ตอนที่23

1089 คำ
“แกไม่คิดจะสงสัยฌาคส์มันแล้วเหรอ?” มาเรียสเอ่ยถาม สำหรับ ‘ฌาคส์ เมอร์ริเนซ’ นั้นชายหนุ่มก็รู้จักผู้ชายคนนั้นดี ฌาคส์ เมอร์ริเนซเปรียบเสมือนสายลมที่ล่องลอยไปมา ไอ้หน้าสวยนั่นทำตัวเหมือนพวกเพลย์บอยมากกว่าจะเป็นมาเฟีย หากใครจะรู้เล่าว่าแท้จริงแล้วคนที่เขามองว่าหากมีใครสักคนจะโหดเหี้ยมได้ทัดเทียมกับเขาเองก็มีมันนี่แหละ มาเรียสรู้ว่าดมิทรีกับฌาคส์เป็นศัตรูกัน แต่เขารู้จักทั้งคู่และค่อนข้างสนิทกับทั้งคู่แม้จะสนิทกับดมิทรีมากกว่าเพราะทำงานร่วมกันมากกว่า เขาจึงวางตัวเป็นกลางเหนือความเป็นศัตรูของคนคู่นี้ ขณะที่พาราไดส์ของ ฌาคส์ เมอร์ริเนซนั้นมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างพวกแมคไกวส์และ แคมป์เบลล์อยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งใน ‘คู่ค้าทางธุรกิจ’ ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่เช่นเดียวกับดมิทรีนั่นแหละ “หึ ถ้าแกกับ...” เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งใจเขาเคยวูบไหวไปกับเจ้าหล่อนออกมา ดวงตาสีมรกตหลุบมองถ้วยกระเบื้องเคลือบตรงหน้าตนเองเพียงแวบเดียวก่อนจะเอ่ยต่อไปราวกับไม่ได้สะดุดรอยอะไรในหัวใจตนเองแม้แต่น้อย “…การันตีมันขนาดนั้น ฉันคงไม่ต้องสงสัยมันให้เสียเวลาหรอก” “งั้นแกสงสัยใคร...” มาเรียสย้อนถามกลับด้วยอยากรู้เช่นเดียว กัน เพราะตัวเลือกเด่นๆ นั้นล้วนถูกตัดออกไปแล้วจนหมดสิ้น “อีกไม่นาน...แกจะได้รู้” ดมิทรีตอบเพียงเท่านั้น ก่อนเอ่ยขอตัวกลับ “ฉันไปก่อนล่ะต้องกลับไปทำธุระต่อ” ชักอยากจะรู้แล้วว่าในตอนนี้ ‘สัตว์เลี้ยง’ ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง จะอาละวาดจนเหนื่อยไปแล้วหรือยัง “ธุระกับสาวสวยของแกน่ะเหรอ?” มาเรียสเอ่ยแซวพลางมองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน จุๆ ไม่รู้เป็นไร ทำไมช่วงนี้รอบตัวเขาถึงมีแต่พวกมีความรักนะ ไอ้ไคน์ก็คนนึงแล้ว ป่านนี้ไม่รู้ตามง้อเมียมันไปถึงไหนแล้ว “ไม่ใช่หรอก...” ดมิทรีปฏิเสธเสียงดังฟังชัด สร้างความฉงนให้แก่คนฟังจนอดคิดไม่ได้ว่าหรือข่าวของเขามันผิดพลาด มาเรียสไม่ได้ถามอะไร หากอาการเลิกคิ้วขึ้นสูงและสายตาสงสัยว่าถ้าไม่ใช่สาวสวยแล้วเป็นอะไรก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนถูกมองได้ “พอดีฉันได้สัตว์เลี้ยงมาใหม่น่ะ” คนถูกถามตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ และดวงตาสีมรกตก็วิบวับเปล่งประกายสะใจในตอนที่เอ่ยถึง ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตนเอง “กำลังพยศเลย ต้องกลับไปสอนกันหน่อย” เจ้าของฉายาฮาเดสถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน “แกรักสัตว์ถึงขั้นหามาเลี้ยงตั้งแต่เมื่อไหร่” คนของเขาต้องส่งข่าวผิดพลาดแน่ๆ ไอ้ท่าทางอย่างนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องผู้หญิงแล้วล่ะที่อยู่ในคฤหาสน์มาโควิซตอนนี้น่ะ “ไม่นานนี้แหละ” ดมิทรีตอบพลางลุกขึ้นยืน “ไปล่ะ” เขาเอ่ยลาสั้นๆ ง่ายๆ ทำท่าจะผละไป ซึ่งอีกฝ่ายก็โบกมือลาง่ายๆ เช่นเดียวกัน “เออ บาย แล้วเจอกันใหม่” “ได้” ดมิทรีตอบรับ “เดี๋ยวก่อนฉันจะกลับจะให้เลขาฯโทรมานัดแกอีกทีก่อนฉันจะกลับไปเวกัส” “ได้” มาเรียสตอบรับ ซึ่งดมิทรีกดศีรษะรับเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงเดินออกจากห้องพักส่วนตัวของเจ้าของโรงแรมเลสซีออกไป ขณะที่ใจอดคิดถึง ‘สัตว์เลี้ยง’ ของเขาไม่ได้ ไม่รู้ป่านนี้จะอาละวาดไปจนเหนื่อยหรือยัง?! ๐๐๐ ตอนที่เขากลับไปยังบ้านหลังนั้น คนของเขาที่คอยยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องนั้นกำลังมีสีหน้าเอือมระอากับเสียงดังปึงปังที่ ‘สัตว์เลี้ยง’ ของเขากำลังก่อขึ้น ดมิทรีเพียงแค่ยกยิ้มหยันตรงมุมปาก ดวงตายามทอดมองประตูบานนั้นเต็มไปด้วยความสะใจ อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาอย่างเฉียบพลันเสียจนลูกน้องที่มองอยู่สัมผัสได้ มาเฟียหนุ่มส่งสัญญาณมือเป็นเชิงไล่ลูกน้องที่เขาใช้ให้คุมอยู่หน้าประตูห้องที่ขังใครบางคนเอาไว้ให้ออกไปจากที่นี่ ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายเปิดประตูนั้นแล้วก้าวเข้าไปข้างในนั้น แล้วเขาก็ได้เห็นภาพที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด! หญิงสาวร่างบอบบางคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าและท่าทีพยศจัด เธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ดูลักษณะคล้ายกับชุดนอน...เสื้อนั้นจำไม่ผิดมันคือเสื้อเชิ้ตของเขานั่นแหละ เพราะเขาจำได้ว่าเขาเป็นคนหยิบส่งๆ ให้เธอเปลี่ยน ตอนเธออาละวาดขว้างปาถาดอาหารจนตัวเองเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวในวันแรกๆ ที่ถูกขัง รอบตัวเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงและข้าวของที่เคยอยู่บนเตียงก็คงจะถูกเจ้าหล่อนจับโยนหรือเหวี่ยงลงมาเพื่อระบายอารมณ์...หรือไม่ก็อาละวาด ดมิทรีมองสภาพรุงรังรอบตัวหญิงสาวแล้วก็สืบเท้าเดินเข้าไปใกล้เธอ จนหยุดอยู่ตรงขอบเตียงในขณะที่หญิงสาวบนเตียงก็หันขวับมองทางเขาด้วยดวงตาวาววับ ท่าทางเธอคล้ายกับแมวเปอร์เซียตัวเล็กๆ ที่หาญกล้าจะพองขนสู้กับเขา มือเล็กขาวผ่องเขย่าโซ่สีเงินที่เขาสั่งให้คน ‘ล่าม’ เธอเอาไว้จนมันดังกระทบกันเสียงดัง ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหันมาส่งเสียงแหลมสูงใส่เขาด้วยสีหน้าและท่าทีเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “อย่าทำเหมือนฉันเป็นสัตว์! ฉันเป็นคนเข้าใจไหม...” “…” ดมิทรีกอดอก ริมฝีปากบางเฉียบเหยียดยิ้มเย้ยหยัน ไม่ยอมตอบอะไรเธอ หากสายตาคมกล้านั้นมองสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลใสที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา เขาเห็นความรู้สึกทั้งหวาดกลัว สับสน ไม่เข้าใจ และสุดท้ายก็คือความเกลียดชังในดวงตาคู่นั้น แต่…หึ! เขาหรือจะแคร์และสนใจความรู้สึกของเธอ ผู้หญิงคนนี้ก็แค่ ‘สัตว์เลี้ยง’ ของเขาเท่านั้น และอย่างที่เธอร้องปาวๆ นั่นแหละ เขามองเห็นเธอเป็นเพียง ‘สัตว์’ ไม่ใช่ ‘คน!’ เพราะเธอใจดำอำมหิตเกินกว่าจะเกิดเป็นคนน่ะสิ! “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ปล่อย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม