คลั่งไคล้อัยรินทร์ 6.1
เมื่อเข้ามาในลิฟต์ สองมือเรียวบางประสานตรงหน้าแน่น อัยรินทร์เม้มริมฝีปากอวบอิ่มเล็กน้อยอย่างนึกประหม่าเพราะว่าคนที่อยู่ข้างๆ หล่อจนไม่กล้าเงยหน้ามอง แถมยังสูงเสียจนเธอดูเตี้ยไปเลย ทั้งๆ ที่ใส่ส้นสูงตั้งสี่นิ้ว แต่เมื่อยืนเทียบกันแล้วศีรษะยังถึงแค่หัวไหล่อีกฝ่ายเท่านั้น
“น้องอัยย์กินอะไรมาหรือยังครับ?”
เสียงทุ้มเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
“เรียบร้อยแล้วค่ะ...พี่ล่ะคะ?” เธอถามกลับพอเป็นมารยาท ใจจริงอยากจะวิ่งออกจากลิฟต์แทบแย่ แต่ว่าเมื่อตัดสินใจมาแล้ว ก็ไม่อยากมานั่งเสียดายโอกาสเด็ดๆ แบบนี้ทีหลัง
“ยังครับ แต่ถ้าขึ้นไปบนห้องเมื่อไหร่...จะเอาให้เต็มอิ่มเลยล่ะ”
“อ่อ...ค่ะ”
แก้มใสแดงระเรื่อขึ้นมาทีละน้อย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่ประโยคของเขามันดูกำกวมแปลกๆ ยังไงไม่รู้
ตึ๊ง~
กระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก ร่างสูงก็เป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อน เธอเดินตามไปจนถึงห้องสุดท้ายของทางเดิน อีกฝ่ายก็แตะคีย์การ์ด แล้วเปิดประตูพร้อมกับผายมือให้
“ขอบคุณค่ะ” อัยรินทร์ผงกศีรษะให้เล็กน้อย กระชับกระเป๋าแน่นแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างตื่นเต้น
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะได้เปิดประสบการณ์วันไนต์กับผู้ชายในแอพฯ สามคนพร้อมกันจริงๆ!
“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูชื่ออัยย์นะคะ”
ใบหน้าหวานค่อยๆ เงยขึ้นมองไปที่ผู้ชายสองคนตรงหน้าซึ่งนั่งรออยู่ที่โซฟาตัวยูสีดำกลางห้องขนาดโรงแรมขนาดใหญ่ ก่อนนัยน์ตาจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่
ให้ตาย...ผู้ชายในห้องนี้หล่อกินกันไม่ลงเลยสักคน!
“...”
“เงียบเลยนะพวกมึง อึ้งล่ะสิ”
มุมปากหยักของโฬมโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ เขามองพวกมันปราดเดียวก็รู้แล้วว่าถูกใจสาวน้อยคนนี้มากแค่ไหน ท่าทีอ้ำอึ้ง นั่งตัวเกร็งแบบนี้ไม่ได้เห็นกันได้ง่ายๆ แต่เขาก็เข้าใจดีเพราะผู้หญิงคนนี้สวยกระชากวิญญาณซะขนาดนั้น
ไม่อึ้งสิแปลก!
“พี่เชื่ออคิณ นั่นไอ้ภัทร” อคิณเป็นฝ่ายตั้งสติได้ก่อน เลยแนะนำตัวเองกับคนข้างๆ นานแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้หญิงที่สวยจนตะลึงค้างแบบนี้ ต้องยอมรับเลยว่าคนที่ไอ้โฬมนัดมาตรงสเปคพวกเขาสุดๆ
แต่ก็รู้สึกคุ้นหน้าชอบกล ทว่าไม่รู้ว่าเคยเจอกันที่ไหน...
“พี่? ตอแหลฉิบหาย” โฬมเลิกคิ้วยิ้มแซว เพราะปกติติมันชอบแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ เวลาคุยกันกับสาว แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นมันแทนตัวเองว่า ‘พี่’ แบบนี้
“หุบปากไปเลยมึง” อคิณมองเพื่อนเวรตาขวาง ขณะที่ภัทรซึ่งนั่งนิ่งอยู่นานเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นบ้าง
“มานั่งตรงนี้สิ” เขาพูดพร้อมขยับที่นั่งให้เธอมานั่งตรงกลาง
“ขอบคุณค่ะ”
แม้จะเขินและประหม่ายังไง แต่ร่างกายกลับขยับไปไวกว่าความคิด รู้ตัวอีกทีก็มีสองหนุ่มหล่อนั่งประกบด้านข้างแล้ว
“อัยย์อยากดื่มอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?” อคิณถามเสียงนุ่ม เอียงหน้าเข้าไปใกล้ร่างหอมเย้ายวนของสาวน้อยข้างๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
“หนูดื่มอะไรก็ได้ค่ะ”
“งั้นลองนี่แล้วกัน” ว่าแล้วเขาก็จัดการชงเครื่องดื่มบริการเด็กสาวด้วยตัวเอง
“เหอะ ทีอย่างงี้ไวเชียวนะพวกมึง” โฬมแค่นหัวเราะมองท่าทางผิดวิสัยของเพื่อนเวรแล้วก็ตามไปนั่งบนโซฟาบ้าง
“แล้ว...พวกพี่จะสั่งรูมเซอร์วิสหรือเปล่าคะ?”
ก่อนหน้านี้จำได้ว่าเขาขึ้นห้องมาจะทานให้อิ่ม เลยชวนเขาคุยพร้อมกับกระดกแก้วแอลกอฮอล์เข้าปากไม่หยุดแก้เขิน เวลาเหล้าเข้าปากเธอจะมีความกล้ามากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าคืนนี้เธอก็ต้องการมันสุดๆ
“ไม่หรอก แค่มองน้องอัยย์พี่ก็อิ่มแล้วครับ” โฬมตอบยิ้มๆ มองเธอตาเยิ้มเสียจนพวกเขาลอบมองบน
“หึ มุขเสร่อฉิบหาย” ภัทรแค่นหัวเราะออกมาอย่างหมั่นไส้
“เรื่องของกู” โฬมไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ ไม่สนว่าภัทรจะว่าอะไรเพราะตอนนี้เขาสนก็แค่สาวสวยอย่างอัยรินทร์เท่านั้น
“แล้วนี่บรรลุนิติภาวะหรือยัง?” อคิณเป็นฝ่ายถามขึ้นบ้าง
“คะ?”
“ถึงยี่สิบไหม?”
ถึงจะสวยและหุ่นน่าฟัดแค่ไหน แต่อีกฝ่ายก็หน้าเด็กมากราวกับว่าเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยเลยถามไว้เผื่อก็เท่านั้น
“นะ หนูยี่สิบสี่แล้วค่ะ”
“ถามอะไรของมึงวะ กูนัดมาเอง ไม่เชื่อใจกันหน่อยหรือไง?”
“ก็น้องเขาหน้าเด็ก”
“แต่จะว่าไป หนูหน้าคุ้นๆ นะ เคยเจอกันที่ไหนมาก่อนไหม?” ภัทรถามอย่างสงสัย
“หนู? ...เหอะ มึงก็เอากับเขาด้วยเหรอไอ้ภัทร” ฟังแบบนั้นแล้วโฬมก็อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้คนที่เย็นชาจนแทบไม่จูบผู้หญิงเวลามีอะไรกัน เอาแต่กระแทกกระทั้นอย่างไอ้ภัทรจะเรียกคนที่เพิ่งจะครั้งแรกว่า ‘หนู’ ได้คล่องปากขนาดนี้
“น่าจะไม่นะคะ หนูเพิ่งเคยเจอพวกพี่ครั้งแรกเลย” เธอตอบกลับไปตามที่จำได้ พลางลอบสังเกตผู้ชายแต่ละคนอย่างสนใจ
คนที่ชื่อโฬมซึ่งเป็นคนนัดเธอมาที่นี่ เป็นผู้ชายผมสีเทาควันบุหรี่ ผิวขาวสว่าง มีจิวเหล็กเจาะหางคิ้ว นิสัยดูขี้เล่นและเพลย์บอยไม่น้อย
คนที่ชื่ออคิณ เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหุ่นหนากำยำกว่าใคร ผิวขาวพอๆ กัน ผมสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางดูเป็นคนเข้าถึงง่าย อ่อนโยน แต่สายตาก็ดูเจ้าเล่ห์ชอบกล
ส่วนคนที่ชื่อภัทร เขาผิวแทน ผมสีดำสนิทสีเดียวกับนัยน์ตาของเขา ภาพรวมดูเหมือนคนเย็นชาแต่กลับมีสเน่ห์ชวนให้ใจสั่น และน่าจะเป็นคนพูดน้อยที่สุดในกลุ่ม
แม้หน้าตาและลักษณะนิสัยจะดูต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันก็คือใบหน้าหล่อเหลากระชากวิญญาณและแววตาเจ้าเล่ห์ที่มองมาที่เธอราวกับจะจับกลืนเข้าไปทั้งตัว!
_________________________