2

1708 คำ
“แล้วนี่แกอยู่ไหน” ตุลยวัตรถามด้วยความเป็นห่วงบ้างหลังจากที่เธอเงียบไป “อยู่ที่เลานจ์องเดอะสกาย” เธอหมายถึงโรงแรมหรูระดับห้าดาวย่านใจกลางเมือง “แกมาหาฉันหน่อยสิ” ตอนท้ายหญิงสาวขอร้องอีกฝ่ายอย่างสิ้นหวัง ทว่าปลายสายกลับมีท่าทีอึกอัก “แก...ฉันขอโทษนะ แต่ฉันไปไม่ได้” สุดท้ายตุลยวัตรก็อ้อมแอ้มบอกมาจนได้ “เฮ้ย! ทำไมมาไม่ได้! แกเป็นคนเดียวที่ยังว่างนะอีตุล แกไม่ห่วงฉันเหรอวะ นี่ฉันกินไปเจ็ดแก้วแล้วนะเว้ย” จินดาหราโวยวายทันทีเมื่อผิดจากที่คาดหวังเอาไว้ “ฉันอยู่พัทยา จะกลับไปทันได้ยังไงล่ะยะชะนีนี่!” อีกฝ่ายแว้ด กลับจนได้ “แล้วก็ไม่ต้องกินเหล้าต่อเลยนะ กลับบ้านไปนอนซะ” “แต่ฉันอยากจะเมา! อยากจะลืมภาพอีสองคนนั้น ถ้าไปนอนคืนนี้หลอนตายแน่” ภาพสองคนนั้นยังติดตาเธออยู่เลย สลัดยังไงก็ไม่หลุดพ้น หลอนยิ่งกว่าเจอผีตัวเป็นๆ เสียอีก! “ไม่ตายหรอก” ปลายสายตัดบทง่ายๆ ก่อนจะพูดเอาใจเธอต่อไปว่า “แล้วพรุ่งนี้จะพาไปรดน้ำมนตร์ล้างตา ไหว้พระสิบแปดวัดเลยถ้าแกว่าเก้าวัดมันไม่พอน่ะ!” “ไม่เอา!” จินดาหราปฏิเสธเสียงแข็งทันที ตอนนี้ไหว้ทั้งประเทศก็ไม่รู้จะช่วยเธอได้หรือเปล่า ยิ่งคิดยิ่งเกลียดที่ตัวเองกลายเป็นวัวควายให้สองคนนี้สนตะพายสวมเขามานานเท่าไรก็ไม่รู้! “เอ๊ะ! อีชะนี!” เพื่อนสนิทร้องใส่เธออย่างขัดใจ “เพื่อนจะได้แดกผู้ฝรั่งหล่อล่ำแล้วนะ อย่าเร้าหรือ! กลับไปบ้านไป ถ้าอยากมากนักโทรชวนพี่จีนสิ คงรีบแจ้นมาหาแกทันทีที่เรียกน่ะ” ข้อเสนอนั้นทำให้จินดาหราเบะปากราวกับคนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “บ้าเหรอ! จะให้กินเหล้าแล้วให้พี่ชายปลอบนี่นะ มันไม่ใช่ปะวะ” เธอย้อนถามเสียงสูง แล้วไม่รอคำตอบจากอีกฝ่ายก็คร่ำครวญต่อไปว่า “ทำไมชีวิตอีจินนี่มันอาภัพนักวะ เพื่อนก็มีกับเขาแค่หยิบมือยังถูกเทจนได้! สมกับที่ใครๆ มันก็เรียกลับหลังว่า ‘จินนี่สายเท’ จริงๆ นั่นแหละ! เพราะฉันโดนทุกคนเททิ้งตลอดเลย โฮ!” ตอนท้ายเธอแกล้งร้องไห้เสียงดัง แล้วไม่รอให้ตุลยวัตรด่าอะไรกลับมา รีบชิงตัดสายแล้วประชดทุกคนด้วยการปิดเครื่องตัวเองไปอย่างรวดเร็ว “น้อง!” หญิงสาวกวักมือเรียกบาร์เทนเดอร์อีกครั้ง “พี่ขออีกแก้วนะ!” “แต่ว่าพี่กินไปสิบแล้วนะฮะ ผมว่า...” “แค่นี้ยังไหว พี่ยังกินได้อีก นี่สายแข็งนะ รู้เอาไว้ด้วย!” หญิงสาวตบอกพลางสั่งเสียงเข้ม จนบาร์เทนเดอร์คนนั้นต้องยอมเติมให้เธออีกแก้วจนได้ “เอ๊ะ” จู่ๆ เพื่อนร่วมโต๊ะของเขาก็ร้องขึ้นราวกับตกใจกับอะไรสักอย่าง ทำให้โนอาห์ขมวดคิ้วเล็กๆ แต่ก็ยังมีท่าทีเรียบเฉยเป็นปกติ ปล่อยให้ หม่อมราชวงศ์พิริยาธร จันทรัชต์ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเคนเดล คิงสตัน ญาติของเขาและยังเป็นเพื่อนของเพื่อนเอ่ยขอตัวอย่างสุภาพก่อนจะตรงดิ่งไปหาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก เธอนั่งอยู่เพียงลำพังที่เคาน์เตอร์บาร์ แต่เพราะเขานั่งหันหลังให้เธอโนอาห์จึงไม่สังเกตเห็นหญิงสาวมาก่อน โนอาห์เอี้ยวตัวไปมองตามร่างสูงของหม่อมราชวงศ์พิริยาธรที่เข้าไปทักทายกับผู้หญิงคนนั้น เขาทำท่าคล้ายกับจะเชิญชวนให้มานั่งด้วยกัน แต่คุยอะไรกันก็ไม่รู้ผู้หญิงก็โบกมือว่อนที่เห็นชัดเจนว่าปฏิเสธ หลังจากคุยกันอยู่อีกสองสามประโยค หม่อมราชวงศ์พิริยาธรหรือที่เขารู้จักในชื่อพอลก็เดินกลับมาหาเขาตามเดิม “ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมเจอน้องสาวของเพื่อนสนิทเลยเข้าไปทักทายหน่อย เห็นเธอนั่งคนเดียวแล้วผมเป็นห่วง แต่พอบอกว่ากำลังรอเพื่อนก็เลยสบายใจขึ้นมาหน่อย” โนอาห์ไม่ตอบอะไร นอกจากเหยียดยิ้มมุมปากให้คู่สนทนาเป็นเชิงรับรู้เท่านั้น ก็เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา สนใจไปก็เท่านั้น มหาเศรษฐีหนุ่มคิดอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเลิกให้ความสนใจสิ่งอื่น แล้วหันมาพูดคุยกับพิริยาธรต่อด้วยเรื่องทั่วไป โดยไม่มีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่เป็นจุดประสงค์หลักของการมาเยือนประเทศไทยของเขาในครั้งนี้ เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา... ทว่าดูเหมือนจะไม่ถึงเวลาจริงๆ เสียแล้ว เพราะสนทนากับ พิริยาธรอย่างเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปีไม่เท่าไร อีกฝ่ายก็ต้องขอตัวกลับเพราะมีเรื่องด่วน เนื่องจากคนที่บ้านเกิดอุบัติเหตุ โนอาห์กับอีกฝ่ายจึงนัดแนะเจอกันพรุ่งนี้แทน หม่อมราชวงศ์หนุ่มขอโทษขอโพยอย่างรู้สึกผิดอีกครั้ง กระทั่งโนอาห์ต้องรีบบอกว่าไม่ต้องสนใจเขามาก สุดท้ายหนุ่มไทยจึงยอมออกไปจนได้ และเมื่อได้นั่งอยู่คนเดียว เขาจึงได้มองรวจไปรอบๆ เลาจน์หรูหราบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเดอะสกายพาเลซ แล้วก็ได้เห็นว่าตอนนี้ยายน้องสาวของเพื่อนของพิริยาธรจะมีเพื่อนมาร่วมโต๊ะจนได้ แม้เขาจะจำได้ว่าไอ้หมอนั่นมันนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าไม่น่าจะใช่ ‘เพื่อน’ ที่อีกฝ่ายบอกว่าจะรอนั่นเอง โนอาห์จิบบลัดดี้ แมร์รี่ในมือตัวเองต่อไป นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจเสียหน่อย... “ขอบคุณ” จินดาหรากระแทกเสียงใส่อีกฝ่ายบ่งบอกว่าเธอเริ่มรำคาญเขามากขึ้นทุกที “แต่ไม่ต้อง!” พูดจบเธอก็หันหลังให้อีกฝ่าย ทว่าแทนที่เขาจะยอมฟังคำปฏิเสธของเธอ ผู้ชายคนนั้นกลับยังตื๊อไม่เลิก เขายังคงฉีกยิ้มที่คิดว่าทำให้ตัวเองดูดีออกมา ก่อนจะเลื่อนแก้วเบียร์ที่เขาสั่งมาให้เธอพลางคะยั้นคะยอว่า “สักนิดน่า...อย่างน้อยก็อย่าทำให้ผมเสียความตั้งใจเลยที่อยากจะเลี้ยงคุณ” “ฉันมีปัญญาจ่ายค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบ ไม่ปรายตามองแก้วเบียร์ที่อยู่ตรงหน้า “ถ้าคุณไม่กินมัน ผมก็จะนั่งตรงนี้แหละ ยังไงก็อยากรู้จักคุณจริงๆ นะ” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม เวลาอื่นจินดาหราคงจะดี๊ด๊ากระพือปีกที่มีผู้ชายหน้าตาดีเข้ามาจีบมาอ่อยให้ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เธอเซ็งเกินกว่าจะรับไมตรีจากใคร