สองวันต่อมา
12.10 am.
"มีอะไรเหรอทำไมถึงอยากคุยกับเรา?"
ฉันเงยหน้ามองขิมที่เพิ่งเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งรอเธออยู่ที่โต๊ะใต้คณะมานานเกือบชั่วโมงแล้วอย่างไม่มีความรู้สึกผิดปรากฏบนใบหน้าเลยสักนิด
"เรานัดตั้งแต่สิบเอ็ดโมงทั้งๆที่มีเรียนบ่ายทำไมมาช้าได้ล่ะ?"
"โทษทีนะแต่ชีวิตก็ไม่ได้ว่างเพื่อมาหาใครตลอดเวลาขนาดนั้น"
"งั้นเวลานัดไปก็อย่าตอบสิว่ามาได้"
ขิมหัวเราะใส่ฉันอย่างไม่พอใจก่อนเธอจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงหน้าฉัน ขณะที่ฉันก็ยังคงมองเธอด้วยแววตานิ่งๆตามเคย
"ขอโทษได้ไหมล่ะแยม"
"ไม่ไงถ้าไม่ว่าเราจะได้คุยในกลุ่มให้เสร็จๆ"
"แล้วเรื่องที่ว่าจะนัดมาถามคืออะไรล่ะ?"
ฉันมองหน้าขิมก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เราจะถามเธอเรื่องเงินงานกลุ่มน่ะ เธอเป็นเหรัญญิกนิ"
"แล้ว?"
"ทำไมถึงไปให้พระลักษณ์ออกตั้งสองพันทั้งๆที่งานกลุ่มมันออกกันไม่ถึงสองร้อย?"
ขิมขมวดคิ้วมองฉันทันทีที่ฉันถามไปแบบนั้น และที่ฉันมาถามเธอก็เพราะอยากฟังความทั้งสองข้างไม่ใช่ฟังแต่ทางพระลักษณ์อย่างเดียว
"บ้ารึไงใครมันจะไปเอาเงินเพื่อนมาเยอะขนาดนั้น!?"
"ก็พระลักษณ์บอกแบบนี้ เขาบอกว่าเราเป็นคนบอกให้ไปเอาแล้วจะไม่ต้องมาทำงานก็ได้"
"บ้าแล้วเราว่าแยมอย่าไปเชื่ออะไรพระลักษณ์เลยนะเขาอ่ะเจ้าเล่ห์จะตาย"
"เหรอ?"
"แล้วเขามีไหมล่ะหลักฐานอ่ะจะมาพูดแค่บอกแบบนี้เราเสียหายนะ"
ฉันเม้มปากแน่นและคิดตามที่ขิมพูด เพราะมันก็จริงที่พระลักษณ์พูดแต่ปากไม่มีหลักฐานมาให้ฉันดูแถมยังเดินหนีไปอีก...
"แล้วงานเรานี่ตกลงจะได้ส่งไหมอ่ะเพื่อนคนอื่นฝากถาม"
"ก็ติดอยู่แค่คนเดียวไง"
"ก็เอาออกเลยเถอะอาจารย์คงหางานให้เขาทำแบบเดี่ยวๆได้อยู่"
ขิมบอกอย่างตัดปัญหาก่อนเสียงโทรศัพท์เธอจะดังขึ้น
"ฮัลโหลเตง...อื้อๆเดี๋ยวเขากำลังไปแล้ว...ค่าที่รักรอแป๊บนะ"
ฉันเงยหน้ามองขิมที่ขยับลุกและมองลงมาที่ฉันที่กำลังนั่งอยู่
"วันหลังแยมก็ช่วยมีหลักฐานก่อนจะมาหาเรื่องคนอื่นหน่อยก็ดีนะ เพราะเราเสียหาย"
ขิมว่าก่อนจะเดินกลับออกไปจากคณะขณะที่ฉันก็มองตามจนลับสายตาและก้มลงมองหนังสือรายงานที่วางอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
"เป็นยังไงมึง"
เสียงของแป้งทำให้ฉันเงยหน้ามอง และเพราะวันนี้มีแค่ฉันกับแป้งที่เรียนคลาสเดียวกันฉันเลยมีเพื่อนอยู่บ้างน่ะนะ
"แย่เลยละ ขิมก็ไม่ยอมรับและอีกอย่างกูไม่มีหลักฐานด้วย"
"แต่สองพันก็ไม่ใช่เงินน้อยๆนะเฮ้ย ถึงมันจะไม่น้อยสำหรับเราก็เถอะ"
"ก็ใช่ไงแต่พระลักษณ์ก็ไม่มีหลักฐานอีกอ่ะ"
"แต่วันนี้ขีดเส้นตายส่งนิ"
ฉันเม้มปากและพยักหน้าตอบแป้งก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เพราะหลังจากที่มองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองแล้วพระลักษณ์ก็ไม่ยอมตอบแชทที่ฉันทักไปส่วนตัวเลย คือแค่เข้ามาอ่านยังไม่คิดจะทำอ่ะ
"คงต้องบอกอาจารย์ตามที่กลุ่มเราเห็นแล้วแหละ"
"เออรายงานไปเถอะถึงยังไงอาจารย์ก็คงไม่ใจร้ายขนาดไม่ให้สอบจริงๆหรอก"
"อืม"
ฉันพยักหน้าตอบแป้งก่อนจะกดส่งข้อความไปบอกพระลักษณ์เป็นครั้งสุดท้ายว่าจะรายงานอาจารย์ตามจริงว่าเขาไม่ช่วยงานแล้วค่อยให้เขาไปติดต่อกับอาจารย์เองแล้วกัน เพราะในเมื่อเขายังทำตัวไม่รู้ไม่สนแบบนี้ฉันก็ตามต่อไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
สองอาทิตย์ต่อมา
12.50 am.
"ไงมึงอ่านมาเยอะขนาดไหน?"
"ถึงจะอ่านเยอะขนาดไหนกูก็ไม่พร้อมสอบอยู่ดีไหม"
ฉันหัวเราะขำกับคำตอบของพรีมเบาๆหลังจากที่พรีมเพิ่งเดินเข้ามาหาฉันกับแป้งที่ยืนอยู่ก่อนที่หน้าห้องสอบด้วยท่าทีอิดโรยราวกับคนไม่ได้นอนทั้งคืนยังไงยังงั้น
"อดทนมึงอีกนิดเดียวเราก็สอบเสร็จแล้ว เพราะนี่เป็นวิชาสุดท้ายย"
แป้งว่าอย่างตื่นเต้นขณะที่พรีมก็ขยับตัวเต้นไปด้วย
"เอาไงดีคืนนี้ฉลองไหน?"
"ร้านมึงทำงานพิเศษต่อไหมเนี้ย?"
ฉันเหลือบมองแป้งที่ถามก่อนจะพยักหน้า
"ทำๆ แต่เสร็จไม่ค่ำหรอกถ้าจะไปฉลองก็ตามไปได้"
"เริดเลยดิงั้นไปกินเหล้าร้านนวลจันทร์กัน!"
"โอเคมึงเอารถไปนะจะได้ไปส่งแยมด้วย"
"โอเคดีลล"
ฉันพยักหน้าตอบเพื่อนอีกสองก่อนเราจะเตรียมของเข้าห้องสอบเพราะตอนนี้ได้เวลาแล้ว แต่สายตาฉันดันไปสบตากับร่างสูงคุ้นตาที่ยืนอิงพนังรอสอบอยู่อีกฝั่ง
วันนี้พระลักษณ์ดูแปลกตาไปมาก เพราะเขาแต่งตัวเรียบร้อยซึ่งนั้นมันทำให้เขาดูดีอย่างที่ควรจะเป็น แต่ที่ฉันกำลังสงสัยคือเขารู้รึยังว่าตัวเองโดนตัดชื่อออกจากรายงานเพราะหลังจากส่งเขาก็ไม่เข้าเรียนอีกเลยอ่ะ ถึงจะเรียนอีกแค่สองคาบก็เถอะ
"ไปแยมอาจารย์ให้เข้าละ"
"โอเคๆ"
ฉันละสายตาจากพระลักษณ์และเดินตามเพื่อนเข้าห้องสอบไปก่อนจนหาที่นั่งสอบของได้นั่นแหละ
"เธอไม่มีสิทธิ์สอบวิชานี้นะนายพระลักษณ์"
"ห๊ะ ไงนะครับอาจารย์!?"
เสียงโวยวายที่ดังจากประตูทางเข้าห้องทำให้ทุกคนในคลาสที่กำลังหาที่นั่ง และได้ที่นั่งเตรียมจะสอบแล้วหันมองไปยังพระลักษณ์ที่กำลังยืนถามอาจารย์อยู่
"ผมแจ้งคุณไปแล้วว่าถ้าไม่ช่วยงานในกลุ่มผมจะตัดสิทธิ์สอบ และไม่ใช่ว่าผมไม่ตามเพราะผมถามหาคุณในคลาสแล้ว"
"ดะเดี๋ยวนะครับอาจารย์ ผมช่วยงานกลุ่มอยู่นะ"
"คุณไม่ได้ช่วย"
"นั่นไงหัวหน้ากลุ่มผม"
ฉันชะงักทันทีเมื่อพระลักษณ์ชี้มาที่ฉันจนคนอื่นๆต่างหันมองด้วยความสนใจ..ให้ตายฉันโคตรเกลียดเลยเวลาต้องตกเป็นจุดสนใจแบบนี้
"เธอบอกอาจารย์ไปดิว่าเราช่วยงานอยู่"
"ว่ายังไงล่ะอยากจะบอกอะไรผมเพิ่มไหม?"
ทั้งอาจารย์และพระลักษณ์ต่างมองมาที่ฉันอย่างคาดคั้นจนฉันเผลอกำมือแน่น ขณะที่เพื่อนในกลุ่มงานต่างก็มองมาที่ฉันด้วยความเห็นใจ แต่ถ้าฉันจะไม่ตอบมันก็คงไม่จบ
"เขาไม่ได้ช่วยงานค่ะเขาออกแค่เงิน และหนูกำลังหาเงินที่เขาออกคืน"
"เฮ้ยทำไมพูดแบบนี้วะ!?"
"ผมว่าคุณใจเย็นๆดีกว่าไหม ที่นี่มันมหาลัยถ้าจะมาทำตัวแบบนี้คุณจะไม่ใช่แค่ติดเอฟนะ"
"เหอะ จะทำแม่งไรก็ทำกันไปเถอะ"
ฉันเม้มปากมองพระลักษณ์ที่มองสบตาฉันด้วยแววตาเกรี้ยวกราดในตอนที่จะเดินออกไปด้วยความกลัว และใช่ถึงฉันจะกล้าพูดแต่มันก็ใช่ว่าฉันจะทนกับสายตาน่ากลัวแบบนั้นเวลามองตรงมาได้
สายตาแบบนั้นมันน่ากลัวจริงๆ..
3.45 pm.
"กูละกลัวไอ้วิศวะนั้นมันตามมาหาเรื่องมึงเหลือเกิน"
ฉันหันมองแป้งระหว่างที่เรากำลังลงลิฟต์เพื่อแยกย้ายกันกลับห้องหลังสอบเสร็จ และตอนนี้แป้งก็กำลังเป็นห่วงว่าฉันจะโดนหาเรื่องจากพระลักษณ์เพราะฉันที่ไม่เข้าข้างเขาเหมือนที่ฉันกำลังเครียดอยู่
"มึงอย่าพูดให้แยมมันกังวลดิ อีกอย่างมันจะมาโทษแยมไม่ได้เพราะมันก็ทำตัวมันเอง"
"้ก็จริงแต่สายตา.."
"กูไม่เป็นไรหรอก แล้วอีกอย่างกูก็ไม่ใช่คนผิดแต่กูกลัวอย่างเดียวคือกลัวการเข้าใจผิด"
แป้งกับพรีมต่างมองมาที่ฉันก่อนทั้งสองจะพยักหน้า เพราะตอนนี้คงเข้าใจสิ่งที่ฉันสื่อไปแล้ว...ฉันกลัวอย่างเดียวคือกลัวว่าพระลักษณ์จะคิดว่าฉันเป็นคนเอาเงินที่เขาออกไปใช้ หรือถ้าเขาไม่ได้ออกจริงๆมันก็คงดี
"งั้นไว้เจอกันนะเดี๋ยวจะรีบทำงานแล้วจะตามไป"
"ได้ๆ แล้วถ้าจะให้ไปรับก็บอกนะ"
"เค"
ฉันพยักหน้าให้แป้งและพรีมก่อนจะเดินแยกออกมาขึ้นรถบัสกลับหอ ซึ่งฉันก็ใช้เวลาไม่นานเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่เพื่อไปทำงานพาสทามที่คาเฟ่พี่ตะวัน วันนี้เธอคงต้องวิ่งวุ่นแน่เพราะไม่มีคนว่างไปแทนช่วงที่ฉันลาเลย
แกร๊ง
ฉันปิดประตูห้องพักที่อยู่ภายในหอที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวมหาลัย ซึ่งราคามันก็ไม่แพงมากเพราะเป็นหอพักรวมภายในห้องมันเลยมีขนาดเล็กพออยู่สำหรับคนคนเดียวอ่ะ แต่แค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับคนที่ต้องเชฟเงินอย่างฉันน่ะนะ
เวลาต่อมา
5.56 pm.
เอี๊ยด..
ฉันลงจากรถบัสที่ขับมาจอดพอดีที่หน้าร้านพี่ตะวันก่อนจะรีบเดินเข้าร้าน เพราะคนด้านในร้านที่มีเยอะพอสมควร
"อ้าว..ก็นึกว่าใครคือพนักงานที่มาช้า"
กึ่ก
เสียงคุ้นหูทำให้ฉันที่กำลังจะเดินเข้าร้านชะงักก่อนจะต้องเงยหน้ามองคนที่สูงกว่าที่กำลังเลิกคิ้วมองลงมาที่ฉันคล้ายกำลังขบขันความบังเอิญที่น่าตลกนี้อยู่ ฉันลอบถอนหายใจก่อนจะตอบอย่างใจดีสู้เสือ..ไม่สิสู้คนประสาทคงเปรียบได้ดีกว่า
"ขอโทษนะแต่เราไม่ได้มาช้าเราบอกพี่ตะวันแล้ว และนายก็ช่วยถอยไปหน่อยพอดีเราต้องเข้าร้าน"
"หึ นี่ไม่มีสำนึกเลยถูกไหมที่ทำให้กูติดเอฟน่ะ..รึตอนนี้กำลังสะใจอยู่?"
ฉันขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าที่กำลังย่างกรายเข้ามาหาเรื่องและฉันกำลังพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด จนมีผู้หญิงหน้าน่ารักมากๆคนนึงเดินเข้ามาถามพร้อมกับฉันที่ตอบพระลักษณ์
"อะไรอ่ะพี่เดย์"
"ไม่ได้สะใจอะไรทั้งนั้นแหละ แล้วก็บอกไปแล้วว่าขอโทษเราไม่รู้จริงๆว่าอาจารย์จะทำขนาดนี้"
"ไม่รู้ได้ยังไงในเมื่ออาจารย์แม่งบอกแต่แรกแล้ว ตอแหลว่ะ"
"ไอ้ลักษณ์"
หน้าชานะโดนคนที่ไม่ได้รู้จักดีมาด่าแบบนี้อ่ะ..ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดมองสบตากับพระลักษณ์ที่กำลังมองมาด้วยความโมโห และเขาคงอยากจะตีฉันให้ได้แล้วมั้งดูจากที่เพื่อนเขาต้องเข้ามาห้ามน่ะ
"พี่ลักษณ์เป็นอะไรเนี่ยไปด่าพี่เขาทำไม?"
"ก็เพราะยัยนี่ไงพี่เลยไม่ได้สอบอ่ะวา!"
"ก็บอกไปแล้วไงว่าขอโทษและนายจะมาโทษเราไม่ได้ เพราะนายทำตัวเองทั้งนั้น"
ฉันขัดเขาอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะว่านี่มันไม่ใช่ความผิดของฉันจริงๆ
"เหอะๆ ถ้ามึงไม่ไปพูดกรอกหูว่ากูไม่ช่วยงานเพื่อนจะพากันคิดไหมวะ?"
"ก็นายไม่ช่วยจริงๆ"
ฟึ้บ!
"ไอ้ลักษณ์!"
"พี่ลักษณ์หยุดเลยนะ!"
ร่างกายของฉันขยับถอยไปข้างหลังตามแรงผลักจากพระลักษณ์ทันที และมันดีที่เขาไม่ได้ใส่แรงผลักมากเพราะถ้าเขาทำแรงกว่านี้มีหวังฉันได้ล้มลงไปกองกับพื้นแน่
"พี่เป็นอะไรไหมคะขอโทษแทนพี่ของวาด้วยจริงๆ"
พี่ชายเหรอ...คนแบบนี้มีน้องสาวที่น่ารักขนาดนี้ได้ไงเนี้ย?
"พี่ลักษณ์พี่จะไปไหนน่ะกลับมาขอโทษพี่เขาก่อนนะ!"
"อย่ามายุ่งน่ะวา!"
ฉันมองตามพระลักษณ์ที่เดินเหวี่ยงออกไปจากตรงหน้าร้านด้วยสายตาคิดหนัก เพราะตอนนี้เขาต้องคิดไปแล้วว่าฉันคือต้นเหตุ
"พี่ว่าปล่อยมันไปก่อนมันกำลังโมโหอยู่"
"แต่ก็ไม่น่าทำขนาดนั้นนะพี่เดย์"
น้องสาวของพระลักษณ์วาอย่างคิดหนักก่อนเธอจะหันมามองฉัยที่ยังคงยืนนิ่งอยู่
"วาขอโทษแทนพี่ลักษณ์ด้วยนะคะ ถึงวาจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันแต่พี่ชายวาก็ทำกับพี่ไม่ดีจริงๆ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็ผิดเหมือนกัน"
ฉันตอบน้องสาวของพระลักษณ์ไปก่อนจะรีบเดินเข้าร้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในหัวจะยังคงคิดมากเกี่ยวกับเรื่องเมื่อกี้อยู่ ฉันคิดว่าพระลักษณ์ต้องปักใจเชื่อไปแล้วว่าฉันเป็นคนหาเรื่องเขา
และมันแน่นอนเลยว่าฉันกำลังโดนเขาเกลียด...ให้ตาย ฉันคิดว่าชีวิตฉันกำลังจะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้วแหละ