“คุณวีร์แอบคุยอะไรกับลูกน้องคุณสองคนเหรอคะ”
พอนายใหญ่ปรวีร์หันกลับเข้ามา หลังจากสั่งการลูกน้องคนสนิท น้ำตาลได้ทีออเซาะออดอ้อนคนตัวโตอย่างเคยทำอยู่เป็นประจำ
“เรื่องงานทั่วไป”
เขาตอบนางบำเรอสวาทไม่ใส่ใจอะไรมากนักก่อนพาทำงานข้างในออฟฟิศเล็กเพื่อตรวจสอบกำไรของปีเก่าและของปีนี้
ตอนบ่ายลงพื้นที่เก็บผลผลิตด้วยตัวเองและสำรวจแปลงดินที่ใหม่ว่าจะเหมาะขยายพันธุ์เมล็ดกาแฟตัวใหม่หรือเปล่า ซึ่งคนบอกว่าขอติดรถไปด้วยขอนั่งเล่นบนห้องแอร์เย็นฉ่ำอยู่สบาย ไม่ลงออกพื้นที่ตากแดดให้อารมณ์เสีย
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน อัคคีกระซิบกระซาบเจ้านาย ดวงตาคมกริบฉายแววเป็นห่วงออกนอกหน้านอกตาจนหญิงสาวข้างกายสัมผัสได้ว่าเธออาจสูญเสียนายใหญ่ให้แก่คนอื่น
“คุณวีร์จะไปไหนคะ”
คำถามซึ่งไร้คำตอบจากคนรักสนุก นายใหญ่ร้อนรนใจรีบเดินออกจากห้องทำงาน น้ำตาลไม่รอช้าว่าตามหลังเจ้านายอารมณ์ร้อนแต่ถูกอัคคีขัดขวางสร้างความไม่พอใจกับเธอ
“หลีกไป เป็นแค่ลูกน้องรับใช้ตามเจ้านายต้อยๆ ฉันกำลังจะได้เป็นนายหญิงของที่นี่ต่างหาก”
น้ำตาลมั่นอกมั่นใจว่าเขาพิศวาสหลงใหลในตัวเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น
“อย่ามั่นใจเกินตัวไปหน่อยเลย เธอก็เป็นลูกน้องไม่ต่างจากผม คนอย่างนายใหญ่ไม่คว้าก้อนกรวดมาเป็นนายหญิงได้!”
อัคคีเอ่ยราวกับคนรู้อะไรมา เขามีลางสังหรณ์ว่าตำแหน่งนายหญิงคงไม่พ้นนักโทษสาว ผู้ตกเป็นจำเลยแค้นแน่นอน เพียงนายใหญ่แค่ไม่รู้หัวใจตัวเอง
“กรี๊ด ไอ้บ้า แกกล้าด่าฉันเหรอ”
น้ำตาลไม่ยอมให้ใครมาแย่งตำแหน่งนายหญิงของไร่ภูฟ้า เธอจะต้องเป็นเมียที่เขายกย่องเชิดชูคนเดียว
น้ำตาลแอบสะกดรอยตามเดินลัดเลาะเข้าป่าทางลัดติดท้ายไร่ชา กาแฟ หญิงสาวผู้สวมใส่หมวกปีกกว้างและใส่แว่นตาดำปกปิดใบหน้า เห็นบ้านหลังไม้เคยทิ้งร้างหลายสิบปีก่อน บ้านเคยมีความทรงจำกับรักครั้งแรกสมัยเด็กของปรวีร์
“นั่นมันรถของคุณวีร์นี่น่า มาทำอะไรที่นี่”
ดวงตากลมโตเบิกตากว้างเมื่อเห็นนายใหญ่เข้าไปช้อนอุ้มร่างผู้หญิงสลบออกจากบ้านเก่าพร้อมลูกน้องคนสนิทขึ้นรถยนต์ขับไปจากตรงนี้ สีหน้าของปรวีร์เป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นเหมือนคนรัก เธอกำมือแน่นโกรธสุดขีดที่มีศัตรูหัวใจเข้ามาแย่งชิงนายใหญ่ของตัวเอง
“ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร!”
