ซูเซวียนกลับมา

1221 คำ
ทั้งหมดในห้องโถงยังไม่ได้รับรู้ของผู้มาเยือนที่ยืนมองอยู่ที่หน้าประตูจวน เพราะมัวแต่เถียงกันเรื่องเงิน มีเพียงพ่อบ้านซูที่ยืนมองอย่างร้อนรน “เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าไม่เล่นด้วยแล้วค่ะ” ซุนเหยายื่นปากอย่างไม่พอใจ “ได้ ได้ แม่ยอมแล้ว เอาไป” หลีซื่อได้ยินว่าซุนเหยานางจะไม่ยอมเล่นด้วยอีกก็รีบยัดถุงเงินใส่มือของนางอย่างไว ซูเซวียนใบหน้าเขียวคล้ำ เมื่อเขามาถึงแล้วคนด้านในยังไม่สนใจเขา หงอี้อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง นางคิดว่าฮูหยินที่ท่านแม่ทัพซูอยากจะหย่าคงมีใบหน้าอัปลักษณ์ ทั้งยังนิสัยร้ายกาจ แต่ที่นางเห็น หากบอกว่าซุนเหยานางอัปลักษณ์เช่นนั้นก็ไม่มีสตรีใดที่งดงามอีกแล้ว ทั้งยังไพ่บนโต๊ะที่แปลกตา หงอี้นึกอย่างจะกระโดดเข้าไปร่วมวงด้วยใจแทบขาด “ท่านแม่ขอรับ ข้ากลับมาแล้ว” สิ้นเสียงของซูเซวียนทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบ แล้วหันมามองทางเขา หลีซื่อใบหน้าซีดขาว เมื่อเห็นว่าบุตรชายพาสตรีกลับมาด้วย ซุนเหยาเห็นเช่นนั้นก็ดึงสายตากลับ ทั้งนางยังเก็บเงินที่ได้มาลงหีบของนางอย่างไม่ใส่ใจ เพราะรู้ว่าเมื่อเขากลับมา ต่อให้มาเพียงลำพังก็คงต้องมาด้วยเรื่องหย่ากับนางเป็นแน่ “นางเป็นผู้ใดกัน” หลีซื่อชี้นิ้วที่สั่นเทาเอ่ยถามอย่างมีโทสะ “นางคือ ฟู่หงอี้ ข้าจะรับนางเป็นฮูหยินขอรับ” หลีซื่อเป็นลมล้มพับไปที่เก้าอี้ เมื่อได้ยินสิ่งที่บุตรชายพูด “ท่านแม่ ไปตามหมอเร็วเข้า” ซุนเหยาวางหีบเงินของนางลง แล้วรีบเข้าไปประคองหลีซื่อ ซูเซวียนถอนหายใจออกมา เขารู้แล้วว่าเรื่องคงออกมาเป็นเช่นนี้ แต่ก็อดที่จะสงสารมารดาไม่ได้ ตลอดเวลาที่หลีชื่อหมดสติ ซุนเหยานางดูแลอยู่ไม่ห่าง โดยไม่ได้สนใจผู้มาเยือนใหม่ทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงด้วย ซูเซวียนมองซุนเหยานางอยู่ตลอดเวลา เขาเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด ยิ่งหงุดหงิด เมื่อนางไม่แม้แต่จะอาละวาดที่เห็นเขาพาหงอี้กลับมา หากนางอาละวาดเสียหน่อยคงเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดเรื่องหย่าขาดกับนาง “อาเหยา” “ท่านแม่ดื่มน้ำเสียก่อนเจ้าค่ะ” ซุนเหยานางประคองหลีซื่อให้ลุกขึ้นดื่มน้ำ ซุนเหยาตบไปที่หลังมือของหลีซื่อและยิ้มออกมาให้นาง หลีซื่อจับมือของซุนเหยานางไว้แน่น เพราะกลัวว่านางจะหนีออกไปจากห้องโถง “เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่” “ขอรับ” “แม่จะยอมรับนางเป็นอนุ แต่เจ้าต้องมีบุตรกับอาเหยาให้แม่ก่อน” ซุนเหยารีบดึงมือนางออกจากมือของหลีซื่อทันที แต่ก่อนที่นางจะอ้าปากโต้แย้งเสียงเย็นชาของซูเซวียนก็ดังขึ้นเสียก่อน “ท่านแม่ ข้ากลับมาครั้งนี้เพื่อหย่ากับนาง” ซุนเหยาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ยิ่งทำให้ซูเซียนที่คิดจะหย่ากับนางในตอนแรกเกิดเปลี่ยนใจ “แต่ ข้ามาคิดดูแล้ว ท่านเข้ากับนางได้เป็นอย่างดี เช่นนั้นข้าจะลองกลับไปคิดดูอีกครั้งขอรับ” ซุนเหยาหันไปมองซูเซวียนอย่างไม่เชื่อหูตนเอง เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้มองสำรวจกันอย่างเปิดเผย นางเม้มปากแน่นอย่างไม่ยินยอม เห็นนางเป็นอันใด นึกอยากจะแต่งก็แต่ง จะหย่าก็เพียงแค่ทิ้งจดหมายหย่าไว้ พอกลับมาพูดเรื่องหย่าให้เรียบร้อย จะมาเข้าหอกับนางอีกครั้ง “เรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วยเจ้าค่ะ ข้าต้องการหย่า” ซุนเหยาพูดออกมาเสียงดังอย่างไม่ยินยอม หงอี้เงยหน้าขึ้นมองนางอย่างชื่นชม สตรีที่ใจกล้าเช่นนางที่อยู่แต่ในสนามรบ มิเคยพบเห็นสตรีเช่นซุนเหยามาก่อน “ในเมื่อท่านหาฮูหยินคนใหม่ของจวนตระกูลซูมาแล้ว เรื่องที่สมควรจัดการตั้งแต่ต้น ก็ควรจะจัดการให้เรียบร้อย” หงอี้อ้าปากอยากจะโต้แย้งแต่ถูกเท้าของซูเซวียนเหยียบเท้าของนางไว้ก่อน “หึ ฮูหยินของข้าช่างใจแคบเสียจริง หากเรื่องที่เจ้ามิยินยอมให้ข้ารับฮูหยินรองเข้าจวนหลุดรอดออกไป ตระกูลจ้าวของเจ้าคงได้อับอายเป็นแน่ ที่เลี้ยงดูบุตรีออกมาเช่นนี้” “อาเซวียน” หลีซื่อร้องออกมาเสียงดัง วาจาของบุตรชายตัวดี แทบทำให้นางกระอักเลือดวันละหลายๆ รอบ “เรื่องนี้คงไม่รบกวนให้ท่านแม่ทัพช่วยคิดอ่าน ต่อให้ชื่อเสียงของข้าหรือตระกูลจ้าวมัวหมอง ก็ไม่เกี่ยวอันใดกับตระกูลซูของท่านกระมัง” มีหรือที่สตรีจากยุคปัจจุบันต้องกลัวฝีปากของยุคโบราณ “ดียิ่ง เช่นนั้น” แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะฝีปากกันอีกรอบ หลีซื่อนางก็กระอักเลือดออกมาจริงๆ ซุนเหยาใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ “ท่านแม่/ท่านแม่” ทั้งซุนเหยาและซูเซวียนต่างเข้าไปประคองหลีซื่อไว้ วันนั้นทั้งวัน หมอเข้าออกจวนตระกูลซูอยู่หลายรอง เพื่อดูอาการของหลีซื่อ ซุนเหยานางเม้มปากแน่น สายตาจับจ้องอยู่ที่เตียงของหลีซื่ออย่างกังวล ซูเซวียนก็ไม่ต่างกัน มีเพียงหงอี้ที่ยืนทำตัวไม่ถูก เพราะสายตาของแม่นม พ่อบ้าน และสาวใช้ต่างมองมาที่นางอย่างตำหนิ “เจ้าจะไปที่ใด” ซูเซวียนเอ่ยถาม เมื่อเห็นซุนเหยานางลุกขึ้นจะเดินออกไปจากห้องของหลีซื่อ “ข้าทำอันใด ต้องรายงานท่านทุกเรื่องด้วยหรือ” นางเลิกคิ้วถามอย่างยียวน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนว่าซูเซวียนจะมองนางอย่างดุดันเช่นไร หงอี้ได้แต่ลอบยิ้มในใจ นางก็เพิ่งจะเคยพบคนที่ทำให้ท่านแม่ทัพมีอาการเช่นนี้ได้ “เสี่ยวกุ้ยเจ้าไปที่เหลาอาหาร ให้นำพระกระโดดกำแพง เม็ดบัวผัดซอส ผัดรากบัวผักรวม และปลานึ่งซีอิ๊วมา” เสี่ยวกุ้ยรีบรับคำแล้วออกไปจัดการทันที ซุนเหยานางจึงไปที่ห้องครัว เพื่อเตรียมน้ำแกงโสมให้หลีซื่อด้วยตนเอง เมื่อหลีซื่อฟื้นขึ้นมาไม่เห็นซุนเหยาอยู่ภายในห้อง นางก็โวยวายเสียงดังจนแม่นมต้องออกมาตามซุนเหยานางให้กลับไปในห้องอีกครั้ง “ท่านแม่นม เนื้อตัวของข้ามีแต่กลิ่นอาหาร บอกท่านแม่ให้รอข้าสักครู่เถิด” “เจ้าค่ะฮูหยิน” แม่นมรีบกลับไปแจ้งที่หลีซื่อทันที ภายในห้องของหลีซื่อนางร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ฟื้นขึ้นมา “เจ้าจะกลับมาด้วยเหตุใด ทำไมไม่อยู่ชายแดนต่อไป” หลีซื่อทุบไปที่ตัวของบุตรชาย “ท่านแม่ ท่านอย่าทุบตีข้าอีกเลยขอรับ ข้าไม่เจ็บเป็นท่านที่จะเจ็บมือ” ซูเซวียนกุมมือของมารดาไว้อย่างเอาใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม