บทที่ 10 สูญดวงใจ

1585 คำ
เหวินซูสะกิดปลายเท้าด้วยวิชาตัวเบามาจนถึงบริเวณจวนสกุลเฉิน ร่างสูงเร้นกายกระโดดลงไปยืนอยู่ข้างหน้าต่างเรือนหลีฮวา บานหน้าต่างเปิดแง้มอยู่ เขามองลอดบานหน้าต่างเห็นลี่ชิงกำลังกล่อมบุตรเข้านอน นางสวมอาภรณ์สีขาว คลุมด้วยชุดคลุมลายดอกมู่ตาน ปล่อยผมสยายยาวสลวยลงถึงกลางหลัง ดวงหน้าหวานกำลังยิ้มเมื่อมองทารก สายตามารดารักใคร่หลงใหลทารกทั้งสองอย่างเต็มเปี่ยม ป้าสมหญิงทำเสียงเล็กเสียงน้อยคุยกับทารก ทั้งกอดทั้งหอมบุตร สูดดมกลิ่นเด็กปนกลิ่นน้ำนมช่างหอมชื่นใจ "ลูกแม่น่ารักที่สุด เฉินซีน้อย โตขึ้นอยากเป็นอะไรครับ" นางพูดกับทารกชายที่กำลังหลับคอพับ ลี่ชิงสมหญิงยังหอมลูกและพูดเสียงสองอย่างต่อเนื่อง นางวางทารกชายลงบนเตียงทารก อุ้มทารกหญิงขึ้นมา พูดเสียงสองอีกเช่นเคย "เฉินเมี่ยวหลาน คนสวยของแม่ ตาสวยมากลูก ฟันก็สวยมาก" ลี่ชิงมโนว่าลูกสาวต้องมีฟันสวยเหมือนพวกดาราทำฟันแบบวีเนียร์ ลี่ชิงแหวกปากของลูกดูเหงือกสีชมพู ดูว่าฟันลูกขึ้นรึยัง เป็นผู้หญิงต้องฟันเงางามเรียงสวย คนยังไม่เคยมีลูก ย่อมเห่อลูกหนักเป็นธรรมดา เหวินซูยืนอมยิ้มมองนางหยอกล้อทารก ลี่ชิงส่งทารกเข้านอนในห้องเล็กด้านข้าง มีเสี่ยวหยุนกับสาวใช้อีกนางหนึ่งเป็นผู้นอนเฝ้าทารก ส่วนนางเดินเข้าห้องนอนที่อยู่ติดกัน ร่างบางนั่งที่โต๊ะกลางห้องหยิบกระดาษกับพู่กันออกมาวาดภาพที่ดินมรดกเน่าที่เพิ่งไปดูมา เฉินเซียวหลางพาลี่ชิงนั่งรถม้าไปดูที่ดินมรดก ที่ดินแห้งแล้งไม่มีธาตุอาหารในดิน นางกำลังวางแผนพลิกฟื้นแผ่นดินแห้งแล้งผืนนั้นปลูกพืชผล ก่อนจะปลูกอะไรต้องวิเคราะห์ดินก่อนเสมอ อย่างน้อยมีที่ดินก็ยังสามารถคิดต่อยอดเป็นเงินได้ ลี่ชิงวาดภาพที่ดินลงในกระดาษแบบเก้ ๆ กังๆ ใครบ้างจะเคยใช้พู่กันวาดภาพเขียนหนังสือในยุคปัจจุบัน เขียนด้วยพู่กันนั้นเขียนยากมาก นางถึงกับถอนหายใจออกมา พลันคิดบางสิ่งที่น่าจะทำเงินให้นางได้ สิ่งที่ยุคนี้ยังไม่มีคือ 'ดินสอ' นางอยากผลิตกระดาษกับดินสอขาย เมื่อมีบุตรถึงสองคน ลี่ชิงอยากหาเงินเลี้ยงดูลูก เลี้ยงดูตนเอง อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เป็นคุณแม่ลูกสอง หากมีเพียงมรดกเน่าผืนเดียว ลูกๆ ต้องลำบากแน่ ลี่ชิงอยากหาเงินไว้ให้ลูกให้มากที่สุด เหวินซูมองลี่ชิงวาดภาพประหลาดในกระดาษ นางวาดภาพแบ่งที่ดินออกเป็นส่วนเพื่อทำการเกษตร ไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่ในบริเวณนั้นน่าจะตัดมาทำเรือนพักขนาดเล็กได้ มรดกเน่าที่นางได้รับเป็นสมบัติติดตัวเพียงชิ้นเดียวถือว่ามีค่าต่อลี่ชิงไม่น้อย ดีกว่าไม่มีอะไรเลย แม้มีเฉินเซียวหลางให้การช่วยเหลือดูแล แต่ลี่ชิงกับคุณชายเฉินยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แม้ในจวนสกุลเฉินจะเรียกนางว่าฮูหยินน้อย