EP.1 จุดแรก
"ทำบ้าไรไม่กลับบ้าน" ใครบางคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“หาคอนเเทคเลนส์ค่ะ น่าจะปลิวเเถวๆ แถวใต้โต๊ะ” ไลลาตอบกลับ
“สายตาสั้นขนาดนี้เลยเหรอ มึงงมมั่วไปหมด แล้วที่มึงจับตอนนี้อะ ขาเก้าอี้!” ชายหนุ่มตะคอกอย่างหงุดหงิด
“อ๋อ ค่ะ...ขอบคุณ”
หมับ เธอคว้าขาโต๊ะจับเต็มแรง
อึกก
กึกๆ หมึบๆ ไลลายังคลำหาขาโต๊ะ
"อะ เจอละขาโต๊ะ ต้องหล่นแถวๆ นี้เเน่" ไลลาพูดเบาๆ
“มึง...” ชายหนุ่มพูดเสียงแผ่ว
“คุณก็ช่วยหาหน่อยสิคะ ไร้น้ำใจ!” ไลลาบ่นอย่างอดไม่ได้ก่อนจะจับขาโต๊ะลูบขึ้นลง
เธอจับขาโต๊ะไว้แน่น ส่วนอีกมือก็กวาดลูบๆ ไปที่ใต้โต๊ะเพื่อหาคอนเเทคเลนส์
"โอ๊ยย อึกก" เสียงผู้ชายตรงหน้าสะดุ้งเฮือก ร้องโวยลั่น
“จะตะโกนทำไมตกใจหมด!” ไลลาขมวดคิ้ว
“กูจุก...ที่มึงนั่งจับแล้วกระแทกอะ ไม่ใช่ขาโต๊ะ..” ชายหนุ่มพูดเสียงสั่นเครือ
“ก็นี่ไงขาโต๊ะ แข็งๆ แน่นๆ!” ไลลาบีบอีกรอบก่อนจะเถียงกลับ
“อีสัส...ท่อนลำกู !”
_____________
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปี
เคว้ง เพล้ง
เสียงข้าวของหล่นกระจายเต็มบ้าน
ผัวะ ผัวะ
บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง จนเกิดการทะเลาะกันเป็นประจำ สองสามีภรรยาต่างมีเรื่องให้ต้องลงไม้ลงมือกันได้ทุกวัน เนื่องจากสามีติดเหล้าหนัก แม้ว่าทั้งคู่จะมีลูกสาวที่น่ารักด้วยกันหนึ่งคนแต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นได้เลย
"ฮือ ฮึก ฮึก พ่อจ๋าอย่าทำแม่เลย" เด็กวัย 8 ขวบร่ำไห้พร้อมกับร้องขออย่างน่าสงสาร
“อย่าเสือกอีดอกรัก ไปไกลๆ ตีน” พ่อตวาดด่าอย่างรุนแรงก่อนจะผลักเด็กสาวตรงหน้าออก
"ไอ้หมาย ไอ้เหี้ยมึงทำลูกเหรอ" ผู้เป็นแม่ปรี่เข้ามาตะโกนด่าอย่างโมโห
ทั้งคู่ไม่มีใครยอมใคร ต่างตบตีสู้กันทั้งวัน โดยที่ดอกรักถูกขังเอาไว้ในตู้เสือผ้าตลอด จนทำให้เธอกลัวความมืดและที่แคบ
จนกระทั่งวันที่พ่อเธอตายเพราะเหล้า แม่ก็ต้องขายทุกอย่างใช้หนี้ จนต้องเร่ร่อนไปเรื่อยๆ และไปจบลงที่...
ซ่องเจ๊ศรี
"แม่จ๋า เราต้องอยู่ที่นี่เหรอ คนเข้าออกเยอะเลยอะ เห็นคนข้างนอกมองเราแบบไม่เป็นมิตรเลยด้วย หรือเขาไม่ชอบเราจ๊ะแม่ "
ดอกรักในวัย 8 ขวบเอ่ยถามแม่อย่างสงสัยเพราะเจอแต่สายตาที่มองมาอย่างเหยียดหยาม
“มันจำเป็นนะ ไม่ทำก็อดตาย จำไว้นะไม่มีใครดูถูกเราได้ ถ้าหากเราไม่ดูถูกตัวเอง!” แม่พูดพร้อมกับลูบหัวดอกรักเบาๆ
“หนูจะจำไว้จ้ะแม่” ดอกรักเผยรอยยิ้มร่าเริงออกมา เธอฮึดสู้ไม่เกรงกลัวอะไรเพราะแม่คอยสอนเธอให้เข้มเเข็งมาโดยตลอด
หลายปีต่อมา
ในยุคสมัยที่มือถือมีแค่ปุ่มกดธรรมดา ไร้โลกโซเซียล ผู้คนต่างก็อยู่กันอย่างสงบสุข
"ฮะ! มะ...เเม่เป็นมะเร็งเหรอ แล้วเราจะทำยังไงดีแม่" ดอกรักอุทานอย่างตกใจ
“โอ๊ย ก็ไม่ต้องทำไร ตั้งใจเรียน ม.3 ให้จบๆ เถอะอีดอกรัก” น้ำเสียงของแม่ดูแหบแห้งและอิดโรย
“แม่จ๋า แต่หนูเหลือแค่เเม่เเล้วนะ” ดอกรักพูดทั้งน้ำตา
“ไม่จากกันวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องจากอยู่ดี อย่าคิดมากเลย”
แม่พูดพร้อมลูบหัวดอกรักเบาๆ แม้ในสายตาเธอเเม่จะเหนื่อยล้า แต่ก็ต้องทำเป็นเข้มเเข็งอยู่ตลอด ดอกรักน้ำตาคลอได้แต่กอดแม่ไว้นิ่ง
หลายปีต่อมา
แอ่ก แอ่ก แฮ่กๆ
"แม่จ๋า เป็นไงบ้าง อาการแม่ไม่ดีขึ้นเลย" ดอกรักนั่งข้างแม่บนเตียง
“ก็ช่วงนี้ต้องประหยัดเงินเลยไม่ได้ไปรับยาที่โรงบาล”
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ สาวน้อยในวัย 18 ปีได้ตัดสินใจบางอย่างที่หลายคนไม่คาดคิด
"อีดอกรัก มึงจะเป็นกะหรี่เนี่ยนะ!" เจ๊ศรีสะดุ้งเฮือก ไม่อยากจะเชื่อจนต้องถามซ้ำอีกรอบ
“ช่วยหนูหน่อย อย่าให้แม่หนูรู้นะเจ๊ ขอล่ะ” ดอกรักยกมือไหว้อ้อนวอน
“กูเองก็ช่วยอะไรแม่มึงไม่ได้มากนัก ลำพังจะจ่ายค่าเช่าตึกไม้เก่าๆ นี่ก็หนักพอตัวแล้ว แต่ถ้ามึงตัดสินใจแล้วก็ตามนั้น กูจะคัดแขกดีๆ ให้ละกัน ในฐานะที่มึงเป็นเด็กดีขยัน”
ดอกรักออกรับจ้างล้างจานตั้งแต่จบ.ม3 แต่ด้วยค่าเเรงเเสนถูก เธอจึงตัดสินใจมาทำอาชีพขายตัวเพื่อนำเงินไปรักษาแม่
ห้องดอกรัก
ห้องน้ำ
"ฮือ ฮึบ ฮึก" ดอกรักร่ำไห้ร้องสะอึกสะอื้น “อดทนไว้อีดอกรัก อดทนไว้”
ความบริสุทธิ์กำลังจะถูกพรากไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็แลกกับเงินก้อนเเรกที่มากพอจะพาเเม่ไปรักษา เธอจึงต้องจำใจโกหกแม่ว่ามีคนใจดีให้ยืมเงินแทน
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดัง
"อีดอกรัก เร็วๆ แม่มึง!" เสียงเจ๊ศรีตะโกนลั่นหน้าห้องน้ำอย่างตื่นตระหนก
ตึก ตึก ตึก
ดอกรักรีบวิ่งออกไปอย่างเร็วจนถึงห้อง 101 ที่แม่นอนพักอยู่
"มะ.....แม่" ดอกรักปิดปากตัวเอง เธอช็อกอย่างหนักจนแทบล้มลงไปกองกับพื้น
เมื่อแม่มีอาการดีขึ้นจึงรับแขกหาเงิน แต่เพราะอาการป่วยยังไม่หายดีมากนัก จึงทำให้ลื่นล้มจนหัวฟาดขอบเตียงตายคาที่
เวลาผ่านไปสักพัก
"กฎของกู ห้ามเอาสด ห้ามตูด ถ้าเฮี้ยละเมิดคือตาย" ดอกรักพูดอย่างจริงจัง
“เฮียไม่มีไม้โทหรือเปล่าน้องดอกรัก” เฮียพึมพำ
“เออ จะเอาไหม?” ดอกรักถามย้ำอย่างหงุดหงิด
ฉันในวัย 27 ปี ทำอาชีพเเบบนี้มาตั้งแต่เเม่ตาย ไหนๆ ก็อยู่ซ่องถ้าไม่เป็นกะหรี่ก็เป็นอะไรไปไม่ได้แล้ว
ส่วนเจ๊ศรีก็รักและเอ็นดูฉันเหมือนลูกสาว เลยให้รับแขกแค่เดือนละ 10 คนเท่านั้น ทั้งไทย เทศ จีน เหลือแค่นิโกรละมั้งที่ยังไม่ได้ลิ้มลอง
โต๊ม เสียงถีบประตูห้องดัง
"อีเพ็ญ! มึงไปตอแหลแขกกูเหรอว่ากูเป็นเอดส์ ฮะ" ดอกรักตะโกนลั่น
“อะไรของมึงอย่าหาเรื่องนะอีดอก...รัก!” เพ็ญพูดเว้นช่วงขณะมองบน
“เรื่องอิจฉานี่ยกให้มึงที่หนึ่งเลยนะ ตอแหลเก่งนักใช่ไหม ได้ หึ!” ดอกรักสบถก่อนจะเข้าไปลากแขนคนตรงหน้าให้ตามมา
“อ๊ายย อ๊ากก เจ๊ศรีช่วยด้วย อีดอกรักมันบ้าอีกแล้ว” เพ็ญร้องโวยวายตะโกนลั่นห้อง
“กูบ้ากว่านี้ได้อีก กับคนที่รังแกกูอะ!” ดอกรักกระตุกยิ้มมุมปาก
“กรี๊ดดด”
เสียงกรีดร้องดังไปทั่วตึกไม้เก่า เพ็ญเป็นสาววัยเดียวกันกับเธอ ทั้งคู่มักทะเลาะกันเรื่องลูกค้าเป็นประจำ
เธอลากอีกฝ่ายเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะยัดสากกะเบือเข้าไปในร่องของอีกฝ่าย
"อีดอกรักกก!" เจ๊ศรีตะโกนดังลั่นซ่อง