“ฆ่าคนตายต่างหาก!!!”
รู้น่า...เธออยากจะตะโกนใส่หน้าเขาจริงๆ ...ถ้าเธอกล้ามากกว่านี้ และถ้าเขาไม่เดินทิ้งห่างเธอไปเสียก่อน ขณะที่เขาเดินเข้าไปสำรวจภายในบ้าน หญิงสาวตามติดทุกฝีก้าว เธอเผลอใช้สายตาที่อ่อนโยนมองแผ่นหลังกว้างใหญ่ของเขา...เขาสำรวจบ้าน แต่เธอสำรวจตัวเขา...จนเขาหันกลับมาพบสายตามีพิรุธของเธอเข้า
“อธิบายได้รึยังว่าทำไมผมถึงต้องมาที่นี่กับคุณ”
เธอหน้าเหวอ รีบหันไปมองทางอื่นเสีย เธอรีบจัดระบบในสมองให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อจะได้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง
“เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ฉันได้รับจดหมายจากทนายความของพ่อคุณ เขาบอกให้ฉันไปรับคุณในวันนี้และพาคุณมาอยู่ด้วย ให้หาที่อยู่ที่ปลอดภัยเป็นส่วนตัวให้คุณ”
ชายหนุ่มมองเธอนิ่งๆ เหมือนกำลังใช้ความคิด สายตาของเขาบอกว่าไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง
“ไม่เชื่อเหรอ บ้านหลังนี้ปลอดภัยแน่นอน ฉันรับรองได้ เพราะมันเป็นบ้านของฉันเอง”
เขาส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ บ้านแบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้ ภายในบ้านนี้ เต็มไปด้วยขยะและข้าวของรกรุงรัง เรียกว่า เละเทะยิ่งกว่ากองขยะเสียอีก แต่ที่สงสัยก็คือ ลุงไชยวัฒน์ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วเขาจะส่งจดหมายให้คุณได้ยังไง”
“ขอบคุณที่ถามนะ” เธอทำท่าเหมือนใช้ความคิดอย่างหนัก “ดูเหมือนว่าเขาจะเขียนจดหมายฉบับนี้ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุเพียงหนึ่งวันเท่านั้น เพราะเขาลงวันที่เขียนไว้ชัดเจน ดังนั้น ฉันจึงไม่สงสัยในข้อนี้”
“คุณสงสัยว่าใครเป็นคนส่งให้คุณใช่ไหม”
“ฉันควรจะสงสัยไหมล่ะ เขาตายไปตั้งหกเดือนแล้ว แต่ทำไมจดหมายเพิ่งจะถึงนะ”
แต่ความสงสัยของเธอ ไม่ใช่เรื่องที่เขาสนใจสักเท่าใด
“เอาจดหมายฉบับนั้นมาให้ผมอ่านหน่อยสิ” เธอยื่นให้เขาทันที เขารับไปคลี่ออกอ่านด้วยความสนใจ ใช่แล้ว เขาใช้เวลาอยู่กับข้อความที่ถูกส่งผ่านทนายความของบิดานานกว่าเธอหลายเท่านัก เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของเขาไม่ค่อยจะสู้ดีนัก “กลับบ้านไม่ได้ มีคนคิดจะฆ่าผมเหรอ”
เขาพูดกับตัวเอง สายตาของเขาเหมือนว่าเธอไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้เลยด้วยซ้ำ
“ตำรวจสรุปเหตุการณ์รถตกเขาว่าเป็นอุบัติเหตุใช่ไหม”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” เธอตอบฉะฉาน แต่แววตาเศร้า “ฉันรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ ญาติทางนี้ไม่มีใครแจ้งให้เรารู้เลย จนกระทั่ง มีเอกสารส่งถึงบ้านให้ฉันมารับบ้านหลังนี้และรถกระบะคันนั้น”
“คุณคงเป็นลูกสาวเขาละสิ ไม่ยักรู้ว่าลุงไชยวัฒน์มีลูกกับเขาด้วย”
เขาเปิดประตูห้องนอน เธอรีบเดินแทรกเขาเข้าไปก่อน หยุดยืนประจันหน้า กางแขนขวางกั้นเขาไว้
“นี่ห้องส่วนตัวของฉัน”
“หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลย ลุงไชยวัฒน์หน้าตาดี แต่คุณ...”
“อะไร!” เธอขึ้นเสียง ดุดันเพื่อปกป้องหน้าตาของตัวเองจากคำวิจารณ์ “ก่อนจะว่าคนอื่น หัดดูตัวเองซะบ้าง หน้าตาอย่างกับโจรห้าร้อย”
“เออ”
เขาตอบแค่นั้น เดินล่วงเข้าไปด้านใน หยิบจับกระดาษที่กองเต็มโต๊ะตรงมุมห้องมาดู หญิงสาวรีบกระโดดคว้ากระดาษนั้นมาเสีย แล้วรีบกวาดกองกระดาษทั้งหมดใส่ลิ้นชักด้วยความรวดเร็ว
“นี่ อย่ามายุ่งของส่วนตัวของฉัน ออกไปได้แล้ว และโปรดจำเอาไว้ คุณอยู่ในบ้านนี้ได้ทุกที่เลย แต่ยกเว้นห้องนี้ เข้าใจไหม”
“ไม่ได้อยากยุ่งอะไรเลย แค่สงสัยว่าจะมีงูซ่อนอยู่รึเปล่าก็เท่านั้น”
เขาหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป เธอถอนหายใจโล่งอก แล้วรีบเดินตามออกไป เขาเดินไปเกาะขอบหน้าต่าง ซึ่งเผยให้เห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เธอตามมาอธิบายเรื่องที่เขาไม่อยากรู้ตรงด้านหลังของเขา เสียงเธอเหมือนจะทะลุเข้าเส้นประสาทของเขาเลย
“ฟังนะ ฉันมีกฎในการอยู่ร่วมกันไม่กี่ข้อ ซึ่งคุณจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ข้อแรก ห้ามคุณบุกรุกห้องนอนส่วนตัวของฉัน แม้ว่าบางวันฉันจะไม่ได้กลับมานอนที่บ้านนี้ก็ตาม” เธอหยุดหายใจเล็กน้อย “ข้อสอง ห้ามคุณผู้อาศัยโยกย้ายสิ่งของทุกชนิด เว้นแต่อาหาร”
เขาฟังนิ่งๆ
“ข้อสาม ห้ามคุณพาคนอื่นมาที่นี่ ข้อสี่ ห้ามคุณวิจารณ์ฉันในทุกกรณี เพราะฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณ”
“ครับ” เขารับปากเธอ ขณะหันกลับมา ทำสายตาเยาะหยัน “คุณผู้ปกครอง”
ตายจริง...เธอทำพลาดไปแล้ว เธอไม่น่าให้เขาอ่านจดหมายเลย เขาพูดแล้วก็หัวเราะเย้ยๆ เธอรู้สึกได้เลยว่าเขาเห็นเป็นเรื่องน่าขำ เพราะเธอกับเขาอายุเท่ากันแท้ๆ