เมื่อคิดถึงหน้าปัณณวิชญ์ทีไรเธอยิ่งต้องหาใครสักคนมาช่วยให้ลืมเขาไปให้ได้ แม้จะยังรัก แต่สักวันเธออาจจะรักใครคนใหม่ได้เหมือนที่ปัณณวิชญ์เขาทำ เขามูฟออนไปได้ไกล แล้วทำไมเธอต้องจมปลัก อยากวางทิ้งอดีตไว้ข้างหลังและเดินหน้าต่อไปให้ได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุขสักที
สุดท้ายรัญชิดาก็ยอมพูดคุยกับเมธัสมากขึ้น แลกเปลี่ยนไลน์และเบอร์โทรศัพท์ของกันและกันก่อนลาจาก แถมหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จ เมธัสก็ยังอาสาขับรถพาสองสาวไปส่งที่อพาร์ตเม้นต์ด้วย
ภายในรถเหลือเพียงสองพี่น้อง เมธัสขับรถไปบนถนนด้วยความอารมณ์ดี รดาได้แต่มองจ้องหน้าพี่ชายตาไม่กระพริบ
"พี่เสือ พี่ไม่ได้คิดจะเล่น ๆ กับรัญหรอกใช่ปะ?"
"พี่ดูไม่จริงจังเหรอรดา?" ใบหน้าหล่อหันมามองน้องสาวเพียงนิด ก่อนจะหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ
"ไม่รู้สิ รดาแค่เป็นห่วงเพื่อน ถ้าพี่ไม่คิดจริงจังอย่างที่พี่พูดออกมา พี่อย่าไปให้ความหวังเพื่อนรดานะ รัญเขาไม่เคยสนใจใครเลย ไม่เคยคุยกับผู้ชายอย่างที่คุยกับพี่วันนี้เลยสักครั้ง แต่วันนี้เขามาแปลก ไม่รู้สิรดาก็แค่ไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียใจ ไม่อยากเสียเพื่อนด้วย"
"พี่ชอบเพื่อนเราจริง ๆ นะรดา พี่เห็นครั้งแรกพี่มีความรู้สึกว่าเขาใช่เลย แต่เขาดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นี่สิ เขายิ้มเขาหัวเราะ แต่แววตาเขาดูเศร้าแปลก ๆ เขาเคยแฟนไหมนะ"
"เห็นว่าเคยมีนะคะ แต่เลิกกันก่อนเข้ามหาลัย คงเป็นปั๊ปปี้เลิฟมั้ง รัญเขาเป็นคนเงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใครเลยนะพี่เสือ ถ้ารดาไม่เข้าไปทำความรู้จักก่อนก็คงจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันจนถึงทุกวันนี้ แต่ชีวิตเขาก็ดูเศร้าอย่างที่พี่เสือบอกนั่นแหละ เขาเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ญาติพี่น้องก็ไม่มีให้ไปหา ก็อยู่กันกับลิตามาตั้งแต่เรียนมัธยมต้น รายนั้นก็เด็กกำพร้าสู้ชีวิตพอกันค่ะ แต่ลิตาแข็งแกร่งกว่ารัญมาก พี่เสือรู้ไหมตอนเข้ามาเรียนใหม่ ๆ เริ่มรู้จักกัน รัญเขาเป็นโรคซึมเศร้าด้วยค่ะ ชนิดที่แบบร้ายแรงมาก ทำร้ายร่างกายตัวเองเลยนะ พี่เห็นแฟชั่นที่แขนข้างซ้ายเขาไหม เขากรีดข้อมือตัวเอง ถ้าวันนั้นลิตาไม่กลับไปพบเร็ว รัญคงไม่ได้มานั่งพูดคุยกับเราเหมือนวันนี้หรอก"
"โห...ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?" เมธัสถึงกับละสายตาจากท้องถนนหันไปมองหน้าน้องสาวทันทีเลย
"จะฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้วค่ะ รดากับลลิตาก็เลยต้องคอยสับเปลี่ยนกันไปเฝ้าดูแลบ่อยมากช่วงนั้น พาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาบ่อย ๆ แต่ส่วนมากรัญจะไม่ค่อยอยากไปไหนค่ะ ชอบเก็บตัวมากกว่า น่าสงสารมากพี่เสือ รดาขอเตือนเลยนะว่าอย่ายุ่งกับรัญถ้าพี่เสือไม่คิดจริงจัง" รดาถึงกับชี้หน้าคาดโทษพี่ชายอีกครั้ง
"ทำไมฟังดูแล้วน่าสงสารจังเลย แล้วทำไมรดาไม่ชวนเพื่อนมาฝึกงานที่บริษัทเราด้วยล่ะ"
"เขาสองคนเป็นนักศึกษาทุนค่ะ ไม่มีสิทธิ์เลือกที่ฝึกงานเอง มหาลัยจัดการให้ทั้งหมด ก็เลยต้องไปลงที่พีเอ็นวี แต่บริษัทนั้นก็ดีนะคะ ใคร ๆ ก็อยากไปฝึกประสบการณ์ทั้งนั้น เพราะเขารับนักศึกษาแค่ไม่กี่คนต่อปี รดายังอยากไปลงที่นั่นด้วยเลย แถมได้ยินว่าเจ้าของบริษัทหล่อมากด้วยค่ะ"
"บริษัทพีเอ็นวีงั้นเหรอ อืม...พี่คงต้องแวะไปขายขนมจีบรัญบ่อย ๆ แล้วล่ะ เพื่อนเราชอบอะไรบ้าง กลับบ้านไปต้องส่งลิสต์เกี่ยวกับเพื่อนให้พี่ดูด้วยนะถ้าอยากมีพี่สะใภ้"
สองพี่น้องหันมามองหน้ากันอีกครั้ง เมธัสยิ้มอย่างอารมณ์ดี จนรดาต้องยิ้มตอบด้วยความดีใจ
"ได้เลย เดี๋ยวน้องจัดการให้ แต่ขออย่างเดียว อย่าทำเป็นเล่นนะพี่เสือ รัญคือเพื่อนที่ดีที่สุดของรดาเลย รดาไม่อยากเสียเพื่อนดี ๆ ไป"
"นี่เราไม่เชื่อใจพี่งั้นสิ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เถอะงั้น พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ ถ้าวันไหนได้เลื่อนขั้นเป็นแฟน หลังจากนั้นอีกสามเดือนพี่จะขอเขาแต่งงานเลยคอยดูเถอะ"
"นั่น!! จริงจังใช่ไหม จริงจังแค่ไหน?"
เมธัสหันมามองหน้าน้องสาวอีกครั้ง ตอบด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูมั่นอกมั่นใจ
"ล้านเปอร์เซ็นต์ ด้วยเกียรติของด็อกเตอร์เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลย ไม่สิหรือจะเอาตำแหน่งซีอีโอคนล่าสุดรับประกันดี"
"เพอร์เฟกต์ขนาดนี้ เหมาะสมกับเพื่อนน้องที่สุดเลย เชียร์เต็มร้อย หนุนหลังสุดฤทธิ์เลยค่ะพี่เสือ"
แปะ แปะ
รดาถึงกับปรบมือด้วยความพอใจ สองพี่น้องก็หัวเราะออกมาพร้อมเพรียงกัน
หลายวันผ่านไป
"โห มีช่อดอกไม้มาส่งให้ทุกวันเลย ชีวิตกำลังอินเลิฟเหรอคะคุณน้อง?" อัยราถึงกับแซวผู้ช่วยของตัวเอง หลังจากรัญชิดาลงไปรับของและกลับขึ้นมานั่งประจำที่ของตัวเองอีกครั้ง
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะพี่อัย พอดีรัญเพิ่งเริ่มจะเปิดใจคุยกับเขา แต่ไม่คิดเลยค่ะว่าจะส่งดอกไม้กับของกินมาให้ทุกวันแบบนี้"
"เป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ใส่ใจสุด ๆ อยากมีโมเมนต์ผู้ชายส่งดอกไม้ให้บ้างอ่ะ ต้องไปหาที่ไหนนะถึงจะได้แบบนี้" อัยรายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยิบการ์ดที่อยู่ในช่อดอกกุหลาบขาวขึ้นมาเปิดอ่านเสียงดังฟังชัด
'เดี๋ยวเย็นนี้พี่แวะไปรับนะครับ จะพาไปดินเนอร์ ตั้งใจทำงานนะครับคนสวย เมธัส...'
"หวานเว่อร์ ชื่อเมธัสเหรอแฟนเราอ่ะ"
"ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อยพี่อัย แซวอะไรคะเนี่ย" รัญชิดายิ้มส่ายหน้าให้อัยราไปมาเบา ๆ
"แล้วทำไมหน้าแดงจัด รัญเขินอ่ะดิ"
รัญชิดาไม่ทันได้พูดอะไร ร่างสูงใหญ่ของท่านประธานหนุ่มก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทำเอาอัยราต้องรีบกลับไปนั่งลงประจำโต๊ะทำงานของตัวเอง
"งานการไม่มีให้ทำหรือไง ถึงได้เอาเวลางานมาคุยแต่เรื่องไร้สาระกันอยู่แบบนี้"
สายตาคมมองจ้องช่อกุหลาบขาวที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของรัญชิดา เขาจำได้ว่ารัญชิดาชอบดอกกุหลาบสีขาวมาก เขาเคยซื้อให้เธอทุกครั้งในวันพิเศษต่าง ๆ
รัญชิดาไม่ได้จ้องมองหน้าเขาเลย เธอหันไปสนใจจัดเรียงเอกสารให้อัยราตามเดิม ทำเหมือนเขาเป็นเพียงธาตุอากาศที่พัดผ่านไม่มีตัวตน
"รัญชิดา เข้าไปพบฉันข้างในด้วย"
สั่งจบเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องทำงานทันทีเลย
รัญชิดาหันมามองจ้องหน้าอัยราด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
"รีบตามไปสิรัญ เดี๋ยวองค์ลงประทับก่อนหรอก"
"จะบ้าตาย รัญจะโดนอะไรอีกคะวันนี้"
"ไปเถอะ เดี๋ยวก็คงรู้เองนั่นล่ะ"
รัญชิดารีบลุกขึ้น เดินตามเข้าไปข้างในห้องทำงานของเขาอย่างจำยอม