โซดานิ่งเงียบ คิดตามสิ่งที่คนตรงหน้าพูด ประโยคไม่กี่คำแต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ถึงได้ทำให้เธอไขว้เขวได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษแบบนั้นกับหนุ่มรุ่นพี่มาก่อน ถ้าจะมีก็คงเป็นความเกลียดชังเท่านั้น แต่แล้วจู่ๆ หัวใจของเธอก็เต้นแรงเพราะคำพูดชวนใจเต้นแรงไม่กี่คำนั้นได้ไง
เหอะ เขาไม่ได้สนใจเธอจริงๆ หรอก ก็แค่ผู้ชายปากหวานทนความเหงาไม่ได้แล้วคิดจะมาเล่นกับความรู้สึกของเธอเท่านั้น
"พี่อย่ามาพูดจาอยากจะโดนทุบกับโซหน่อยเลย คำพูดของพี่มันเรียกความจริงใจไม่ได้หรอก"
"หึ ใจแข็งใช้ได้นี่ ฉันชักจะสนใจเธอจริงๆ แล้วสิ" โซดาแสยะยิ้มมุมปากเย้ยหยันขึ้นเบาๆ หลังจากที่ได้ยินประโยคยียวนนั่นจากพระพาย
เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าต้องการอะไรจากเธอ แต่การพูดแบบนี้ เหมือนอยากจะโดนประทับรอยบาทากลางอกยังไงอย่างงั้น
ตุบ!
"อั๊ก! ยัยเด็กบ้าเอ้ย! เป็นบ้าอะไรของเธอว่ะถึงได้เล่นถีบยอดอกของฉันเป็นว่าเล่นแบบนี้" พระพายสาดคำพูดด้วยความเกรี้ยวกราดออกไปอย่างนึกโมโห หลังจากที่จู่ๆ ก็ถูกโซดายกเท้าขึ้นถีบกลางอกแบบที่ไม่ทันตั้งตัวจนหงายหลังลงบนพื้นเป็นรอบที่สอง
ทำให้แผ่นหลังของเขากระแทกลงบนพื้นแข็งๆ เต็มๆ ความรู้สึกปวดกลางหลังแทรกเข้ามาทันทีจนเขาต้องเบ้หน้าออกไป ขณะที่โซดาทำเพียงยืนเท้าเอวมองพี่รหัสของตนเองที่กำลังทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าเรียบเฉย
ตอแหล...
นี่คือคำพูดที่เธออยากจะพูดออกไปตอนนี้ ดูสีหน้าเจ็บปลอมๆ นั่นก็รู้แล้วว่าไม่ได้เจ็บจริง อีกอย่างเธอเองก็ไม่ได้ถีบแรงมากนัก การแสดงออกจนหน้าบูดหน้าเบี้ยวขนาดนั้น จึงสรุปได้ว่า อีกฝ่ายกำลังตอแหล
"แอคติ้งเก่งขนาดนั้น พี่ย้ายคณะไหม"
"เหอะ" ทันทีที่โดนต่อว่าว่าเจ็บไม่จริงทั้งๆ ที่แผ่นหลังของเขามันกำลังเจ็บจี๊ดๆ ขึ้นแกนสมองขนาดนี้ เสียงทุ้มในลำคอพร้อมมุมปากบนใบหน้าหล่อเหลาของพระพายก็แสยะยิ้มหยันออกมาทันที ก่อนที่จะยัดกายลุกขึ้นจากพื้นใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มข่มความโมโหของตัวเองไว้ ขณะที่มือทั้งสองข้างก็ตบฝุ่นตามร่างกายออกไปเบาๆ ก่อนที่จะยกมือเท้าเอวจ้องใบหน้าสวยดุตรงหน้าเงียบๆ ข่มความเจ็บกลางหลังไว้ให้นิ่งที่สุด
"เล่นแรงไปหน่อยนะ แต่ไม่เป็นไรฉันชอบ" หลังจากประโยคพวกนั้นถูกปล่อยออกไปจากริมฝีปากของคนตรงหน้า ดวงตากลมโตของโซดาก็ขยับกลอกไปมาท่าทางเบื่อหน่ายทันที ก่อนที่เธอจะเลือกนั่งลงที่เดิมแล้วจับไม้ที่ยังเลื่อยไม่เสร็จขึ้นมาอีกครั้งแทน
"พี่หยุดพูดจาเพ้อเจ้อแล้วนั่งลงทำงานเดี๋ยวนี้ ก่อนที่โซจะกินหัวพี่แทนข้าวเที่ยง" ว่าจบโซดาก็ตวัดสายตาดุๆ จ้องมองคนตัวสูงท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก คนที่ถูกเพ่งมองตาขวางจึงแอบยิ้มกรุ้มกริ่มเบาๆ หลังจากที่ได้เห็นสีหน้านั้นของน้องรหัสก่อนที่จะนั่งลงที่เดิมแล้วทำงานต่อจนเสร็จ
ไม่รู้ว่าร่างกายของเขามันกำลังมีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า จู่ๆ ถึงได้ชอบแกล้งให้รุ่นน้องตรงหน้าทำหน้ายักษ์ใส่ ชอบมากเวลาที่โดนด่ารู้สึกว่าชีวิตมันมีสีสันขึ้นมา มันไม่เงียบเหงา มันดูวุ่นวายดี
เขาคงจะกำลังชอบอะไรที่แปลกใหม่ในชีวิต ถึงได้ชอบกระตุ้นความโมโหของอีกฝ่ายแบบนี้...
"ดุว่ะ แต่ชอบ"
"จึ๊!" พูดประโยคชวนเจ็บตัวจบคนไม่รู้จักหลาบจำอย่างพระพายก็โดนโซดามองค้อนพร้อมทำเสียงไม่พอใจใส่ แต่คนถูกมองแบบนั้นกลับชอบใจไปกันใหญ่ แอบยิ้มกรุ้มกริ่มไม่หยุด
.
.
.
หลายชั่วโมงผ่านไป...
หลังจากที่ซ่อมบำรุงพวกโต๊ะเก้าอี้ที่ผุพังให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง โซดาและพระพายก็ได้จัดการวางเก้าอี้และโต๊ะเรียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สองหนุ่มสาวที่ตั้งใจทำงานกันอย่างขะมักเขม้นได้เห็นผลงานของตัวเองก็อดที่จะฉีกยิ้มด้วยความภูมิใจในตัวเองไม่ได้ จนลืมตัวหันไปยิ้มให้กันพร้อมแปะมือเข้าด้วยกันอย่างอัตโนมัติ
แต่โซดาที่รู้ตัวก่อนรีบหุบยิ้มลงแล้วตั้งท่าจะดึงมือตัวเองออก แต่ก็ไม่ทันเพราะถูกมือใหญ่ของพระพายดึงค้างไว้จนร่างกายเซเข้าหาร่างสูงอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่คิ้วเรียงสวยเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจที่คนตรงหน้าเลือกที่จะไม่ปล่อยมือของเธอจนเกิดการดึงไปมาขึ้น
"พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย ปล่อยมือโซได้แล้ว"
"ไม่ปล่อย มือเธอนุ่มขนาดนี้จับแล้วโคตรรู้สึกดีเลย"
"พี่โรคจิตเหรอ"
หมับ!
สิ้นสุดคำพูดจากริมฝีปากของโซดา ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างของพระพายก็จับเข้าตรงเอวคอดกิ่วของโซดายกร่างกายของเธอขึ้นจากพื้นวางลงบนตู้สูงเท่าเอวของตัวเอง ก่อนที่จะกักขังร่างเล็กด้วยท่อนแขนทั้งสองข้างในวินาทีต่อมา จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับใบหน้าเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างช้าๆ ใช้สายตาสำรวจใบหน้าสวยตรงหน้าที่แอบมีเม็ดเหงื่อใสๆ ผุดตามกรอบหน้าสวยอย่างพิจารณา
สวย...จู่ๆ คำคำนี้ก็ผุดขึ้นมาในสมอง ซึ่งมันก็ค้านไม่ได้เพราะใบหน้าคนตรงหน้า 'สวยจริง' แถมยังมีเสน่ห์ที่ตัวเขาเองก็ต้องยอมรับว่ายากที่จะละสายตาได้ เหมือนยิ่งมองยิ่งจ้องก็ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกดยังไงอย่างนั้น
"สงสัยฉันคงจะโรคจิตจริงๆ" เสียงทุ้มเปล่งออกไปด้วยท่าทางอ่อนโยนพร้อมแฝงรอยยิ้มในดวงตา ขณะที่ดวงตาสวยกำลังสั่นไหวเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้นจากคนที่กำลังใช้สายตามองเธออย่างสื่อความหมาย ซึ่งเป็นสายตาที่ดูเป็นประกายระยิบระยับจนเธอไม่สามารถที่จะสบตาอยู่อย่างนี้อีกต่อไปได้ จึงเลือกที่จะเบือนหน้าหนีแล้วดันหน้าอกของอีกฝ่ายออกเพื่อที่จะโดดลงจากตู้แล้วออกไปจากที่นี่สักที
แต่...
หมับ!
จู่ๆ มือทั้งสองข้างของเธอก็ถูกรวบวางบนหน้าตักของเธอโดยเขา ขณะที่สายตานั้นที่เธอไม่กล้าสบตาเมื่อกี้กำลังจ้องมองเธออย่างไม่วางตา
ให้ตายเถอะ! เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เหตุการณ์มันถึงได้กลายเป็นแบบนี้
"เธอไม่คิดอยากจะเปิดโอกาสให้พี่รหัสตัวเองได้เข้าไปวิ่งเล่นในใจสักหน่อยเหรอ" ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาถามแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่ที่ได้เข้าใกล้น้องรหัสของตัวเอง
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาอยากจะบอกคือ โซดาทำให้เขารู้สึกสนใจท่าทางการเมินเฉยต่อเพศตรงข้ามของเธอมาก เขาไม่เคยพบไม่เคยเห็นและไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ปากดี อวดเก่ง ท้าทาย บอกเกลียดเขาขยะแขยงเขาและไม่เกรงกลัวต่อเขาขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
โซดาเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่กล้าทำในสิ่งที่กล่าวออกมาทั้งหมด
หึ น่าอัศจรรย์จริงๆ
"..."
"ว่าไง..."
"แต่โซไม่อยากได้พี่เข้ามาวุ่นวายในชีวิต" พูดด้วยประโยคแข็งทื่อจบโซดาก็ดึงมือที่ถูกกอบกุมโดยมือของพระพายออก ก่อนจะดันไหล่คนตัวสูงกว่าออกแล้วโดดลงจากตู้เดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนที่ยังทำงานไม่เสร็จตรงอีกฝั่งของอาคารเรียนแทน
พระพายที่หันไปมองตามหลังของโซดาจึงแอบยิ้มกริ่มบางๆ คนเดียว ชอบ เขาชอบท่าทางที่เมินเฉยนั่นมาก รู้สึกเร้าใจดี
ปกติเป็นฝ่ายโดนรุกและเข้าหามาโดยตลอด พอต้องเป็นฝ่ายรุกบ้างก็รู้สึกสนุกดีเหมือนกัน...
"เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกที่รัก"