ลับหลังรถยนต์ขับออกจากบริเวณท้ายไร่จนแน่ใจแล้ว น้ำตาลข่มระงับอารมณ์โกรธเก็บกดเอาไว้ ร่างระหงค่อยเดินขึ้นไปสำรวจบ้านร้างที่เขาแอบซุกซ่อนผู้หญิงคนอื่น มือเรียวสวยหยิบกุญแจล็อคประตูบ้านด้วยความแปลกใจ
“ว้าย! นี่มันอะไรกัน”
ข้างในห้องเห็นทำเอาน้ำตาลหน้าถอดสี รอยเลือดเต็มฝาผนังข้างห้อง ข้างๆ ก็มีโซ่ใหญ่เหมือนล่ามสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ ข้างกันมีเตียงฟูกนอนเล็กมีสภาพผ้าปูนอนยับยู่ยี่เหมือนผ่านศึกรักช่ำชองมาพร้อมรอยเลือดจางตรงผ้าด้วยการกระทำรุนแรง
นายใหญ่ปรวีร์เป็นคนชอบเซ็กซ์ซาดิสม์มาก ขนาดตัวเธอเองยังต้องเลือดออกระหว่างมีอะไรกันเร่าร้อนจนบางครั้ง
“คุณวีร์ขังผู้หญิงคนนั้นไว้ที่บ้านไม้เก่าๆ นี้ทำไมกัน หรือว่าจะมาแทนที่นางบำเรอคนโปรดอย่างน้ำตาล ไม่! น้ำตาลไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น”
ผู้หญิงทุกคนที่นายใหญ่พามาอยู่ไร่ภูฟ้าอยู่ไม่ได้สักหนึ่งวันต้องออกจากตรงนี้ไปเพราะฝีมือเธอและแม่สีนวลร่วมมือหาทางกำจัด เพื่อให้น้ำตาลจะได้เป็นหนึ่งในใจของปรวีร์สักวัน เขาต้องลืมรักครั้งเก่าให้จงได้!
_________
เมื่อตอนกลางวัน อัคคีเห็นนักโทษสาวหมดสติ ใบหน้าซีดเผือกพร้อมมีรอยเลือดติดเกรอะตรงหว่างขาขาวเนียน ตามตัวรอยจ้ำเต็มด้วยฝีมือนายใหญ่
เขาตกใจเห็นตัวร้อนสูงขึ้นมาก จึงมารายงานว่าเธอล้มป่วยไม่สบายหนัก ปรวีร์พากิ่งพยอมเข้าในตัวเมืองเร่งด่วน จนตอนนี้ร่างระหงอยู่มือหมอจึงหายห่วง
“คนไข้ขาดสารอาหารหนัก ไร้น้ำล่อเลี้ยงร่างกายจนช็อคหมดสติกระทันหันจึงเป็นไข้สูง และตามตัวบาดเจ็บชอกช้ำมาก หมอกลัวว่าคนไข้จะมีอาการบาดเจ็บภายในจิตใจจนตั้งรับไม่ไหว ตอนนี้เธอปลอดภัยดีแล้วครับ ใครเป็นผู้ปกครองหรือสามีหรือเปล่าครับ”
“มีอะไรเหรอครับ ฉัน เอ่อ เป็นสามีของเธอ”
ปรวีร์พูดขึ้นว่าตนเป็นสามีของกิ่งพยอม ทำเอาลูกน้องแปลกใจ ปกตินายใหญ่ไม่เคยโพล่งปากว่าเป็นสามีของเธอ
“ช่วงนี้คุณงดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หมอตรวจดูแล้วว่าอวัยวะเพศฉีกขาดและควรรักษาสภาพจิตใจภรรยาคุณให้ดีขึ้น หมอกลัวว่าจะกระทบกระเทือนอาจทำให้เธอช็อคอีกครั้ง”
“ครับ”
ปรวีร์พยักหน้าแบบขอไปที หลังจากแพทย์หนุ่มใหญ่ขอตัวรักษาคนไข้รายอื่น อัคคีทนเก็บความสงสัยไม่ไหวจึงเอ่ยถาม
“ทำไมนายใหญ่ถึง....”
“กูแค่ไม่อยากมีปัญหาก็เลยตอบแบบส่งๆ ไปเท่านั้นแหละ อย่าถามมาก ไม่ว่ายังไงกูไม่มีทางเอาผู้หญิงชั่วช้าฆ่าเพื่อนฆ่าลูกกูในท้องฟ้าใสมาทำเมียหรอก”
ปรวีร์ตะโกนบอกลั่นชัดเจน อัคคีหมดข้อข้องใจแล้วไม่สงสัยนายใหญ่อีก ชายหนุ่มรีบก้าวเดินหาห้องพิเศษที่ให้ลูกน้องจัดการเรียบร้อยเพื่อดูอาการนักโทษสาวดื้อพยศ
กิ่งพยอมหมดสติ ใบหน้าหวานเคยแดงระเรื่อน่ารักกลายเป็นสีหน้าซีดเซียว มืออีกข้างผูกติดสายน้ำเกลือ ตามตัวมีรอยแดงจางๆ ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดในใจที่เขาทำรุนแรง ลงโทษเธอแรงจนล้มป่วยหนัก
โชคเข้าข้างอยู่ตัวเมืองจังหวัดเชียงราย เขาไม่อยากเห็นเธอจากไปพร้อมพ่อแม่ตัวเองตอนนี้
ฝ่ามือแกร่งลูบไล้เรือนผมนุ่มส่งกลิ่นหอมละมุนทำเอาเขาหอมสดชื่นอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ริมฝีปากหนาเอ่ยกระซิบข้างใบหูเล็ก เพราะคิดว่าเธอคงไม่ได้ยินคำพูดนี้จากผู้ชายเถื่อน
“ฉันขอโทษ”
ปรวีร์กดจูบลงบนหน้าผากมนแผ่วเบา ตัวเขาเองก็มีส่วนผิดที่เผลอทำร้ายหญิงสาวจนเกินอารมณ์ตัวเองควบคุม เขาเป็นโรคประหลาดบางอย่างที่เก็บซ่อนงำไว้ไม่ให้ใครรู้ คล้ายกับโรคสองบุคลิก
พอตอนกลางคืนเขาควบคุมอารมณ์รุนแรงไม่ได้ และมีอาการร้อนรุ่มต้องการที่ระบายปลดปล่อยอย่างป่าเถื่อน ยิ่งเก็บกดความแค้นเคืองยิ่งเพิ่มอารมณ์จนไม่เป็นตัวของตัวเอง
‘ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้เป็นคนทำฟ้าใส’
“ถ้าเธอเอ่ยปากยืนยันว่าเธอไม่ได้ทำฟ้าใส เพื่อนรักของเธอ แล้วใครกันที่ใจโหดอำมหิตสั่งฆ่าทั้งแม่ทั้งเด็กในท้อง ฉันไม่เชื่อว่าฟ้าใสจะตายด้วยอุบัติเหตุ”
ปรวีร์ไม่อยากรื้อฟื้นอดีตแสนเจ็บปวด ทว่านั่นทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานจนแทบไม่เป็นผู้คน เหตุการณ์ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุเศร้าโศก ฟ้าใสส่งข้อความมาหาเขาบอกว่าเธอกับกิ่งพยอมทะเลาะกันรุนแรงเรื่องพ่อเด็กในท้อง
อ้างว่าเพื่อนรักไม่เชื่อว่าเธอท้องกับปรวีร์และคิดว่าท้องกับชายอื่นจึงคิดหาทางจับเขา จากนั้นฟ้าใสเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วยการถูกรถบรรทุกสิบล้อขับฝ่าเข้ามาอีกทางทำให้เธอเสียชีวิตดับคาที่
เขาเสียใจหนักสูญเสียแฟนสาวและเสียชีวิตอันบริสุทธิ์ที่เข้าใจว่าเด็กในท้องที่ตายคือลูกของตัวเอง เขาได้รับข้อความอีกอันจากโทรศัพท์ฟ้าใสที่ยังไม่กดส่งไปเพราะเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ข้อความนั้นทำให้ตัวเองปักใจว่าเป็นฝีมือกิ่งพยอม เพื่อนรักทรยศหักหลังกันได้ลงคอ
‘ช่วยฟ้าใสกับลูกด้วยค่ะคุณวีร์ กิ่งเกลียดฟ้า มันไม่ต้องการให้ฟ้ารักกับคุณวีร์ กิ่งขู่จะฆ่าเด็กในท้องฟ้า ฟ้ากลัวมากเลยค่ะ ฮึก ฮือ ๆ’
“กิ่งพยอม หวังว่านั่นคงไม่ใช่ฝีมือเธอหรอกนะ”
................
กิ่งพยอมรู้สึกตัวขึ้นมาภายในยามเช้าของวันใหม่ ภาพจำสุดท้ายก่อนเลือนรางดับวูบลงไปเธอหมดสติเพราะขาดข้าวขาดปลา แม้แต่น้ำสักหยดเดียวก็ยังไม่ตกถึงท้องมาเป็นอาทิตย์หนึ่ง
เธอเห็นว่าตัวเองนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล ทำไมเธอไม่ตายไปเสียตอนนี้ จะได้ไม่ต้องเจอนรกแสนทรมาน แม้แต่หน้าผู้ชายคนใจทราม เธอยิ่งไม่อยากมอง!
“ตื่นแล้วเหรอ อยากดื่มน้ำมั้ย เดี๋ยวฉันป้อน”
ปรวีร์ต้องการไถ่โทษหญิงสาวที่เขาเป็นต้นเหตุทำร้ายเธอ
“มะ ไม่ต้อง”
กิ่งพยอมพยายามต่อต้านแต่ไม่เป็นผล เสียงแหบแห้งเปล่งออกมาอย่างเบาหวิว
“พูดก็แทบไม่มีเสียง อย่าดื้อ”
น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยขึ้นแล้วหยิบแก้วน้ำใส่หลอดเอาไว้เพื่อง่ายต่อการป้อนน้ำคนไข้สาวจอมดื้อด้าน
“นายวีร์ทำแบบนี้ทำไม”
หลังจากจิบน้ำพอให้ชุ่มคอ กิ่งพยอมรู้สึกดีขึ้นมากเล็กน้อยแอบแปลกใจที่ปรวีร์ทำดีกับเธอ ราวกับเขาเปลี่ยนไปคนละคนไม่เหมือนคนโหดร้ายอยู่ที่ไร่ภูฟ้า
“ฉันอยากขอโทษที่ฉันทำร้ายเธอมากเกินไป ฉันผิดเอง ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้”
เพียะ!
“คนเลว ถ้านายสำนึกผิดกับฉันจริงก็ควรปล่อยฉันกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่ในแดนนรกที่นี่นี้อีก นายจะปล่อยฉันไปได้มั้ยล่ะ นายวีร์”