ลี่ชิงมีฐานะเพียงผู้อาศัยเท่านั้น ลี่ชิงคิดเพียงอยากยืนด้วยลำแข้งของตนเอง เวลาล่วงเลยผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ลี่ชิงขีดเขียนวาดแบบร่าง วางโครงสร้างการเพาะปลูกในที่ดินเสร็จเรียบร้อย ร่างเล็กเหนื่อยล้าจากการดูแลบุตรทั้งวัน เมื่อปลายยามเซิน เฉินเซียวหลางพานางไปดูที่ดินแห้งแล้งรกร้างบริเวณชายป่า ที่ดินอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ใช้เวลาเดินทางเพียงสองเค่อเท่านั้น ลี่ชิงวางอุปกรณ์เครื่องเขียนไว้บนโต๊ะ เดินทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงอย่างหมดแรง แม่ทัพเหวินซูรอจนนางหลับ เขาปีนเข้ามาทางหน้าต่างมองหญิงสาวกำลังหลับอยู่บนเตียง ร่างแกร่งเดินไปที่ห้องเล็กด้านข้าง เขาจี้จุดหลับสาวใช้ สาวเท้าเดินเข้าใกล้เตียงทารก เด็กทารกกำลังหลับพริ้ม เหวินซูก้มมองเด็กทารกในระยะประชิดจนได้กลิ่นน้ำนมผสมกลิ่นเด็ก เขาเขี่ยนิ้วไปบนแก้มทารกชายตัวอ้วนขาว ทารกเฉินซีพลันลืมตาใสแป๋วขึ้นมากมองหน้าเขา มืออวบป้อมเล็กกระจิริดคว้านิ้วมือแม่ทัพเหวินซู เด็กอ้วนจ้องมองหน้าเขาแล้วยิ้มให้จนเห็นเหงือกสีชมพู ความรู้สึกของเหวินซูยิ่งปั่นป่วนเมื่อได้สัมผัสทารกน้อย เขามองเด็กทั้งสองอยู่เนิ่นนาน ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องลี่ชิงอีกครั้ง เห็นนางกำลังหลับสนิท แม่ทัพเหวินซูนั่งชันเข่าข้างหนึ่งลงหน้าเตียง หยิบผ้าห่มขึ้นคลุมร่างให้นางแผ่วเบา เขามองลี่ชิงกำลังหลับด้วยความอ่อนเพลีย นานเหลือเกินที่ไม่ได้พบนาง เหวินซูก้มมองลี่ชิง 'ความคิดถึง ความโหยหาปะทุในอกอย่างห้ามไม่อยู่ เขาก้มลงจรดริมฝีปากบนแก้มขาวนวล' "พี่คิดถึงเจ้านัก เหตุใดเจ้าไม่รอพี่อย่างที่เคยให้สัญญาไว้" เหวินซูกระซิบเพียงแผ่วเบา แม่ทัพเหวินซูเพียงอยากมาเห็นหน้าลี่ชิงเท่านั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นภายนอก ฝีเท้าหนักแน่นของบุรุษเดินตรงมาที่เรือนหลีฮวาด้วยความเร็วเหมือนรีบเร่ง เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ ประตูเปิดหน้าห้องนอนของลี่ชิงถูกเปิดเข้ามาเต็มแรงจนนางสะดุ้งตื่น สาวน้อยลูกสองงัวเงียยกมือขึ้นมาขยี้ตา ลี่ชิงเห็นคุณชายเฉินเซียวหลางยืนอยู่หน้าประตูห้อง "ท่านพี่ ท่านมากลางดึกมีธุระอันใดกับข้า" ลี่ชิงจ้องมองเฉินเซียวหลาง เขายืนอยู่หน้าประตูกวาดสายตามองรอบห้อง เฉินเซียวหลางปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มอ่อนจางปรากฎบนใบหน้าชายหนุ่ม "เปล่าหรอก พี่เพียงได้ยินเสียงลูกร้องเลยเดินมาดู" เขายังมองรอบห้อง รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ "ข้าหลับสนิทเลย ลูกร้องรึเจ้าคะ" ลี่ชิงขยับกายลุกขึ้นจากเตียง "พี่กล่อมลูกจนหลับไปแล้ว เจ้าพักผ่อนเถิด" เขากล่าวอ้างว่าลูกร้อง เพื่อต้องการเดินเข้ามาในเรือนหลีฮวาในยามวิกาล "หรือท่านพี่จะนอนเป็นเพื่อนข้าเลยที่นี่" นางยิ้มหวานให้ "ให้พี่นอนร่วมเตียงกับเจ้าได้หรือ" เขาเลิกคิ้ว ทำหน้าประหลาดใจ "ได้สิเจ้าคะ ท่านเป็นสามีข้า มานอนด้วยกันเร็วเข้า" ลี่ชิงตบฟูกด้านข้าง เลิกผ้าห่มขึ้น กวักมือเรียกเฉินเซียวหลางมานอนร่วมเตียง เฉินเซียวหลางเดินขึ้นเตียงของนาง สอดกายลงในผ้าห่มผืนเดียวกัน กอดลี่ชิงไว้ในวงแขน เขาหอมแก้มนวล จุมพิตหน้าผากนางแผ่วเบา ดึงผ้าห่มคลุมร่างตนกับร่างภรรยา "ตัวท่านหอมจัง" ลี่ชิงหน้าแดงใจเต้นกระหน่ำ "กลิ่นกายเจ้ายิ่งหอมกว่า" เขาจุมพิตแก้มนางอีกครา มองสตรีในอ้อมกอดด้วยรอยยิ้ม "ข้าเขิน" วิญญาณคุณป้าสมหญิงสารภาพตามตรง "เจ้าจะชินเอง เมื่อเราแต่งงานกันเราต้องนอนร่วมเตียงกันทุกคืน" "ท่านจะแต่งกับข้าจริงหรือ" ลี่ชิงคิดถึงภาพตนเองในชุดเจ้าสาวสีแดง ยิ่งเขินหนักเข้าไปอีก "เรามีบุตรด้วยกันถึงสองคน เราต้องแต่งงานกันให้เร็วที่สุด" "นอนเถิดท่านพี่ พรุ่งนี้ข้าต้องไปดูที่ดินอีกครั้ง" "อย่าหักโหมมาก เจ้าเป็นเมียพี่ พี่ดูแลได้" "ข้าอยากหาเงินช่วยท่าน หาเงินไว้ให้ลูก" "ค่อยช่วยกันคิดทำมาหากิน พักผ่อนก่อน เจ้าต้องดูแลบุตรของเรา ยิ่งเจ้าความจำเสื่อมยิ่งต้องพักให้มาก เจ้าจำอะไรได้บ้างหรือยัง จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อยู่ด้วยกันไปเช่นนี้ถือว่าดียิ่ง" เฉินเซียวหลางเอ่ยกับภรรยา ราวกับว่าอยากให้นางความจำเสื่อมไปตลอดกาล ลี่ชิงหลับไปในอ้อมกอดเฉินเซียวหลาง เขานอนกอดนาง คุณชายเฉินยังลืมตาในความมืด ร่างสูงขมวดคิ้วมองไปรอบห้องรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เหวินซูรีบออกมาข้างนอกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเฉินเซียวหลางเดินเข้ามาในเรือนหลีฮวา แม่ทัพเหวินซูยืนหลบอยู่ข้างพุ่มไม้ข้างเรือน ไม่เข้าใจตนเองว่าเหตุใดแม่ทัพไร้พ่ายผู้เกรียงไกรต้องทำตัวราวโจรเด็ดบุปผา เขาได้ยินว่าลี่ชิงความจำเสื่อม เกิดอะไรขึ้นกับนาง ในระหว่างที่เขาจากไปปราบกบฏหัวเมืองเหนือ แม่ทัพเหวินซูมองเฉินเซียวหลางนอนกอดลี่ชิง ร่างสูงเร้นกายไปข้างหน้าต่างห้องทารก เห็นเด็กทั้งสองกำลังหลับ เขารู้สึกเหมือนสูญดวงใจ "เฉินเซียวหลาง เรามีเรื่องต้องคุยกันเสียหน่อยแล้ว" เหวินซูนึกภาพเฉินเซียวหลางนอนกอดนางหลับไปพร้อมกัน เรื่องในคืนนั้นเหตุใดจึงกลับกลายเป็นเช่นนี้ แม่ทัพเหวินซูสะกิดปลายเท้ากลับจวนแม่ทัพ รู้สึกอยุติธรรมในใจ ในหัวคิดเพียงเรื่องเด็กทารกสองคน เรื่องพิษกำหนัด เรื่องนางความจำเสื่อม ความรู้สึกปั่นป่วนในห้วงความรู้สึกราวกับพายุโหมกระหน่ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม