จำเป็นต้องหนี

793 คำ
ตอนที่ 1 บ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล ท่ามกลางธรรมชาติ เสียงคลื่นซัดสาดดังก้องกังวานและสายลมที่พัดโชยมาเป็นระยะทำให้บรรยากาศเงียบสงบ แต่ในความเงียบสงบนั้นกลับแฝงความรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติ ในความเงียบสงัด ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา ไม่นานนัก เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ดังลอดออกมาจากห้อง ๆ หนึ่งก็ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม ให้รีบขยับกายเข้าไปบริเวณนั้นทันที ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ ๆ แล้วตัดสินใจงัดประตูที่ปิดอยู่อย่างแผ่วเบา แล้วสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือชายวัยกลางคนกำลังก้มหน้าก้มตาหาความสุขอย่างเมามันกับเรือนร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนหมดสภาพในการช่วยเหลือตัวเอง เนื่องจากมือและเท้าของเธอถูกตรึงเอาไว้กับเตียงนอน และที่สำคัญเขารู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อน ๆ “เฮ้ย! ไอ้พจน์! มึงเข้ามาทำไมว่ะ” เสี่ยสุชาติเงยหน้าขึ้นมาตะคอกลูกน้องลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบคาย หลังจากถูกขัดขวางความสุข ก่อนจะรีบผละออกจากร่างของเด็กสาวแล้วเอื้อมมือไปยังโต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงเพื่อคว้าปืน ทว่า...ก่อนที่มือของเขาจะได้สัมผัสกับอาวุธข้างกายที่วางไว้ ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า รีบพุ่งเท้าเข้าใส่ร่างท้วมจากด้านหลังอย่างแรงเป็นผลให้ร่างของชายสูงวัยคนดังกล่าวล้มลง ร่างของเสี่ยหื่นกามล้มลงกระแทกพื้นอย่างจัง ศีรษะของเขาฟาดไปกับพื้นจนแน่นิ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงร้องโอดโอย “คุณมีนา!!!” หนุ่มร่างสูงรีบเข้าไปโอบกอดร่างที่สั่นเทิ้มของหญิงสาวไว้แนบแน่น เพื่อปลอบประโลมเธอ ก่อนที่มือหนาค่อยๆ คลายปมเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเธออย่างอ่อนโยน เมื่อหญิงสาวหลุดพ้นจากพันธนาการได้แล้ว ชายหนุ่มก็ประคองร่างของเธอให้ลงมาจากเตียงอย่างแผ่วเบา “พจน์!!!... ฉันนึกว่านายจะไม่มาช่วยฉันแล้ว” เสียงสะอื้นของมีนาดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เขารีบหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายให้เธอสวมใส่ “ก็ผมรับปากคุณมีนาเอาไว้แล้วนี่ครับ... ยังไงผมก็ต้องมา” เขาตอบพร้อมกับใช้มืออีกข้างลูบศีรษะเธออย่างปลอบโยน “เราต้องไปแล้วครับ ก่อนที่ลูกน้องของเสี่ยมันจะแห่กันมาที่นี่” หญิงสาวที่ตั้งสติได้ก็รีบสวมใส่เธอผ้าของตนเองทันที ก่อนที่เสี่ยบ้ากามจะฟื้นขึ้นมา “แล้วนายหลอกล่อพวกลูกน้องของเสี่ยได้ยังไงเหรอ” “ผมลงทุนจ้างเด็กเอ็นมาให้พวกมันครับ ตอนนี้พวกมันกำลังนั่งร้องคาราโอเกะกันอยู่หน้าบ้าน” หลังจากหญิงสาวแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย อัศวพจน์ก็รีบจูงมือมีนาให้วิ่งออกไปทางด้านหลังของบ้านพักทันที ทั้งสองคนวิ่งฝ่าความมืดเข้าไปในป่าที่รกทึบจนกระทั่งถึงรถมอเตอร์ไชด์ของเขาที่แอบเอาไปซุกซ่อนไว้ เมื่อหญิงสาวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไชด์ได้เรียบร้อย อัศวพจน์ก็รีบบิดคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว มีนายังคงรู้สึกสะเทือนใจไม่หายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เธอกอดเอวเขาไว้แน่น ชายหนุ่มยื่นมือข้างหนึ่งไปกุมมือเธอไว้ “ไม่ต้องห่วงนะครับคุณมีนา ผมสัญญาว่าจะพาคุณหนีจากเสี่ยให้ได้” เสียงทุ้มเอ่ยผ่านกระแสลมในยามค่ำคืน มีนาโอบกอดเขาแน่น ถึงแม้เธอจะยังมองไม่เห็นอนาคตว่าเขาเองจะเลี้ยงดูเธอได้อย่างไร เพราะเขาเองก็เป็นเพียงแค่ลูกน้องของเสี่ยสุชาติเท่านั้น แต่ในตอนนี้ก็เหลือเพียงเขาคนเดียวที่พอจะช่วยเหลือให้เธอให้หลุดพ้นจากเสี่ยสุชาติได้ เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวการเสียชีวิตของเสี่ยสุชาติก็ถูกเผยแพร่ออกมาทันที ซึ่งก็เป็นข่าวใหญ่ ดังไปทั่วประเทศ สร้างความตกใจให้แก่อัศวพจน์และมีนาเป็นอย่างมาก อัศวพจน์ไม่คิดเลยว่าการกระทำของตนเองเมื่อคืนนี้ จะทำให้เสี่ยสุชาติถึงกับต้องจบชีวิต และมันก็ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่อีกครั้ง “นี่เราจะต้องหนีกันอีกแล้วใช่มั้ย” มีนาถามเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว “ใช่ครับคุณมีนา!!! อีกไม่นานพวกลูกน้องของเสี่ยก็จะตามล่าเรา” เขาตอบอย่างหนักแน่น “คุณรีบเก็บเสื้อผ้าเถอะ...เราต้องหนีกันแล้ว” ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความกังวลและความกลัวในเวลาเดียวกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม