ตอนที่ 2
ไร่ชาอินทัช...จังหวัดเชียงราย
“หึ ไผมาละน่า คิงไปผ่อลุ๊” (ใครมาน่ะ แกไปดูซิ) ป้าคำแก้วเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถแท็กซี่เข้ามาจอดที่เรือนหลังใหญ่ กาแลหลานชายตัวน้อยรีบวิ่งออกไปดูอย่างรวดเร็ว ไม่นานเขาก็เดินนำชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามาด้านใน
“สวัสดีครับป้าคำแก้ว จำผมได้ไหม” อัศวพจน์เอ่ยทักทายหญิงสูงวัยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พลางวางสัมภาระและกระเป๋าเดินทางลงข้างตัว
“คุณพจน์!! อื้อหื้อ!!!...บ่าได้เจอก๋านเมิน ไปอยู่ตางใดมา” (คุณพจน์! ไม่ได้เจอกันนาน ไปอยู่ที่ไหนมา) ป้าคำแก้วทักทายอย่างดีใจ
“ผมไปอยู่กรุงเทพฯ ครับป้า แล้วนี่แฟนผมครับ มีนา”
“สวัสดีค่ะคุณป้า” มีนาเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ป้าคำแก้วมองมีนาด้วยความเมตตา ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน
“ไหว้พระเตอะลูก” (สาธุนะลูก)
“พ่อเลี้ยงไม่อยู่เหรอป้า” อัศวพจน์พลางเข้ามากอดหญิงสูงวัยแล้วเอ่ยถามถึงพ่อเลี้ยงของเขา
“ป้อเลี้ยงเปิ้นเข้าไปในเมืองปุ๊น” (พ่อเลี้ยงเขาเข้าไปในเมือง) หญิงสูงวัยตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบตามสำเนียงคนเหนือ
“ไปนานหรือยังครับ”
“เปิ้นบอกว่าจะไปธุระบ่เมิน กำเดี๋ยวก็ปิ๊กมาแล้ว” (เขาบอกว่าจะไปธุระไม่นาน เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว)
ระหว่างรอพ่อเลี้ยงอินทัช อัศวพจน์ก็พามีนาไปเดินเล่นรอบๆ ไร่ชา บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่นช่วยให้จิตใจของทั้งคู่รู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องราววุ่นวายที่เพิ่งผ่านมา
“นายว่า...พวกลูกน้องเสี่ย จะตามมาเล่นงานเรามั้ย” มีนาถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“ไม่หรอกครับ คุณอย่าห่วงไปเลย” อัศวพจน์เอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ
“เล่าเรื่องที่นายเคยมีปัญหากับพ่อเลี้ยงให้ฟังหน่อยสิ” มีนาถามอย่างระมัดระวัง ขณะที่อัศวพจน์กำลังรำลึกความหลังที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ที่นี่
“ก็ไม่เชิงว่ามีปัญหากันหรอกครับ ตอนนั้นผมเบื่อชีวิตที่ไร่ กระทั่งแม่ผมเสียไป ผมก็เลยไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย” อัศวพจน์ตอบเสียงเรียบ
“แล้วนายกับแม่มาอยู่กับพ่อเลี้ยงนานหรือยัง”
“ก็ตั้งแต่ผมอายุได้เจ็ดขวบมั้ง”
“แล้วแม่นายมารู้จักพ่อเลี้ยงอินทัชได้ยังไงเหรอ”
“อ๋อ!!..ตอนนั้นแม่ผมมาทำบัญชีให้พ่อเลี้ยงที่ไร่ครับ พอได้กันแม่ก็พาผมเข้ามาอยู่ที่ไร่เลย” ภายในใจของมีนาเต็มไปด้วยความคำถาม ก่อนจะได้ยินเสียงรถโฟร์วีลคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดภายในไร่
“ไปเถอะครับคุณมีนา...เดี๋ยวผมจะแนะนำ ให้คุณรู้จักพ่อเลี้ยงของผม” อัศวพจน์บอกพร้อมกับจูงมือหญิงสาวไปที่เรือนหลังใหญ่ที่จากมาก่อนหน้านี้
มีนาเดินตามหลังอัศวพจน์ไปอย่างเงียบๆ ตลอดทาง เธอมองไปรอบๆ อย่างสนใจและรู้สึกประทับใจในความงดงามของไร่ชาที่กว้างใหญ่แห่งนี้
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ พ่อเลี้ยงอินทัชก็นั่งรออยู่ เขายังคงดูแข็งแรงและดูมีเสน่ห์ไม่ต่างจากเมื่อก่อน รูปร่างสูงใหญ่สมส่วน ผิวสีแทนเล็กน้อยจากการทำงานในไร่มาตลอดหลายปี
หนวดเคราเข้มและทรงผมที่จัดแต่งอย่างเป็นระเบียบยิ่งทำให้เขาดูภูมิฐานและน่าเกรงขาม แม้อายุอานามจะเข้าสู่วัย 40 กว่า ๆ ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความหล่อเหลาลงไปเลย สิ่งเดียวที่จะสามารถบ่งบอกอายุของเขาได้คงมีเพียงประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาอย่างโชกโชนเท่านั้น
“หวัดดีครับพ่อ เพิ่งกลับจากตัวเมืองเหรอครับ” อัศวพจน์เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเองกับพ่อเลี้ยงของเขา อินทัชกวาดสายตาคมกริบมองไปยังอัศวพจน์ลูกเลี้ยงที่ไม่ได้เจอหน้ามานานเกือบสิบปี ตั้งแต่แม่ของอัศวพจน์เสียไป ก่อนที่สายตาของพ่อเลี้ยงหนุ่มจะมาหยุดนิ่งอยู่ที่มีนา
“หวัดดี! แสงหล้าเพิ่งโทรไปบอกฉันเมื่อกี้ ก็เลยรีบมา” อินทัชตอบเสียงเรียบ
“นี่มีนาครับพ่อ...ภรรยาของผมเอง” อัศวพจน์แนะนำตัวมีนากับผู้เป็นพ่ออย่างฉับพลัน เขาวางแผนพาเธอเข้ามาอยู่ที่ไร่ในฐานะภรรยาของเขา
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง” มีนารีบยกมือไหว้พ่อเลี้ยงอินทัชอย่างนอบน้อม เธอเรียกเขาตามที่ป้าคำแก้วเรียก
อินทัชมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า และหยุดสายตาอยู่บริเวณท้องของเธอที่นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเงียบอันน่าอึดอัดเข้าปกคลุมบรรยากาศ แต่ก็ไม่อาจซ่อนความสงสัยที่แผ่ออกมาจากตัวของพ่อเลี้ยงอินทัชได้เลย
“ผมกับมีนาตั้งใจจะมาขออยู่ช่วยงานคุณพ่อที่ไร่ครับ” สิ้นเสียงอินทัชก็มองลูกเลี้ยงอย่างพินิจพิเคราะห์
“นี่แกไปกินยาผิดมารึไง..หึ!!! ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยเห็นแกชอบงานที่ไร่ แต่จะมาขอฉันทำงานเนี่ยนะ”
“ผมพูดตรง ๆ นะครับ ผมกับมีนา เรากำลังตกงานครับพ่อ ผมไม่มีที่พึ่งจริงๆ” อินทัชพยักหน้าอย่างช้าๆ
“เอาเถอะ ๆ ถ้าแกอยากอยู่ที่นี่จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ฉันให้แกอยู่ที่นี่ได้ แต่แกต้องคอยช่วยดูแลงานในไร่ให้ฉัน”
“ขอบคุณครับพ่อ” อัศวพจน์เอ่ยขอบคุณด้วยความโล่งอก สายตาของเขาและมีนาประสานกัน มีนาส่งยิ้มบางๆ ให้เขา
“แล้วเมียแก...ท้องได้กี่เดือนแล้วล่ะ”
“ก็ประมาณสามสี่เดือนแล้วครับพ่อ” เขาตอบอย่างไม่มั่นใจนัก มีนาในชุดคลุมท้องลายดอกไม้สีอ่อนยืนนิ่งอยู่ข้างอัศวพจน์ เธอรู้สึกประหม่าเมื่อถูกสายตาคมกริบคู่นั้นจับจ้อง ความรู้สึกร้อนผ่าวแล่นไปทั่วร่างเมื่อเขาจ้องมองท้องของเธออย่างพิจารณา ในขณะที่เธอเองก็พยายามหลบสายตาของพ่อเลี้ยงหนุ่ม
“พาเมียของแกไปฝากท้องให้เรียบร้อยซะ ไร่ของเรามันอยู่ไกลเมือง ไกลโรงพยาบาล” อินทัชบอกเสียงเรียบแต่หนักแน่น
“ครับพ่อ...เอ่อแต่ว่า...” อัศวพจน์ตอบอย่างลังเล
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ แกไปเบิกค่าใช้จ่ายที่แสงหล้าได้เลย”
“ขอบคุณครับพ่อ” อัศวพจน์กล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