โดยเฉพาะพวกผู้ชายหน้าตาดี! “ถ้าฉันกินหมดแล้วคุณจะไปใช่ไหม” เธอถามเขาด้วยความรู้สึกรำคาญที่เพิ่มมากขึ้นทุกที ก่อนจะหันไปกวักมือเรียกบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ปราดเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว พร้อมกับสั่งว่า “น้อง พี่ขอเบียร์ขวดนึง” “ผมสั่งให้คุณแล้วนี่” อีกฝ่ายประท้วงเมื่อเห็นว่าเธอสั่งมาใหม่ ซึ่งจินดาหราไม่ตอบอะไร แต่เลื่อนมันกลับคืนไปให้เขา เธอถูกสอนมาว่าไม่ให้ดื่มอะไรจากคนแปลกหน้า ถึงตอนนี้จะกรึ่มได้ที่แค่ไหน แต่คำสอนของพี่ชายสองคนก็ฝังเข้าเส้นเลือดจนละเลยไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรให้อีกฝ่ายเสียหน้าแล้วพาลหาเรื่องตื๊อเธอยิ่งกว่าเดิม เมื่อเบียร์ที่สั่งถูกนำมาเสิร์ฟ จินดาหราก็ดื่มจนหมดขวดอย่างรวดเร็ว แล้วเอียงคอเลิกคิ้วใส่อีกฝ่ายราวกับจะถามว่า ‘พอใจหรือยัง’ “ฉันดื่มหมดแล้ว คิดว่าเพื่อนๆ คุณคงรออยู่” หญิงสาวพูดตามตรง แต่พ่อหนุ่มช่างตื๊อกลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “งั้น...ผมขอเบอร์โทรศัพท์ได้ไหม ไลน์ เฟซบุ้ค อินสตาแกรม อีเมลก็ได้เอ้า!” อีกฝ่ายรัวช่องทางติดต่อที่คิดว่าจะสามารถติดต่อเธอได้ทุกทางออกมา และแทนที่จะทำให้จินดาหราเขินอาย เธอกลับยิ่งกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย แล้วหาทางออกให้ตัวเองจนได้ “ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เธอหันซ้ายหันขวา หวังจะขอความช่วยเหลือจากพี่ชายธรที่บอกว่าเขานั่งอยู่ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์บาร์เท่าไรนัก แต่เมื่อมองไปยังโต๊ะที่เขานั่งกลับไม่เห็นอีกฝ่าย เธอเห็นเพียงผู้ชายตัวสูงใหญ่มากคนหนึ่งนั่งหันหลังให้เธอแค่นั้น หญิงสาวเลียริมฝีปาก สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ไม่น่ากินเบียร์เพื่อตัดปัญหาเลย... เธอเป็นพวกเมาเบียร์ง่ายมาก และเมาเหล้ายากแต่ถ้าเมื่อไรที่กินสองอย่างพร้อมกัน... เหอๆ หญิงสาวหัวเราะในลำคออย่างแผ่วเบา...ก็สติเธอเริ่มจะไปแล้วยังไงล่ะ! “ทำไมล่ะ” เสียงของผู้ชายน่ารำคาญคนนั้นชักจะลอยออกมาจากที่ไกลๆ มากขึ้นทุกที จินดาหราหลับตาแน่นก่อนจะลืมตาขึ้นมา เธอมองตรงไปยังเพื่อนร่วมโต๊ะของพี่ชายธรเพื่อนสนิทพี่จี แล้วชี้นิ้วไปทางนั้นก่อนจะตอบเขาว่า “ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็น ‘สามี’ ของฉันเอง แต่เราทะเลาะกัน ฉันก็เลยมานั่งตรงนี้ คุณคงไม่อยากเป็นชู้กับเมียชาวบ้านต่อหน้าผัวเขาหรอกใช่ไหม ฉันก็ไม่อยากทำให้คุณเสียหน้าหรอกนะ แต่บอกก่อนเลยว่าผัวฉันเนี่ย...ขี้หึงมาก” อีกฝ่ายดูเหมือนจะช็อกไปแล้ว และจินดาหราก็ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอีกครั้ง ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าในมือตัวเองกับกระเป๋าถือใบเล็กที่วางอยู่ตรงหน้าแล้วเดินล่องลอยไปหาคนที่เธอเพิ่งประกาศบอกว่าเป็น ‘สามี’ โดยไม่รู้เลยว่าการเดินเข้าไปหาเขานั้น จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม