ครึ่งชั่วยามต่อมา… เหยาอันก็ลงนามเช่าสถานที่แห่งนี้เพื่อเปิดร้าน ซึ่งอันที่จริงมันเป็นทรัพย์สินของสกุลหานอยู่แล้ว เพียงแต่ให้นางใส่ชื่อไว้บังหน้าเท่านั้น เงินทองก็ไม่ต้องเสียแม้แต่เหรียญเดียว หลังจากสำรวจและจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสี่ก็มานั่งล้อมวงกันที่โต๊ะกลางสวน และเป็นเฉินอี้ที่เอ่ยขึ้นก่อน “วันพรุ่งพี่จะให้คนงานมาจัดแจง เจ้าต้องการอะไรบอกพวกเขาได้เลย ขาดเหลือเงินทองเท่าใดให้แจ้งถงกวานนะ” เหยาอันนิ่งงันไปอีกหน บุรุษผู้นี้ดีกับนางตั้งแต่คราแรกที่พบกัน จนกระทั่งยามนี้เขาก็ยังเหมือนเคย ยื่นข้อเสนอดีดีให้กับนางตลอด ไม่เคยสงสัย ไม่เคยแคลงใจว่ามันจะล้มเหลวหรือไม่ “คิดอะไรอีกฮึ ไยเจ้าถึงเงียบไป” ใบหน้าคมคายโน้มเข้าใกล้ จนร่างเล็กถึงกับผงะตื่นตระหนก เพราะมันใกล้จนลมหายใจเขาเป่ารดแก้มนาง เฉินอี้เหมือนจะรู้ตัวจึงรีบถอยออก ความเงียบเข้าปกคลุมในทันที ทั้งที่โต๊ะกลมนี้ก็ม