Intro
"ขวัญไม่แต่งค่ะพ่อ ขวัญยังเรียนอยู่อีก พ่อคิดจะทำอะไรคะ"
คนเป็นพ่อมองหน้าลูกสาวคนโตอย่างสงสารจับใจ เขาไม่อยากบังคับให้ลูกต้องแต่งงานเลย แต่ทว่าตอนนี้บริษัทที่เป็นธุรกิจเพียงอย่างเดียวของครอบครัวกำลังประสบปัญหาขาดทุนสะสมอย่างหนัก ทางเดียวที่จะทำให้ครอบครัวไม่ต้องล้มละลายคือขวัญตาต้องแต่งงานกับลูกชายบริษัทคู่ค้าที่เสนอเงินจำนวนมหาศาลเพื่อให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้
"ถ้าขวัญไม่แต่งเราจะไม่เหลืออะไรเลยนะลูก หนูคงไม่เห็นแก่ตัวหรอกใช่ไหม"
ขวัญตามองหน้าคนเป็นพ่อด้วยความเสียใจ น้ำตาเอ่อไหลออกมาเต็มสองแก้มน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง เธอเป็นพี่สาวคนโต มีน้องสาวหนึ่งคนคือแก้วตา แต่พ่อไม่เคยบีบบังคับให้แก้วตาทำอะไรเพื่อครอบครัวแบบเธอ แต่ไหนแต่ไรเธอคือคนที่ต้องเสียสละทุกอย่างจนสุดท้ายแม้แต่ชีวิตคู่เธอก็ไม่สามารถเลือกได้
ตอนที่1 ผมไม่แต่ง
"เป็นไรว่ะ กูเห็นมึงนั่งจ้องโทรศัพท์นานแล้ว"เสือที่เห็นคิณนั่งจ้องมือถือราวกับจะสิงเข้าไป ถามขึ้น
"ป๊ากูเรียกตัวกลับบ้านว่ะ"
"ก็ปกติไหมว่ะ"คิณถอนหายใจหนักๆ เพราะปกติป๊าเขานอกจากเรื่องให้ไปช่วยงานที่บริษัท ก็ไม่เคยสนใจชีวิตเขาสักเท่าไหร่ หากเขาเข้าบริษัทบ่อยขึ้น ก็แทบไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ หากเขาไม่ทำตัวออกนอกลู่นอกทางที่ท่านวางไว้คงไม่เรียกตัวเขาไปพบแบบนี้
"ไม่รู้สิ กูอ่านข้อความแล้วรู้สึกแปลกๆว่ะ"
"อะไรก็เรียกให้มึงเข้าบริษัทไม่ใช่?"
คิณส่ายหน้า ก่อนหันหาเพื่อนอีกคนที่ตั้งแต่มีแฟนแทบไม่อยู่คณะ
"ไอ้เพลิงอ่ะ"
"หึ...ไม่น่าถาม ติดเมียชิบหาย!!"
"ไม่แปลกก็เมียมันสวย"คิณเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ก่อนหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ อัดควันเข้าปอดเพื่อลดความเครียด ช่วงนี้เรียนหนัก โปรเจคก็แน่น ต้องเคลียร์ให้จบภายในเทอมนี้ เพราะเทอมหน้าพวกเขาต้องไปฝึกงานก่อนจบแล้ว
ข่วงนี้ความเครียดส่วนใหญ่ของคิณมักไปใช้ระบายกับเซ็กส์ เขาเลี้ยงเด็กไว้คนหนึ่ง ใช้ระบายความเครียดสะสมจากการเรียน จากครอบครัว ที่มักโดนคาดหวังจากการเป็นลูกชายคนเดียว มีพี่สาวก็เหมือนไม่มีเพราะหนีไปแต่งงานกับชาวต่างชาติ ตอนพ่อส่งไปเรียนต่อ เพื่อหวังให้มาช่วยธุรกิจ
ช่วงนั้นพ่อคิณเครียดมาก เพราะตั้งความหวังกับพี่สาวคนโต ว่าอยากให้แต่งงานกับคนที่ท่านเลือกเป็นพวกลูกชายนักธุรกิจด้วยกัน เมื่อหมดหวังก็ตัดหางปล่อยวัด แล้วเอาความคาดหวังมาไว้กับเขาแทน ส่วนน้องสาวอีกคนก็ยังเรียนแค่มอสี่ยังไม่สามารถบังคับอะไรได้ แถมแม่ยังขอไว้ว่าปล่อยให้ลูกสาวคนเล็กของท่านได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปเถอะ
มือหนากดส่งข้อความหาเด็กเลี้ยงคณะมนุษย์ฯชื่อน้องไอรินเรียนอยู่ปีสอง นิสัยไม่เรื่องมาก เอาใจเก่ง เรียกปุ๊ปมาปั๊บเหมือนตอนนี้ที่เขาได้รับข้อความตอบกลับแทบจะทันที
"เดี๋ยวกูมา"ว่าแล้วก็เดินออกมาทันทีทิ้งให้เสือยืนเกาหัวแกรกๆ
"พวกเหี้ย!!ติดหอย แม่ง!!!ทิ้งกูกันหมด"
ห้องน้ำหลังตึกคณะวิทย์ฯถูกคิณเปลี่ยนให้เป็นสนามอารมณ์ชั่วคราว
"อ๊าสสส พี่คิณ แรงๆค่ะ อ่าา ไอเสียว"
สะโพกหน้าตอกอัดแก่นกายใหญ่เข้าออกร่องรักของไอริณอย่างบ้าคลั่ง ถึงจะไม่คับแน่นเท่าที่ควร แต่ทว่าลีลาของไอริณทำคิณติดใจ ขอเลี้ยงเธอไว้มาเกือบสองปีแล้ว
"ซี้ด ตอดแรงๆ ไอ"มือหนาเลื่อนไปกอบกุมเต้าอวบคัพซี ราวกับจะให้ซิลิโคนไหลออกมา บีบเค้นแรงจนร่างเล็กสั่นสะท้าน ส่งเสียงครางกระเส่าอย่างไม่กลัวว่าใครจะมาได้ยิน
"อ๊าสสส พี่คิณ ไอไม่ไหวแล้ว"
ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก
เสียงเอ็นร้อนตอกอัดอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ตามอารมณ์ของคนกระแทก ที่ไอริณรู้ว่าหากคิณเครียด เธอต้องรับศึกหนัก โดนกระแทกยันเช้าก็มี แต่ทว่าเธอชอบเขาและติดใจลีลาเผ็ดร้อนของเขา ไหนจะท่อนเอ็นใหญ่ยาวที่เธอไม่เคยเจอของใครมาก่อน ทำให้เธอยอมให้เขาใช้เธอระบายอารมณ์เครียดได้อย่างเต็มที่ โดยเธอก็ตอบสนองอย่างดี เอาใจเขาสารพัดเพื่อให้เขาติดใจอยากเลี้ยงเธอไปนานๆ
"เสร็จในปากนะ ซี้ด"ตอกอัดรุนแรงอีกสักพัก ก็ดึงแก่นกายออก รูดถุงยางทิ้ง ก่อนผลักไหล่บางให้นั่งลง อ้าปากกลืนกินน้ำกามขาวขุ่นจนหมด
"อ๊าสส ซี้ด"ไอริณที่รู้หน้าที่ อ้าอมเลียแก่นกายทำความสะอาดจนหมด
"คืนนี้พี่คิณไปหาไอไหมคะ ไอมีชุดนอนใหม่จะอวดด้วย"เสียงหวานของไอริณเอ่ยชวนอย่างยั่วเย้า ขนาดที่คิณและเธอกำลังแต่งตัว
"พี่ไม่ว่าง ต้องเข้าไปหาป๊า ไว้พรุ่งนี้นะ"มือหนาวางบนศรีษะเล็กอย่างเอ็นดู ถึงจะไม่ได้มีความรู้สึกรักกับคนตรงหน้า แต่ทว่าเขาก็ชอบที่เธอเป็นคนว่าง่าย เรียบร้อย ไม่เรียกร้องอะไรนอกเหนือจากที่เขาให้เธอ
"ค่ะ พี่คิณสัญญานะคะ"
แต่งตัวเสร็จก็เดินจากห้องน้ำทันที ทว่าระหว่างทางกลับเจอกับผู้หญิงที่เขารู้สึกไม่ชอบหน้าในความปากดี อวดเก่งของเธอ
"สวัสดีค่ะ พี่คิณ"ปิ่นมุกแฟนของเพลิง เอ่ยทักทายชายหนุ่มรุ่นพี่ ตามประสาคนรู้จักกัน
"ครับ ปล่อยไอ้เพลิงกลับคณะไปแล้วเหรอครับ"เขาถามในขณะที่สายตากลับไปจ้องที่เพื่อนของเธอที่ชื่อขวัญตา
"ค่ะ แล้วพี่คิณไม่มีเรียนเหรอคะ"
"กำลังไปครับ งั้นไปก่อนนะครับ"
ขวัญตามองตามรุ่นพี่เพื่อนของแฟนปิ่นมุก อย่างไม่ชอบใจนัก ที่เขาใช้สายตากวนๆมองเธอ
"พี่คิณนี่เจอกันที่ไร กูเห็นเดินมาจากห้องน้ำทุกที"ลินดาเพื่อนสาวอีกคนตั้งข้อสังเกตุ
"กูเคยเห็นออกมาพร้อมผู้หญิงด้วย"ปิ่นมุกเอ่ยเสริม เพื่อนแฟนเธอคนนี้ภายนอกดูเป็นคนเงียบๆ แต่ทว่ามีนิสัยแปลกๆหลายอย่าง
ขวัญตาที่ยืนฟังเงียบไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร เพียงแต่คิดว่าเขาจะเป็นคนยังไงก็เรื่องของเขา เธอจะไม่เอาตัวไปใกล้ผู้ชายแบบนี้เด็ดขาด
ณ คฤหาสน์หรูราคาหลายร้อยล้านของตระกูลธนหิรัญกิจ ประมุขของบ้านกำลังนั่งรอลูกชายคนเดียวที่เขาส่งข้อความให้มาหา
"กิ่งไม่อยากให้พี่บังคับลูกนะคะ อยากให้ลูกเรียนจบก่อน ขอเถอะค่ะ ทุกวันนี้กิ่งรู้ว่าลูกเครียดมากพอแล้ว"กิ่งกาญจน์เอ่ยขออนิวัตน์มาตั้งแต่รู้เรื่องที่เขาคิดจะทำ
"พี่จะไม่คุยเรื่องนี้กับเธออีกนะ กิ่ง"
น้ำเสียงทุ้มราบเรียบบ่งบอกอารมณ์ของคนฟัง ที่เบื่อจะต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำๆกับภรรยา เหตุที่เขาต้องบังคับลูกชายคนเดียวในเรื่องนี้ เพราะเขากลัวว่าคิณจะไปคว้าผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นเมีย จำต้องตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลม ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
นั่งรอสักพัก คิณก็เดินเข้ามาให้ห้องทำงานของคนเป็นป๊า ใช้สายตามองคนเป็นแม่แปบหนึ่งก่อนเดินไปนั่ง
"ป๊ามีอะไรครับ"เสียงทุ้มราบเรียบเอ่ยถาม โดยไม่ได้มองหน้า
"ฉันจะให้แกแต่งงาน"คิณเงยหน้าขึ้นมองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นป๊าทันที
"ผมไม่แต่ง"ปฏิเสธเสียงแข็ง ในชีวิตป๊าจะบงการเขาเรื่องอะไรเขาไม่ว่า เพราะเห็นใจที่ท่านผิดหวังจากพี่สาวของเขา แต่ทว่าเรื่องนี้เขาไม่ยอม เป็นตายร้ายดีอย่างไรเขาก็ไม่ยอม
"แต่แกต้องแต่ง แล้วไปจัดการเด็กที่แกเลี้ยงไว้ด้วย อย่าให้ต้องถึงมือฉัน"
"นี่ป๊าให้คนตามสืบผมเหรอครับ ผมเป็นลูกนะครับ ไม่ใช่ศัตรูที่ป๊าต้องมารู้ความเคลื่อนไหวของผม"
"เพราะแกเป็นลูกไง ที่ฉันต้องทำแบบนี้ เตรียมตัวด้วย ฉันจะให้แกจดทะเบียนก่อน พอเรียนจบค่อยจัดงานแต่ง"คิณเสียะยิ้มเหยียดอย่างเคียดแค้น นึกพาลโมโหผู้หญิงคนที่เขาต้องแต่งงานด้วย
"ทำไมรีบขนาดนั้นครับ ผู้หญิงที่ไหน ไม่มีปัญญาหาผัวขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ให้ผมจดตั้งแต่วันนี้เลยล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว"
กิ่งกาญจน์นั่งมองคนเป็นสามีกับลูกชายสลับกัน เธออยากจะช่วยลูกชายเหลือเกิน แต่ทว่าด้วยบทบาทของเธอที่แทบไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องอะไรในบ้าน ทำให้ต้องเงียบได้แต่ส่งสายตาสงสาร เวทนาให้กับลูกชาย
"อย่ามาประชดฉัน ที่ฉันทำก็เพื่อแกนะ แกควรจะดีใจ ที่ฉันหาเมียมาให้แก จะได้ไม่ต้องระบายความใคร่ของแกกับใครก็ไม่รู้ พุธนี้ทุ่มตรง นัดกินข้าวกับฝั่งเจ้าสาว วันรุ่งขึ้นก็จดทะเบียนกันเลย จะได้ไม่เสียเวลา"จัดการเสร็จสรรพก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน ทิ้งให้สองแม่ลูกนั่งมองหน้ากัน