แพรพิมลไปนั่งที่โต๊ะจิณณะจองไว้ให้ พอเห็นว่าเขาสั่งน้ำแตงโมปั่นของโปรดของเธอมาให้ดื่มระหว่างรอ แพรพิมลก็ยกมาดื่ม รสชาติหวานในปากนั้นหวานล้ำไปถึงหัวใจ
พี่เจ็ทยังคงจำได้ว่าเธอชอบดื่มน้ำแตงโมปั่น
ตอนที่คนตัวสูงเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนนักแสดงแพรพิมลก็มองด้วยแววตาชื่นชม ในยามที่จิณณะอยู่ท่ามกลางผู้คน เขาสง่างาม โดดเด่นเหมือนดวงดาวที่จรัสแสง ในตอนที่เขาไม่ได้ยิ้มแววตาที่สดใสแวววาวก็ทำหน้าที่แทนรอยยิ้ม ภาพที่ทุกคนเห็นนั้นเขาดูอบอุ่นอ่อนโยน เป็นความสว่างสดใสของโลกใบนี้
ตอนยังเด็กเธอชอบที่จะได้เล่นกับเขา จนเมื่อโตเป็นสาว หัวใจของแพรพิมลก็เริ่มเต้นผิดจังหวะในทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน มันน่าแปลกที่เธอไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนั้นกับจิระ แม้ว่าลักษณะภายนอกของพวกเขาจะดูเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก แต่ความรู้สึกของเธอกลับแยกสองฝาแฝดนี้ออกอย่างชัดเจน
เพราะอย่างนี้แพรพิมลจึงแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเป็นอย่างมาก ว่าเธอคิดไม่ซื่อกับจิณณะเสียแล้ว...
จิณณะคุยกับเพื่อนอยู่สองสามนาทีแล้วจึงค่อยแยกกับเพื่อนแล้วเดินเข้ามาหาเธอ แพรพิมลวางมือประสานบนตักแล้วก็ข่มท่าทีเป็นปลื้มเอาไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มสดใส
"สวัสดีค่ะพี่เจ็ท"
"หวัดดีน้องแพร พี่ขอโทษด้วยนะที่ต้องให้มาเจอกันที่นี่"
"ไม่เป็นไรค่ะ แพรรู้ว่าพี่เจ็ทไม่ว่าง พี่เจ็ทมีเรื่องอะไรจะคุยกับแพรคะ"
"พี่อยากจะตกลงกับน้องแพรเรื่องงานแต่งงานของเรา จะโทรคุยก็ไม่เหมาะ" จิณณะบอกกับเธออย่างเป็นทางการ เพราะต่างก็แยกย้ายกันไปเติบโตเราสองคนจึงไม่ได้สนิทกันมากเหมือนตอนเด็ก เวลาเจอกันจึงมีช่องว่างเล็กน้อย หลังจากที่ตกลงว่าจะแต่งงานกับเธอเขาก็หายไปทำงานอยู่พักใหญ่ จนเรือนหอใกล้เสร็จแล้วฤกษ์แต่งกระชั้นเข้ามา เขาถึงนัดคุยรายละเอียดกับเธอ
ช่วงเวลาที่ว่าที่สามีหายไป แพรพิมลไม่ได้กังวลเลย เพราะจิระพาลูกและภรรยาเข้าบ้านแล้ว จิณณะจึงเป็นตัวเต็งเพียงคนเดียวที่จะต้องแต่งงานกับเธอ
หญิงสาวรออย่างวางใจแล้วแบ่งเวลาจากการเป็นผู้จัดการบริษัทในเครือของบริษัทที่ปู่ของเธอเป็นผู้บริหารมาเรียนวิชางานบ้านงานเรือนเพิ่มระหว่างรอวันวิวาห์
"เริ่มด้วยเรื่องที่แพรเสียสละมาแต่งงานกับพี่ พี่ก็คิดว่าจะตอบแทนเรา วันนี้พี่ให้ทนายทำเอกสารที่แน่นอนมาให้แพรดู"
จิณณะยื่นแท็บเล็ตให้เธอดูแล้วแพรพิมลก็เห็นตัวเลขบนหน้าจอ ส่วนแบ่งมรดกที่จิณณะจะได้รับคือ 25% จากทั้งหมด เขาจะแบ่งให้เธอ 10% และจะมีเงินเดือนให้เธอทุกเดือน
"โอเคค่ะ" แพรพิมลยอมทุกอย่าง ขอเพียงแค่ได้แต่ง
เรื่องแต่งงานนั้นผู้ใหญ่เข้าใจดีว่าจะไปกันได้หรือไม่ได้นั้นเป็นการตัดสินใจของพวกเธอเอง แต่พวกท่านหาได้รู้ไม่ว่า จิณณะคุยเรื่องหย่ากับเธอก่อนแต่งเสียอีก
"พี่จะคุยเรื่องทำลูก"
โหนกแก้มของแพรพิมลซับสีเลือดขึ้นมานิด ๆ มือเธอหาที่วางแทบไม่ถูก เรื่องแต่งงานผู้ใหญ่และทนายคุยกันจนได้ฤกษ์แล้วว่า จะจัดงานภายในครอบครัวหลังจากตกแต่งเรือนหอเสร็จ ซึ่งตามกำหนดคือหนึ่งเดือนข้างหน้า
แพรพิมลมีวายร้ายเป็นกุนซือถึงสองคน พิมพ์พลอยบอกว่าหนทางเดียวที่จะสร้างความผูกพันกับจิณณะก็คือ เธอต้องชวนเขาทำลูกด้วยวิธีธรรมชาติ! ส่วนจิระให้วิธีที่น่าทึ่งยิ่งกว่า เขาบอกว่าให้เธอยื่นข้อแม้ว่าขอมีลูกสองคน
"เรื่องลูก แพรมีข้อแม้ว่า แพรอยากมีลูกสองคน ถ้าหากเราแยกกันแพรไม่อยากให้มีศึกแย่งหลานระหว่างสองตระกูล"
"แพรช่วยพี่ขนาดนี้ พี่ย่อมยินดีทำตามคำขอของแพรอยู่แล้ว" จิณณะพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าอกเข้าใจเธอ
แพรพิมลเกือบจะซ่อนยิ้มไว้ไม่มิด หลังจากที่พิมพ์พลอยแนะนำว่าต้องชวนเขาทำลูกด้วยวิธีธรรมชาติ จิระก็วางแผนเรื่องมีลูกสองคน เมื่อเวลาที่ท้องคนแรกกับคนที่สองห่างกัน เธอก็จะมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับเขาเพิ่มขึ้น ความผูกพันอาจจะทำให้พวกเธอไม่ต้องแยกทางกัน
"แล้วพี่เจ็ทวางแผนเรื่องทำลูกไว้ยังไงบ้างคะ" เธอข่มความเขินอายแล้วถามเขา ในใจเธอภาวนาว่าอย่าให้เขาอยากทำลูกแฝดด้วยแพทย์เลย เพราะเธอคงต้องโน้มน้าวเขาอีกยกใหญ่แน่นอน
"พี่อยากให้ทำด้วยวิธีธรรมชาติ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าว แพรจะโอเคไหม"
หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเบา ๆ หลุบตามองมือตัวเองเพราะเกรงว่าจะเผลอแสดงท่าทางสมใจให้เขาได้เห็น
"แพรตกลงค่ะ แพรเองก็กลัวที่จะไปเจอหมอ มีคนเคยบอกว่าหากตั้งครรภ์ธรรมชาติ จะทำให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก" เธอพยายามแสดงออกว่าเห็นด้วยแบบเนียน ๆ ทั้งที่จริงแล้ว แพรพิมลรู้ตัวว่าหากทำลูกด้วยวิธีธรรมชาติ เธอมีสิทธิ์วูบตายในขั้นตอนการทำลูก เพราะพ่อของลูกมีเสน่ห์มากเกินไป
"คือพี่มีคิวงานยาวจนกลางปีหน้า เพื่อไม่ให้เสียเวลา พี่เลยอยากขอให้แพรส่งวันไข่ตกให้ เพราะพี่อาจจะต้องเคลียร์ตารางงานเพื่อภารกิจนี้"
หญิงสาวตอบรับเสียงอุบอิบ ในใจนั้นคิดว่าชาติที่แล้วเธออาจจะเคยกู้ชาติไว้ ชาตินี้เธอเลยมีวาสนาได้แต่งงานกับนักแสดงที่มีผู้คนนิยมทั้งในและนอกประเทศอย่างล้นหลามจนได้ฉายาว่าเป็นสมบัติของชาติ
"แพรครับ" เสียงที่จริงจังขึ้นของจิณณะทำให้แพรพิมลหลุดจากภวังค์ เธอทำหน้าเหลอหลา ดูเหมือนจิณณะจะรู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขา เพราะใบหน้าของเขาดูเป็นกังวล ไร้รอยยิ้ม
จิระเคยบอกว่ามองออกตั้งแต่หน้าปากซอยว่าเธอคิดอะไรกับน้องชายฝาแฝดของตัวเอง
จิณณะจะรู้บ้างก็คงไม่แปลก
"แพรควรมองว่าการแต่งงานครั้งนี้คืองานที่เราต้องทำร่วมกันให้สำเร็จ แล้วจากนั้นเราก็จะแยกย้าย ไม่อย่างนั้นแพรจะเสียใจ"
สีหน้าละมุนของเขาเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง แววตาอ่อนโยนกลับกลายเป็นความแน่วแน่ น้ำเสียงของเขาตอกย้ำให้เธอได้สำเหนียกว่า กฎที่สำคัญที่สุดที่เขาวางไว้คือห้ามรักเขา เพราะเขาไม่คิดจะมีเธอในอนาคต ถ้าเธอคาดหวังเธอจะเสียใจ
จิณณะเตือนด้วยสีหน้าจริงจังเพราะเป็นห่วง
"ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ แพรคิดว่าแพรมืออาชีพพอ" แพรพิมลรับปากแม้จะรู้ตัวว่าเธอทำผิดข้อตกลงตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม
ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้เธอมีหวัง เธอก็จะหวังและทำให้เต็มที่ที่สุด ในอนาคตจะพลาดหวังไหมค่อยว่ากัน ถ้าถึงวันนั้นจริง ๆ เธอคงเสียใจมาก แต่ก็คงจะเป็นมืออาชีพมากพออย่างที่บอกเขาไปนั่นแหละ
"พี่ยอมรับว่าลำบากใจเรื่องนี้มาก ๆ แต่เห็นแพรยืนยันอย่างนี้ก็สบายใจขึ้นมาหน่อย"
แพรพิมลยิ้มให้จิณณะ เขาคงวางแผนไว้ว่าหากทำตามข้อแม้ของพินัยกรรมครบแล้ว เขาจะแยกทางกับเธอ เขารู้สึกผิดที่ชอบเธอตอบไม่ได้เลยเลือกที่จะให้เงินแทน
ณ ตอนนี้หญิงสาวทำได้แค่เพียงตามน้ำไปก่อน เพราะเธอคิดว่าจะทำให้เขาเปลี่ยนใจมารักเธอให้ได้