ปั่ก!
“อ๊ะ! จะทำอะไรน่ะ” ชามีนร้องขึ้นก่อนจะถามออกไปอย่างหวาดหวั่นเมื่อถูกจับหันหน้ากับผนังห้องแต่งตัวโดยมีร่างสูงซ้อนอยู่ด้านหลัง
“เอาเธอไง” น้ำเสียงร้ายกาจดังขึ้นก่อนจะถลกกระโปรงชุดเดรสสูทของเธอขึ้นไปกองที่เอว
“ยะ...อย่านะ!” ชามีนที่ได้ยินคำพูดนั้นพร้อมกับความรวดเร็วของการกระทำของเขาก็พยายามดิ้นสู้และร้องขอเขา
เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ที่นี่เธอจึงไม่ได้กังวลว่าวันนี้จะต้องใส่กางเกงมาเพราะปกติเธอมักจะใส่กระโปรงมาทำงานประจำอยู่แล้ว สุดท้ายมันกลับง่ายกับสิ่งที่เขาทำไปได้ อีกอย่างตอนนี้ข้างนอกยังมีผู้จัดการของเขาอยู่ด้วยนะ เขาไม่กลัวเหรอ
หรือว่าจริง ๆ เขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอแต่นี่คือนิสัยจริงของเขา ไม่อย่างนั้นผู้จัดการเขาก็ต้องเตือนแล้วไม่ใช่เหรอ แต่นี่กลับทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นราวกับเป็นเรื่องปกติ แบบนี้ก็หมายความว่าสิ่งที่เธอพยายามหาคำตอบมาตลอดก็ศูนย์เปล่าอย่างนั้นสินะ
“จะห้ามอะไรนักหนา เคยห้ามได้สักครั้งหรือไง” เวย์ไทม์เอ่ยขึ้นก่อนจะดึงกางเกงชั้นในของเธอลงไปที่เข่าเผยสะโพกผายต่อหน้าเขานั่นทำให้ท่อนเอ็นที่หลับไหลก่อนหน้าเริ่มก่อตัวก่อนจะนำมันออกมาและถูไปยังร่องหว่างสะโพกจนมันแข็งตัว
ตอนแรกเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนี้กับเธอเลย แค่อยากหาเรื่องให้เธอลำบากใจด้วยการมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาก็แค่นั้น แต่ใครใช้ให้เธอจ้องมองรอยแผลนั่นของเขากันล่ะ...แผลที่เกิดจากเธอ
เพราะฉะนั้นมันจึงทำให้เขาที่ไม่ได้คิดจะทำอะไรจึงต้องทำมันแบบนี้
“คุณเวย์ฉันขอร้อง คืนนี้ให้ฉันไปหาคุณก็ได้แต่อย่าทำที่นี่เลยนะ” ชามีนเอ่ยขึ้นอย่างขอร้องจากใจเป็นครั้งแรกพร้อมกับเป็นฝ่ายบอกจะไปหาเขาเองด้วย
“ถึงเธอไม่อยากไปยังไงก็ต้องไปอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คงหยุดไม่ได้” น้ำเสียงเหนือกว่าเอ่ยขึ้นก่อนจะจับขาเรียวแยกออกจากกันกว้างกว่าเดิมดึงเอวคอดให้แอ่นมาด้านหลังรับกับความแข็งของเขาและส่งท่อนเอ็นเข้าไปทันที
สวบบ!
“อึก!” มือบางข้างหนึ่งค้ำผนังห้องไว้ มือบางอีกข้างยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกไปจากห้องแต่งตัวเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่มันเก็บเสียงอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
สวบบ!!
“อื้อ!!” สุดท้ายร่องรักก็ถูกความแข็งใหญ่สอดแทรกเข้ามาในที่สุด เอวคอดถูกบีบไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ก่อนเอวสอบจะทำหน้าที่ของตัวเอง
ปั่ก ปั่ก ปั่ก
“อ๊ะ! อื้อ ๆ ๆ” ชามีนหลุดเสียงร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เพราะเผลอเอามืออีกข้างไปค้ำผนังเมื่อถูกกระแทกไปด้านหน้าก่อนจะพยายามเม้มปากไว้แน่น
“ทนให้ได้ล่ะ ระวังคนข้างนอกได้ยินเสียงครางของเธอนะ” คำเตือนอย่างคนโรคจิตเอ่ยขึ้นพร้อมกับการตอกอัดเข้าออกอย่างต่อเนื่อง
“อื้อ ๆ ๆ ๆ” มือบางค้ำจิกกับผนังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างทรมาน แต่เสียงของเธอที่พยายามกลั้นไว้อย่างสุดทนกลับดูไร้ค่าไปเลยเมื่อเสียงเนื้อกระทบเนื้อกลับดังกึกก้องแทน
“อ่า ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย” เวย์ไทม์กลับพูดขึ้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการกระทำในที่สาธารณะแบบนี้เลยสักนิด ต่างจากชามีนที่กลัวใครจะเข้ามารู้และได้ยินมันจะแย่อยู่แล้ว
แต่มีสำนวนหนึ่งที่ว่า พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เพราะแบบนั้นสิ่งที่ชามีนกลัวสุดท้ายก็เกิดขึ้นเมื่อประตูห้องรับรองได้ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงที่เธอคุ้นเคยดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาดูความเรียบร้อยน่ะค่ะ” พัชชาที่ตั้งใจมาดูความเรียบร้อยและมาหาชามีนแต่พอเปิดประตูเข้ามากลับเจอเพียงแค่ผู้จัดการส่วนตัวของเวย์ไทม์ที่นั่งอยู่บนโซฟาเพียงคนเดียวเธอจึงเอ่ยทักทายขึ้น
“...!” ร่างบางของชามีนชะงักเกร็งขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ทันที
“วาว น่าตื่นเต้นชะมัด” เมื่อเขารับรู้ได้ถึงร่างบางที่เกร็งนิ่งเสียงกระเซ่าก็ดังขึ้นข้างหูเล็กก่อนเอวสอบจะทำหน้าที่ของตัวเองพร้อมความหนักหน่วงที่เพิ่มขึ้น
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“อึก!” ชามีนแทบหลุดเสียงร้องออกมาพยายามยื่นมือไปด้านหลังตวัดเอวสอบของเขาให้เข้ามาแนบชิดร่างกายของเธอนิ่ง ๆ แต่เธอจะเอาชนะแรงของเขาได้ยังไงกัน ยิ่งเธอกลัวเขาก็ยิ่งทำมันออกมา
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“อึก!” ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นกัดฟันฝืนทนไว้อย่างถึงที่สุด
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เธอห้ามไม่ได้เลยก็คือเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่มันดังอยู่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าคนข้างนอกจะได้ยินแล้วหรือยัง แล้วถ้าได้ยินเขาจะคิดยังไงกัน
“ตรงนี้ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงค่ะ คุณชามีนดูแลน้องเวย์ได้อย่างดีเลย” ปูเป้ที่ไม่ได้อยากให้คนอื่นมองเวย์ไทม์ไม่ดีได้จึงเอ่ยขึ้นเพื่อตัดบทขึ้น
“อ่อ แล้วคุณเวย์กับชามีนไปไหนเหรอคะ” พัชชาที่ได้ยินแบบนั้นก็สบายใจขึ้นก่อนจะถามออกมาเมื่อไม่เห็นทั้งสอง
“อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ พอดีเมื่อกี้น้องเวย์เกิดปัญหานิดหน่อยคุณชามีนได้เข้าไปช่วยแก้ไขแล้ว” มันคงโกหกเป็นอย่างอื่นไม่ได้อีกแล้วเพราะศิลปินจะไปไหนได้ในเมื่อไม่ใช่ที่ของตัวเอง
“อ๋อค่ะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกชามีนได้เลยนะคะ” พัชชาที่ได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจไม่น้อยที่เป็นชามีนเข้าไปช่วย สายตาเผลอมองไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างควบคุมไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ดึงสายตากลับมาก่อนจะเอ่ยขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
และเมื่อชามีนไม่ได้ยินเสียงของพัชชาพร้อมกับรับรู้การไปของพัชชาแล้วมันก็ทำให้เธอหายใจออกมาอย่างโล่งอกอีกครั้ง
“เสียดาย รีบไปชะมัด” เวย์ไทม์กลับพูดออกมาอย่างรู้สึกเสียดาย
“ปล่อย!” เสียงของเวย์ไทม์ทำให้ชามีนได้สติอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเย็นอย่างเกลียดชังกับการกระทำของเขา
“ช่วยให้ฉันเสร็จ ไม่งั้นวันนี้ก็คงไม่ได้ถ่าย” เวย์ไทม์พูดขึ้นก่อนจะถอนตัวเองออกแล้วไปนั่งเก้าอี้ในหนึ่งตัวที่วางไว้ในห้องลอง
“...” ชามีนหันกลับมามองร่างสูงด้วยความเกลียดชังอย่างถึงที่สุด แต่สุดท้ายก็ได้แต่ฝืนกลั้นถอดกางเกงชั้นในตัวเองออกและพาตัวเองไปนั่งคร่อมร่างสูงอย่างไม่เต็มใจ
มือบางครอบครองท่อนเอ็นของเขาจ่อยังร่องรักของตัวเองและกลืนกินมันลงไปอย่างเจ็บแค้นที่ใจ
“อ่า” เสียงครางพอใจของเวย์ไทม์ดังขึ้นกับการกระทำของชามีน ถ้ารู้ว่าให้เธอควบคุมแล้วจะเสียวได้ขนาดนี้คงให้ทำไปนานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาอยากสาดใส่ความรุนแรงและทรมานเธอจึงเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างเอง แต่หลังจากนี้คงต้องคิดใหม่แล้ว
พั่บ พั่บ พั่บ
“อึก!” ร่างบางเกาะไหล่แกร่งไว้ประคองตัวเองก่อนจะขยับตัวขึ้นลงบนร่างกายของเขาและรองเท้าส้นสูงของตัวเอง
นิ้วเรียวยาวยื่นมาปลดกระดุมเม็ดบนสองเม็ดเผยร่องอกลึกที่อยู่ภายใต้เสื้อชั้นใน แหวกขอบเสื้อชั้นในลงไปเผยยอดออกสีสวยอย่างอิสระตรงหน้าดันร่างบางไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไปดูดกลืนมันจนเกิดเสียง
“อ๊า” ชามีนหลุดเสียงร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้ ความรู้สึกวาปหวามที่แทรกเข้ามาในร่างกายจนทำให้มวลท้องอย่างควบคุมไม่ได้
ร่องรักตอดรัดแน่นขึ้นก่อนจะพยายามออกแรงที่ขาเคลื่อนไหวตัวเองเพื่อส่งเขาให้ถึงฝั่งฝันจะได้รีบจบรีบออกไปทำงานก่อนจะมีคนอื่นเข้ามาอีก
ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งกอดรัดแผ่นหลังบางก้มหน้าครอบครองยอดอก ฝ่ามือใหญ่อีกฝั่งประคองสะโพกผายของเธอช่วยออกแรงเคลื่อนไหวไม่ให้หยุดหลังจากเขาเองก็ใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มทน สุดท้ายสองร่างก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันอย่างคาดไม่ถึงและเป็นไปในทางเดียวกันจนสามารถส่งกันและกันถึงจุดหมายเดียวกันได้
“หึ! พอมีอารมณ์ขึ้นมาก็ร่านไม่เบาเลยนะ” น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นปรามาศหญิงสาวบนร่างอย่างเย้ยหยัน นั่นทำให้ความหอบเหนื่อยและอารมณ์ที่รู้สึกแปลก ๆ กับการปลดปล่อยด้วยตัวเองเมื่อกี้หายไปแทนที่ด้วยสติอีกครั้ง
“รีบแต่งตัวซะ จะได้เวลาแล้ว” ชามีนดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับความเซจากขาอ่อนแรงที่เธอใช้แรงไปไม่น้อยแต่ก็ทรงตัวได้พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเย็นชาหันมาจัดการตัวเองด้วยท่าทีเรียบนิ่ง
“บอกไปแล้ว อยากให้ถ่ายก็จัดการเอง”