นึกว่าลืมได้แล้ว

1320 คำ
ปณิชามาทำงานที่คลินิกของหมอตุลธรได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้เข้ามาทำงานทุกวันแต่ความสนิทสนมที่มีให้กับคุณหมอหนุ่มก็มีมากขึ้นกว่าเดิม การทำงานที่นี่ก็คล้ายๆ กับที่โรงพยาบาลผู้มารับบริการก็มีทั้งเด็กป่วยและเด็กที่เข้ามารับวัคซีน การตรวจทุกครั้งปณิชาก็จะเขาไปในห้องกับเขาเพราะที่นี่ไม่มีผู้ช่วยพยาบาลเหมือนกับที่โรงพยาบาล แม้จะทำงานเข้าขากันดีแต่มันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ปณิชารู้สึกไม่สนิทใจเวลาอยู่กับเขาตามลำพัง “วันนี้พี่รัตน์ขอกลับก่อนเหมยอาจจะยุ่งหน่อยนะ” ตุลธรบอกกับปณิชา พี่รัตน์ที่ชายหนุ่มพูดถึงคือป้าแม่บ้านที่คอยช่วยทำความสะอาดและดูแลความเรียบร้อยทั่วๆ ไปของคลินิก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะวันนี้คนไข้ไม่เยอะเท่าไหร่” “ประวัติผู้ป่วยพวกนั้นถ้าคุณทำไม่ไหวก็วางไว้ตรงนั้นก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่รัตน์ก็จะมาจัดการเอง” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะเหลืออีกนิดเดียวเหมยว่าทำอีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ” “ตอนนี้มันตอนนี้ก็ใกล้จะสองทุ่มแล้วคุณหิวไหม” “ไม่เท่าไหร่ค่ะ หมอล่ะคะหิวไหมจะรับคนไข้เพิ่มอีกหรือเปล่า” “อีกแค่ 10 นาทีเองผมว่าปิดไฟหน้าคลินิกเลยก็ได้นะ” “ค่ะ” ปณิชาปิดไฟที่หน้าคลินิกจากนั้นก็นั่งบันทึกประวัติผู้ป่วยลงคอมพิวเตอร์ไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย “เสร็จแล้วใช่ไหมครับ” “ใช่ค่ะ” “เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า วันนี้คุณไม่ได้เอารถมาใช่ไหม” “ค่ะ เหมยนั่งแท็กซี่มา” “รถคุณไปไหนล่ะ” มีหลายครั้งที่ตุลธรจะแวะไปรับหญิงสาวที่โรงพยาบาลเพื่อมาทำงานพร้อมกันแต่ปณิชาก็ปฏิเสธมาโดยตลอด “รถเหมยมีปัญหานิดหน่อยค่ะ ให้ช่างมาเอาไปซ่อมแล้วค่ะ” “ช่วงนี้คุณก็ให้ผมรับส่งไปก่อนนะ” “ไม่เป็นไรค่ะ เหมยไม่อยากรบกวนหมอ” “รบกวนที่ไหนล่ะ ทางไปโรงพยาบาลผมก็ผ่านโรงพยาบาลของคุณนะ” “เหมยเกรงใจ” “เราเป็นเพื่อนกันนะจะต้องเกรงใจทำไมล่ะ ไปกันเถอะผมชักจะหิวแล้ว” ตุลธรพาปณิชามาทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างทางกลับคอนโดมิเนียม “เป็นยังไงบ้างรสชาติดีไหม” “อร่อยดีค่ะ” “พอจะสู้กับร้านประจำของเราได้หรือเปล่าล่ะ” “ได้นะคะ ที่นี่มีอาหารให้เลือกเยอะกว่าด้วยค่ะ อาหารทะเลก็สดมาก” “เหมยชอบกินอาหารทะเลเหรอครับ” “ค่ะเหมยชอบมากๆ เลยล่ะคะ หมอล่ะชอบไหม” “ชอบเหมือนกันครับ เอาไว้ถ้าวันไหนเรามีโอกาสได้หยุดพร้อมกันเราไปหาอาหารทะเลกินกันดีไหมได้ล่ะ” “ก็ดีเหมือนกันนะคะ แต่เหมยว่าคงยากค่ะ” “ทำไมถึงคิดว่ายากล่ะครับ” “ก็หมอทำงานหนักนี่คะ ตรวจทั้งที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ที่ตรวจเยอะก็เพราะไม่รู้จะเอาเวลาว่างช่วงเย็นไปทำอะไร แต่ถ้ามีอย่างอื่นให้ทำผมก็ไม่เปิดคลิกทุกวันหรอก” “แบบนี้คนไข้ก็มาเก้อสิคะ” “ถ้าจะไม่เปิดทุกวันจริงๆ ก็ต้องค่อยๆ บอกคนไข้ครับ แต่ส่วนใหญ่ก็อย่างที่เห็นแหละครับ เขาจะโทรศัพท์เข้ามาถามก่อน” “ค่ะ” เพราะได้มาทำงานกับเขาได้ระยะหนึ่งแล้วจึงพอจะรู้ว่าคนไข้ที่คลินิกมักจะโทรศัพท์มาถามและจองคิวก่อนจะมาตรวจทุกครั้ง ระหว่างเริ่มทานอาหารก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านในจังหวะที่ปณิชาเงยหน้าขึ้นพอดี หญิงสาวใจเต้นแรงเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้เจอกับผู้ชายที่เป็นรักแรกของตนเองอีกครั้ง เธอรีบก้มหน้าทานอาหารในขณะที่เขากำลังจะเดินผ่าน “หมอเอก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะสบายดีไหม” เสียงทักทายของตุลธรทำให้คนที่กำลังจะเดินผ่านหยุดเดิน “ก็เรื่อยๆ ครับพี่ตุลย์ล่ะเป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันนานเลย” “พี่สบายดี แล้วเอกมากับใครนั่งกินข้าวกับพี่ก่อนไหม” “เอาไว้โอกาสหน้านะครับ วันนี้ผมมากับลูก” “ตอนนี้ลูกกี่ขวบแล้วล่ะ ตั้งแต่คลอดพี่ก็ยังไม่เคยเจอหลานเลย” “ลูกผม 3 ขวบแล้วครับพี่ตอนนี้อยู่กับพี่เลี้ยง พรุ่งนี้พี่เปิดคลินิกไหมผมว่าจะพาลูกไปรับวัคซีนสักหน่อย” “ได้สิ พรุ่งนี้เจอกันตอนเย็นนะ” ปณิชาภาวนาให้หมอตุลธรรีบคุยกันให้จบแต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผม “พี่ตุลย์มากับใครครับ” “โทษที พี่เห็นว่ารีบก็เลยลืมแนะนำให้รู้จักกัน” “ผมก็ไม่ได้รีบมากขนาดนั้นสักหน่อยครับพี่” “เหมย เงยหน้าขึ้นมาหน่อยผมจะแนะนำเพื่อนรุ่นน้องให้รู้จัก นี่รุ่นน้องผมชื่อหมอเอกเป็นหมออายุรกรรมน่ะ” ปณิชาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอย่างเต็มที่ก่อนเงยหน้าขึ้นและกล่าวคำทักทายด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยไร้อารมณ์ “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” เอกวิทย์กล่าวทักทายจากนั้นเขาก็ขอตัวกลับไปที่โต๊ะของตนเองซึ่งอยู่ด้านในสุด “เหมยอิ่มแล้วเหรอครับ” ตุลธรเห็นว่าเธอเงียบและนั่งเขี่ยอาหารเล่นทั้งที่เพิ่งทานไปได้นิดเดียว “ค่ะ” “อาหารไม่อร่อยเหรอครับ” “อร่อยค่ะ” “ผมรู้สึกว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ เล่าให้ผมฟังได้นะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว” “แต่ท่าทางคุณไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนะ เรื่องบางเรื่องพูดออกมามันก็จะรู้สึกดีขึ้นนะ ไหนลองเล่ามาสิเผื่อผมจะช่วยคุณได้” “ไม่มีใครย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้หรอกค่ะ” “เหมยครับ คุณลองมองว่าผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งสิ แล้วเล่าให้ผมฟังว่าในอดีตมันเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะแก้ไขไม่ได้ แต่เราอาจป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกได้นี่” “ถ้าเหมยพร้อมเหมยจะเล่าให้หมอฟังนะคะ” ปณิชาคิดว่าตัวเองลืมเรื่องราวความรักครั้งแรกของตัวเองไปแล้ว แต่พอได้เจอหน้าเขาอีกครั้งมันก็ทำให้เธอรู้สึกแย่ ความรู้สึกที่เธอมีให้เขาในตอนนี้มันไม่หลงเหลือความรักอีกต่อไปแต่มันไปด้วยความสงสัยว่าตนเองผิดอะไร ทำไมเมื่อสองปีก่อนเขาถึงทิ้งเธอไปและทำเหมือนเรื่องระหว่างเธอกับเขาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขากลับจากร้านอาหารปณิชาก็เอาแต่นั่งเงียบจนตุลธรรู้สึกเป็นห่วงเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน “ถ้าเหมยพร้อมจะเล่าตอนไหนก็บอกนะ โทรหาผมได้ตลอดหรือจะไปหาที่ห้องก็ได้นะ 0902 คือรหัสเข้าห้องผมนะ” ตุลธรบอกก่อนที่หญิงสาวขณะที่เธอจะเดินออกมาจากลิฟต์ ตุลธรไม่รู้ว่าทำไมปณิชาถึงได้เป็นแบบนี้ เขาคิดว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างทำให้อารมณ์ของหญิงสาวจมดิ่งทั้งๆ ที่ตอนแรกหญิงสาวก็นั่งทานข้าวตามปกติ อาการนั่งเงียบเหมือนคนใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลามันเริ่มจากที่เขาทักทายกับเพื่อนรุ่นน้องหรือเธอจะไม่ค่อยชอบหมออย่างที่แพรวาเคยพูดไว้ ตุลธรคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่จู่ๆ ก็ถูกคนไม่ชอบทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม