EP.1 ขายตัวโสโครก
เพล้ง
ผัวะ
"ไอ้ระยำ ฮื้อออ"
"กูเหรอระยำ! มึงมากกว่าทั้งที่ไปขายตัวตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น กลับมามีเงินแค่สองพัน อีพิ้ง!!"
"แล้วมึงเสือกอะไรด้วยก็แค่ผัวที่ขี้เมาเกาะกูแดกไปวันๆ เหมือนแมงดา"
เพียะ!!
"โอ๊ยยย ปล่อยกู ฮื้อ"
เสียงข้าวของแตกกระจายพร้อมเสียงทุบตีกันใน อะพาร์ตเมนต์เก่า ภายนอกสีอาคารหลุดลอกสนิมเขรอะรวมทั้งภายในห้องสี่เหลี่ยมด้านก็เช่นกัน
"อีผึ้ง! มึงอยู่นี่เอง"
"พะ พ่อจ๋า"
"มึงมาดูแม่มึงนี่กูตบนิดเดียวสลบเหมือด ฮ่าๆ"
ดวงตาสาวน้อยวัยประถมจ้องมองเลือดสีแดงไหลเลอะพื้น สภาพของผู้เป็นแม่ยับเยิน
"เก็บกวาดห้องให้สะอาดเดี๋ยวแขกแม่มึงมาจะตกใจ! เหอะ กูไปก่อน" บุหรี่มวนถูกจุดคาบโดยที่คราบเลือดยังเปื้อนเสื้อที่สวมใส่ ชายวัยกลางคนแสยะยิ้มก่อนจะหันหน้ามาพูดกับลูกสาว "ดูไว้นะอีผึ้ง ใครที่ไม่เชื่อฟังกูมันจะมีสภาพแบบนี้"
แกร๊ก
หลังจากพ่อเดินจากไป ผึ้ง รีบวิ่งไปเรียกแม่ที่นอนอยู่ เธอคว้าผ้าชุบน้ำเช็ดบนใบหน้าจนฟื้นสติ หลายนาทีต่อมา
"แม่เจ็บไหมคะ ฮึก"
"เจ็บตัวไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจนี่สิ อือ"
"หนูไปต้มข้าวให้แม่นะ"
"ไม่ต้อง! เดี๋ยวแขกกูจะมา มึงรีบเก็บห้องให้อยู่สภาพเดิมแล้วไสหัวไปซะ"
เด็กน้อยว่าง่ายเดินไปหยิบไม้กวาดเก็บเศษที่กระจัดกระจาย มองผู้เป็นแม่อาบน้ำแต่งตัวทาปากสีแดงสดเพื่อรอใครบางคน
ก๊อก ก๊อก
ทันทีที่เสียงเคาะประตูเก่าดังขึ้น แม่ก็หันมาหาลูกสาวพลางบอกสัญญาณบางอย่าง
อ๊าย์~โอว์~อืมม
อิ๊ด อิ๊ด อิ๊ด
"ฮึกกกก"
สะ เสียงนี้อีกแล้ว...ฉันรีบเอามืออุดหูสองข้างท่ามกลางพื้นที่อึดอัด เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีแต่ป่าจึงไม่สามารถไปไหนคนเดียวได้ ทุกครั้งที่มีคนมาหาสิ่งที่ต้องทำก็คือหลบซ่อนในตู้เสื้อผ้า เฝ้ารอจนกว่าเสียงโหยหวนของแม่จะหยุด
บางครั้งก็เหมือนจะนานเพราะฝีเท้าหลายคู่ซึ่งแปลว่ามาหลายคน ฉันไม่เข้าใจหรอกนะเพราะเพิ่งจะอายุสิบขวบ แต่ก็ต้องเชื่อฟังและรับคำสั่งไม่อย่างนั้นจะโดนลงโทษให้อดข้าวอดน้ำ
"ฮื้อ กะ กลัว"
ความมืดมิดกำลังสร้างปมบางอย่างในใจ การทะเลาะตบตีของพ่อแม่ทำให้เด็กน้อยชินชา เวลาผ่านไป จากเด็กประถมสู่การเป็นนางสาวตามคำนำหน้าบัตรประชาชนอายุสิบห้าปีบริบูรณ์
โรงเรียนวัดมัธยมต้น
"ห้าบาทค่ะ" ฉันหอบหิ้วขนมมาขายในตอนเช้าที่โรงเรียน "อันนี้สิบบาทค่ะ"
"ทำมาอีกนะอร่อยดีป้าชอบ"
"ขอบคุณมากนะคะหนูลองทำตามหนังสือ ออกมาก็น่าอร่อยจึงนำมาขายหารายได้เสริม"
"น้ำผึ้งทั้งขยันทั้งเรียนเก่งดีจริงๆ"
"ขอบคุณค่ะ"
ตะกร้าสานที่เต็มไปด้วยขนมถ้วยฟูแสนน่ารักของฉัน ทุกเช้าจะต้องมาโรงเรียนก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ ป้าแม่บ้านมักจะมาเหมาไปกินตลอด เหลือไม่กี่ชิ้นก็ขายให้เด็กนักเรียน
"อีผึ้งเอาอะไรมาขายอีกวะ"
"เดือนก่อนขายไข่เจียวอาทิตย์ที่ผ่านมาขายไก่ย่าง"
"อีกหน่อยก็คงขาย...เหมือนแม่"
เสียงเพื่อนนักเรียนหญิงร่วมชั้นพูดจากระแหนะกระแหนทั้งสายตาเหยียดหยามดูแคลน
"กินขนมถ้วยฟูไหมจะได้เงียบปาก"
"อ้าว อีผึง!!"
กลุ่มนักเรียนหญิงไม่พอใจที่โดนโต้เถียงจึงลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งมาหาผึ้งที่ยืนถือตะกร้าอยู่พร้อมพูดจาเสียดเเทง
"ใครก็รู้ว่าแม่มึงขายตัวได้ยินว่ามาอ้าขาให้ ผอ. เพื่อแลกกับค่าเรียนด้วย อุ๊ย น่าสมเพช"
เคว้ง
ห้องปกครอง
"น้ำผึ้ง พิชญา เธอทำร้ายเพื่อนทำไม" ครูผู้ชายวัยกลางคนไต่สวน "ผลักจนเพื่อนล้มใส่โต๊ะหมู่บูชาพระแรงไปหรือเปล่า"
"หนูไม่ได้เริ่มก่อนนะคะ"
"แต่ถึงยังไงก็ไม่ควร!"
"ขอโทษค่ะ"
ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนเรียกเข้าห้องปกครอง โรงเรียนสำหรับฉันก็ไม่ต่างจากบ้าน อยู่ด้วยความอึดอัดและแค้นใจแต่ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับกรรม
"ยกมือไหว้ขอโทษเพื่อนซะน้ำผึ้ง"
"ทำไมครูไม่ถามสาเหตุก่อนล่ะคะ"
"ไม่จำเป็นต้องถาม! เพราะใครก็เห็นว่าเธอผลักเสาวรสก่อน"
"แต่.."
"ขอโทษสิ!!"
น้ำเสียงตะคอกเริ่มดัง ครูอาวุโสสั่งเสียงแข็ง น้ำผึ้งจำใจหันกลับหลังเพื่อยกมือไหว้เพื่อนร่วมชั้นเรียน ขณะที่อีกฝ่ายส่งยิ้มเย้ยสะใจ
บี เสาวรส ลูกของครูคณิตศาสตร์ ไม่แปลกใจที่ทำไมถึงไม่ถูกต่อว่า ระบบลูกท่านหลานเธอยังมีข้อกังขาทุกยุคสมัยไม่เปลี่ยน
พักกลางวัน
"อีบีมึงนี่เก่งมากดูอีผึ้งหงอยไปเลย" เพื่อนในกลุ่มกำลังกินข้าวกันที่โรงอาหารพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่าน "เอาอีกนะมึงกูชอบที่อีผึ้งโดนด่าทำตัวหยิ่งกระแดะ!"
"คงคิดว่าสวยเต็มประดา แหวะ"
"ใช่ค่ะเพราะมึงสวยกว่ามันมาก"
"กูว่างั้น ฮ่าๆ"
ทั้งกลุ่มพูดคุยกันแต่คล้ายต้องการให้ได้ยิน เพราะสายตาต่างจับจ้องไปยังน้ำผึ้งที่กำลังเขี่ยจานข้าวไปมา เพราะเธอมีหน้าตาแสนน่ารักจึงทำให้ใครหลายคนอิจฉาไม่ชอบหน้า
"อีพวกมาร"
บางอย่างสะท้อนในใจจนต้องสบถออกมา ฉันจับช้อนในมือแน่นมากเพื่อระงับอารมณ์นี้ ทุกครั้งที่ฉันถูกทำร้ายไม่เคยมีใครเข้าข้างหรือรับฟังเหตุผล เมื่อโลกไม่มีความยุติธรรม ทำไมฉัน..ต้องเป็นฝ่ายถูกรังแกซ้ำๆ
กรี๊ดดด
"ครูขาน้ำผึ้งจะฆ่าเสาวรส!!!"