มาขอพบนาง

1258 คำ
นางจึงเล่าเรื่องที่นางหมดสติไปในเกี้ยวของเจ้าสาว เหมือนตัวนางหลุดไปอีกโลก โลกที่มีแต่ความเจริญทั้งด้านการค้า ภาษา และวัฒนธรรม บุรุษ สตรีล้วนแต่เท่าเทียม เรื่องหย่าร้างมีพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก เมื่อสองคนใช้ชีวิตร่วมกันได้ ก็เพียงแต่แยกกันไปเริ่มชีวิตใหม่ การร่ำเรียนก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ปิดกั้นไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี ตำราก็หาอ่านได้ง่าย เมื่อมีห้องสมุดกลางที่ผู้ใดจะสามารถเข้าไปใช้ก็ได้ “เมื่อลูกตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่า เกี้ยวเจ้าสาวใกล้ถึงจวนตระกูลซูแล้วเจ้าค่ะ” คำพูดของซุนเหยาทำให้จ้าวกงหยวนปวดใจยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าเกือบจะเสียบุตรีของตนในวันที่ส่งตัวเจ้าสาวเสียแล้ว แต่เรื่องราวที่ออกมาจากปากของนาง ก็ทำให้จ้าวกงหยวนตกตะลึงกับความแปลกใหม่ที่ได้รับ ไหนจะเป็นห้องตำราส่วนกลาง หรือแม้แต่สิ่งที่นางเรียกว่าธนาคาร เพื่อใช้ฝากเงิน กู้เงิน “เจ้าพูดเรื่องธนาคารของเจ้าให้กระจ่างเสียหน่อย” เพราะธนาคารหากจ้าวกงหยวนสร้างขึ้นมาได้จริง จะยิ่งเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเขา เรื่องนี้เขาจึงสนใจเป็นอย่างมาก ซุนเหยานางก็บอกรายละเอียดทั้งหมดของธนาคาร ทั้งเรื่องรับฝากเงิน เพื่อให้ผู้ฝากได้ดอกเบี้ยเพิ่ม ทางธนาคารยังสามารถนำเงินก้อนที่ฝากระยะยาวมาปล่อยกู้ เพื่อกินดอกเบี้ยอีกต่อหนึ่ง ไหนจะเรื่องจำนำที่ดิน หรือกู้เงินซื้อที่ดินซื้อเรือนเพื่ออยู่อาศัย ทั้งวันสองพ่อลูกพูดคุยกัน จนซุนเหยานางไม่ได้ไปที่เหลาอาหาร จึงไม่ได้รู้ว่ามีคนมารอพบนางอยู่ที่เหลาอาหาร หงอี้ วันนี้นางกลับไปแต่งตัวเหมือนตอนที่อยู่ในค่ายทหาร เมื่อมาถึงเหลาอาหารเหม่ยสือ นางก็แจ้งกับหลงจู๊ว่าต้องการพบซุนเหยา หลงจู๊จึงพานางมานั่งรอที่ห้องรับรอง ทั้งยังยกอาหารเข้ามาให้นางด้วย เพราะเรื่องที่ซุนเหยานางเป็นเจ้าของเหม่ยสือมีคนล่วงรู้น้อยนัก หลงจู๊หมานจึงคิดว่าหงอี้นางเป็นสหายของซุนเหยา “แล้วท่านจะตามข้ามาทำไม” หงอี้หันไปมองซูเซวียนอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่รู้ว่าหากซุนเหยานางรู้ว่าซูเซวียนมาจะยอมมาพบนางหรือไม่ เป็นไปตามคาด เมื่อทั้งสองทานอาหารเสร็จเรียบร้อย หลงจู๊หมานก็เข้ามาแจ้ง “นายหญิงไม่เข้ามาที่ร้านขอรับวันนี้” “ข้าว่าแล้ว เพราะท่าน นางจึงไม่ยอมมาพบข้า ข้าไปละ ท่านจ่ายค่าอาหารด้วย” “ไม่ต้องขอรับ นายหญิงให้แจ้งว่า แม่นางฟู่จะมากินเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ขอรับ” “ฝากขอบคุณอาเหยาด้วย ไว้ข้าจะมาพบนางใหม่” หงอี้เดินออกจากร้านไปทันที โดยไม่คิดจะเรียกซูเซวียนให้ออกไปด้วย "เหตุใดนางถึงไม่ยอมมา" เขาเอ่ยถามหลงจู๊ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่า เขาอยู่ที่เหลาอาหารจึงทำให้นางไม่ยอมออกมาพบหงอี้ “ท่านเสนาบดีจ้าว มาพบนายหญิงที่จวนขอรับ นางจึงไม่สะดวกออกมาพบแม่นางฟู่ที่เหลาอาหาร” “เข้าใจแล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของซูเซวียนก็ผ่อนคลายลง แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ หากซุนเหยานางรู้ว่าเขาอยู่นางก็จะไม่ออกมาพบหงอี้จริงๆ ซุนเหยาเมื่อส่งบิดากลับไปแล้ว นางก็เข้าไปอยู่ในโกดังเพื่อจัดการเรื่องเครื่องปรุงที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะอยู่ที่จวนหลังใหม่แล้ว นางจะใช้เวลาอยู่ด้านในนานเท่าใดก็ได้ โดยไม่มีใครว่า แต่เมื่อถึงตอนเวลาอาหารเย็น เสี่ยวกุ้ยจำต้องไปตามคุณหนูของนางออกมารับมื้อเย็น เพราะคำสั่งของซุนเหยา ห้ามให้ผู้ใดเข้าไปด้านในโกดังตอนที่นางอยู่เด็ดขาด เสี่ยวกุ้ยจึงได้แต่ร้องเรียกนางอยู่ด้านนอก “คุณหนูเจ้าค่ะ รับมื้อเย็นได้แล้วเจ้าค่ะ” “ตั้งโต๊ะเลย ประเดี๋ยวข้าออกไป” ซุนเหยานางรีบเก็บถุงพลาสติกเข้าไปในช่องเก็บของ ของนางทันที ก่อนที่จะเดินออกมาจากโกดังเพื่อไปรับมื้อเย็น การเปลี่ยนถ่ายเครื่องปรุงทำให้นางเหนื่อยล้าจนไม่อยากจะยกตะเกียบในมือขึ้น ทั้งหมดด้านในเป็นนางที่ต้องจัดการด้วยตนเอง ทั้งยกไห แยกประเภทเครื่องปรุงแต่ละชนิด เพื่อให้บ่าวเคลื่อนย้ายไปที่เหลาอาหารได้สะดวก เมื่ออาบน้ำเสร็จนางก็เข้านอนทันที ซูเซวียนเมื่อเห็นว่าด้านในห้องดับไฟแล้วเขาก็งัดหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ยิ่งเห็นซุนเหยานางนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายใจก็คิดอยากจะจับตัวนางขึ้นมาตีก้นเสียทีสองที เพราะผิดกลับตัวเขาที่นอนไม่หลับสักคืน พอเมื่อหลับตากับคิดถึงแต่คำพูดและแววตาที่โกรธเคืองของซุนเหยาจนต้องมาพบนางที่จวนให้ได้ “ซุนเหยา” ซูเซวียนเอ่ยเรียกนางเสียงเบา เพื่อปลุกให้นางลุกขึ้นมาคุยกับเขาให้รู้เรื่อง แต่ซุนเหยานางเพียงขยับตัว แล้วซุกลงไปใต้หมอนของนางเท่านั้น ในตอนแรกซูเซวียนก็กลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บ เพราะหมอนที่พวกเขาใช้กันส่วนมากเป็นหมอนที่ทำมาจากหยกทั้งก้อน หรือไม้หอม แต่เมื่อมือของเขาสัมผัสไปที่หมอนของซุนเหยาก็พบว่ามันนุ่มนิ่มไม่ต่างจากตัวของนางเลย ซูเซวียนสะกิดเรียกเท่าไหร่ซุนเหยานางก็ไม่คิดจะตื่น เขาจึงทำหน้าหนาขึ้นไปนอนบนเตียงกับนาง ยิ่งได้สูดดมเส้นผมของนางที่มีกลิ่นหอมประหลาด ซูเซวียนก็ผ่อนคลายกับเรื่องที่พบเจอสองวันที่ผ่านมาทั้งหมด ซุนเหยาเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นนางก็เผลอตัวซุกเขาหา ซูเซวียนจังดึงตัวนางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแล้วหลับลง เขาแทบไม่อยากเชื่อตัวเอง เพียงแค่มีนางนอนอยู่ข้างกาย เขาจะหลับสนิทมากเพียงนี้ ซุนเหยาเมื่อถูกกอดรัดเป็นเวลานานนางก็รู้สึกไม่สบายตัวจึงผลักตัวซูเซวียนออก แต่ซูเซวียนก็ยังพลิกตัวตามไปกอดด้านหลังของนางไม่ยอมปล่อย เกือบฟ้าสางซูเซวียนก็จำต้องกลับจวนของเขาไปอย่างอาลัยอาวรณ์ “ข้าไม่ได้ตั้งใจหลอกเจ้า แต่เป็นเจ้าที่เสียใจกับงานแต่งงานครั้งนี้” ก่อนที่เขาจะออกไป ยังกระซิบข้างหูของซุนเหยา ซุนเหยานางคิดว่านางฝันไป เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วคำพูดของซูเซวียนยังก้องในหูของนาง “ประสาท จะไปนึกถึงบุรุษเช่นนั้นเพื่ออันใด” ซุนเหยาสลัดเรื่องของซูเซวียนทิ้ง แล้วนางก็จัดการตัวเองเพื่อไปที่เหลาอาหาร เมื่อหลงจู๊หมานเห็นนางเข้ามาทางประตูหลัง ก็รีบเดินเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว “นายหญิงท่านมาเสียที ท่านแม่ทัพมารอท่านตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็มาขอรับ” หลงจู๊ไม่กล้าเอ่ยปากไล่ ห้องรับรองยังมีลูกค้าที่จองไว้ต้องการใช้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม