ร่างสูงกำยำของแม่ทัพเหวินซูยืนอยู่บนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ไม้ใบพุ่มหนาอายุหลายร้อยปีช่วยพรางกายปกปิดอย่างดี เขาแต่งกายด้วยอาภรณ์สีน้ำตาลสลับดำ สายตาคมดุจ้องมองไปยังภาพความอบอุ่นหน้าเรือนหลีฮวา
ลี่ชิงคลอดบุตรฝาแฝดทารกชายหญิง เหวินซูใช้สายตาคมกริบมองจากระยะไกลเห็นเด็กน้อยทั้งสองกำลังนอนหลับตาพริ้มในวงแขนสาวใช้ ลี่ชิงแต่งกายด้วยอาภรณ์สีชมพูอ่อนมัดผมสบายๆ ขึ้นครึ่งศีรษะ มือเรียวตักขนมเนื้อนุ่มป้อนใส่ปากให้เฉินเซียวหลาง คุณชายเฉินใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้นาง
ลี่ชิงรินชาให้สามี นางลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปอุ้มทารกเพศชายส่งให้เฉินเซียวหลางอุ้ม นางอุ้มทารกหญิง เด็กน้อยลืมตาขึ้นมามองผู้เป็นบิดามารดา
เหวินซูได้ยินเสียงร้องอ้อแอ้ ระดับพลังแข็งแกร่งของเขาได้ยินแม้เสียงแผ่วเบาหรือมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล
ร่างสูงกำมือแน่น เขารู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อนึกถึงลี่ชิง เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเตี๊ยมในคืนนั้น คืนที่เขาและนางถูกพิษกำหนัด นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรกลายเป็นเช่นนี้
เมื่อเขากลับมาจากหัวเมืองทางเหนือ เฉินเซียวหลางกับลี่ชิงกลายเป็นครอบครัวไปเสียแล้ว ความสงสัยในใจยังโหมกระหน่ำในห้วงอารมณ์ แม่ทัพเหวินซูได้แต่ยืนมองภาพครอบครัวของผู้อื่นด้วยใจร้อนรุ่ม เฉินเซียวหลางเปลี่ยนใจนางได้อย่างไร
เหตุใดเรื่องทั้งหมดจึงกลายเป็นเช่นนี้
แม่ทัพเหวินซูสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับสติอารมณ์ เขาบอกตัวเองให้ใจเย็นลงก่อนจะทำการอันใดบุ่มบ่าม แม่ทัพหนุ่มจ้องมองทารกชายหญิง มองลี่ชิงกำลังยิ้ม ท่าทีของนางเปลี่ยนไปดูอ่อนโยนน่ารักขึ้นอีกหลายเท่า รูปโฉมยิ่งงดงามกว่าเมื่อสิบเดือนก่อน ผิวพรรณอวบอิ่มมีน้ำมีนวล ปากอิ่มแดงยิ้มให้เฉินเซียวหลาง ยิ้มละไมเมื่อมองทารกในอ้อมกอด
เหวินซูเห็นทั้งสองอุ้มทารก มือข้างหนึ่งของเฉินเซียวหลางเอื้อมไปแตะเอวลี่ชิง ร่างบางขยับกายเข้าหาอ้อมกอดของสามี ภาพสามีภรรยา ภาพเด็กทารกสมบูรณ์แข็งแรง ภาพเสียงหัวเราะและภาพนั้น
ภาพครอบครัวอันแสนสุข
แม่ทัพไร้พ่ายเร้นกายออกจากต้นไม้ใหญ่ ใช้วิชาตัวเบาสะกิดปลายเท้าลงมายืนข้างรั้ว เขาควบม้าตัวใหญ่สีเทามุ่งหน้ากลับไปจวนแม่ทัพ ความรู้สึกหลากหลายผสมปนเปอยู่ในห้วงความคิด ม้าตัวใหญ่มุ่งหน้าด้วยความเร็วเต็มฝีเท้าผ่านเข้าซุ้มประตูหน้าจวน ทหารยามออกมาต้อนรับท่านแม่ทัพ เขาควบม้าพุ่งเข้าประตูไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ใบหน้าหล่อคม ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแต่งกายด้วยชุดลำลอง มิได้แต่งกายด้วยชุดเกราะอ่อนอย่างเคย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มรับกับคิ้วดาบพาดเฉียง ผิวพรรณเนียนละเอียดคร้ามแดดเล็กน้อย ผิวไม่ขาวจัดเช่นพวกบัณฑิตแต่หล่อเหลาร้ายกาจ ดวงตาดุดันอย่างพญาอินทรีย์บนใบหน้าเรียบเฉย
แม่ทัพเหวินซูจัดว่าหล่อเหลาละลายใจสตรีทั้งสาวทั้งแก่ทั่วเมืองหลวง ปีนี้เขาอายุ 27 ปีแล้ว ยังไม่ได้ตบแต่งฮูหยินเอกเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีสาวใช้อุ่นเตียง เมื่อมีความต้องการก็ไปหอนางโลมบางครั้งคราว
จนเขาได้เจอกับลี่ชิงตอนที่นางถูกขายเข้าหอนางโลมเมื่อสิบเดือนก่อน
ทหารยามกับพ่อบ้านจวนแม่ทัพรีบรี่เข้ามาต้อนรับผู้เป็นนาย เหวินซูกระโดดลงจากม้า เดินเข้าไปในจวน
"ท่านแม่ทัพกลับมาเร็วกว่ากำหนด พวกข้าคิดว่าท่านจะกลับมาอีกราวสองสัปดาห์ข้างหน้า"
"ข้าปราบกบฏหัวเมืองเหนือได้สำเร็จลุล่วง เมืองซางเจี่ยนปลอดภัยแล้ว"
"เชิญท่านแม่ทัพด้านในก่อนขอรับ"
"ยังไม่ต้องบอกใครว่าข้ากลับมาแล้ว" แม่ทัพเหวินซูสั่งการ
"ขอรับ" พ่อบ้านฮงซื่อถงได้แต่กลอกตาไปมา มีแต่ผู้อยากประกาศตนฉลองชัยเมื่อรบศึกชนะ เหตุใดท่านแม่ทัพจึงซ่อนเร้นปิดบังว่าตนกลับมาแล้ว
เหวินซูเดินเข้าอาบน้ำ ในอ่างใบใหญ่กรุ่นกลิ่นหอมของดอกไม้ป่า สาวใช้ยืนรอปรนนิบัติอยู่ด้านนอก ทุกนางต่างอยากเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของแม่ทัพเหวินซู เพียงได้อุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพก็นับว่าเป็นวาสนา แต่ผู้เป็นนายไม่แม้แต่ชายตาแลสาวใช้นางใด
เป็นเรื่องเล่าปากต่อปากว่าแม่ทัพเคยเลี้ยงดูสตรีผู้หนึ่ง
แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเป็นใคร จนป่านนี้ท่านแม่ทัพยังไม่ตกลงปลงใจแต่งฮูหยินเอก สาวใช้ในจวนต่างรอคอยด้วยความหวัง แม้มีหวังเพียงเล็กน้อยดั่งพบบ่อน้ำในทะเลทราย พวกนางยังหวังว่าจะได้ขึ้นเตียงแม่ทัพสักวันหนึ่ง
"ออกไปให้หมด" เสียงกร้าวกระด้างไล่สาวใช้ผู้ยืนทำหน้าระริกระรี้อยู่หลังฉากอาบน้ำ
"เจ้าค่ะ" สาวใช้ต่างลนลานออกไปยืนรอรับใช้อยู่ด้านนอก
เหวินซูนั่งแช่น้ำในอ่าง คิดเรื่อยเปื่อยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบเดือนก่อน
'เขาคิดถึงลี่ชิง'
กายแกร่งลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ร่างเปลือยหนั่นแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อก้าวเท้าขึ้นจากอ่าง เขามองตัวเองในกระจก มองรอยแผลเป็นตามร่างกายอันเกิดจากการรบ รอยจารึกจากศึกสงครามเพื่อปกป้องบ้านเมือง ปกป้องประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข
ทุกครั้งที่กลับมาที่จวนหรือเรียกว่าบ้าน
ไม่มีใครรอเขากลับบ้าน
แม้จวนจะใหญ่โตหรูหราเพียงใดก็ยังเงียบเหงาอยู่เช่นเดิม
เหวินซูแตะไปบนซอกคอด้านซ้าย ครั้งหนึ่งมันเคยมีรอยประทับสีดอกเหมยซึ่งเกิดจากริมฝีปากของหญิงสาว
รอยรักที่ลี่ชิงเคยฝากไว้บนซอกคอเขามันเลือนหายไปนานแล้ว แต่สิบเดือนที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมนางแม้สักวัน
ภาพลี่ชิงโผเข้ากอดเฉินเซียวหลาง กลิ่นขนมอบลอยกรุ่นตามสายลมยามเย็น ภาพเด็กทารกในอ้อมกอดบิดามารดา
เขารู้สึกบางอย่างกับภาพนั้น
'อิจฉา'
ยามห้าย ดึกสงัดได้ยินเพียงเสียงจิ้งหรีดร้องระงม
เหวินซูรินสุราทั้งกาลงคอ มัดรวบผมสยายขึ้นสูง แต่งกายด้วยอาภรณ์สีดำสนิท เขาสวมผ้าพรางหน้าเหมือนจอมโจร แม่ทัพผู้แต่งกายดั่งโจรป่าเร้นกายออกทางหน้าต่าง สะกิดปลายเท้าด้วยวิชาตัวเบาไปตามหลังคาเรือน ทิศที่เขามุ่งหน้าไปคือเรือนหลีฮวาของลี่ชิง