฮีลใจ แล้วมีเธอคนเดียวที่อยู่เคียงข้าง เขาอาจจะหันมามองเธอบ้างก็ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม