สิ้นคำถามอีกฝ่ายก็หันมามองก่อนจะยิ้มให้ หากเหยาอันจำไม่ผิด คนผู้นี้คือชายหนุ่มที่เอ่ยตำหนินางตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ทว่าช่างมันเถิด สิ่งที่นางอยากรู้คือเรื่องของตนเองมากกว่า “พอดีใต้เท้าพึ่งกลับจากงานราชการ และเราก็พบต้าเหิงเดินเที่ยวเตร่โดยบังเอิญ ใต้เท้าจึงเข้าไปสอบถามเรื่องที่เขามอบหมายให้ทำ ยามนั้นต้าเหิงมีท่าทางอึกอัก แต่ในที่สุดก็ยอมรับว่าลืม และสารภาพว่าจับเจ้ามาขังที่คุกแล้ว ใต้เท้าจึงรีบมาช่วยเจ้าอย่างไรล่ะ” “ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ” นางทำท่านึกคิด “ใช่ บังเอิญมาก เพราะใต้เท้าเพิ่งกลับมาจากเมืองใหญ่ หากคลาดกันไม่พบต้าเหิงเข้าเสียก่อน เจ้าน่าจะได้นอนในคุกไปแล้ว ถือว่าสวรรค์เมตตานะ ที่ให้เราพบต้าเหิงก่อนจะกลับจวน” ถงกวานเอ่ยบอกตามเหตุการณ์ที่เขาได้พบพานมาในวันนี้ “นอนในคุกก็ไม่เท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ กลัวแต่จะถูกทรมานมากกว่า หากมิใช่ว่าต้าเหิงผู้นั้นเห็นแก