ดรณ์มองสองลุงหลานยิ้มแย้มให้แก่กันและกัน แล้วได้แต่นึกน้อยเนื้อต่ำใจ ตั้งแต่จำความได้ พ่อไม่เคยส่งยิ้มอ่อนโยนแบบนี้ให้กับเขาเลยสักครั้ง แม้แต่คำพูดดีๆ ที่แสดงถึงความห่วงใยก็ยังหาแทบไม่ได้ ท่านมีแต่ดุด่าว่ากล่าวเขาฝ่ายเดียว แต่ทีกับหลานรัก ท่านแทบจะประเคนทุกสิ่งทุกอย่างให้หมด ไม่เว้นแม้แต่ลูกในไส้อย่างเขา ขอเพียงแค่หล่อนต้องการ ท่านไม่เคยขัดใจหล่อนเลย
นี่เขาเป็นลูกท่านจริงๆ หรือ...
มือของเขากำแน่นอยู่บนหัวเข่าของตัวเอง สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์อ่อนไหวภายในที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด กระทั่งมีมือนุ่มๆ ของมารดากุมมือเขาไว้ ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น รอยยิ้มบางๆ ของแม่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยว เขายังมีท่านเคียงข้างเป็นฝ่ายเดียวกับเขาเสมอ ไหนจะมีเกวลินที่คอยรักคอยเอาใจเขาอีกทั้งคน
พอคิดถึงหน้าของแฟนสาว อารมณ์ที่พลุ่งพล่านเดือดดาลจึงค่อยพลันทุเลาลงบ้าง ทำให้เขายังทนข่มใจนั่งทานข้าวกับผู้หญิงที่น่าชิงชังขนาดนี้ต่อไปได้ โดยที่ไม่อาเจียนออกมาเสียก่อน
หลังทานอาหารเย็น โรซี่ใช้เวลาพูดคุยกับคุณลุงที่เธอเคารพรักไม่ต่างจากพ่อบังเกิดเกล้าด้วยความคิดถึงอีกสักพักใหญ่ จนฟ้าเริ่มมืด เธอจึงเอ่ยขอตัว
“วันนี้แก้มกวนคุณลุงคุณป้ามานานแล้ว คงต้องได้เวลากลับสักที”
นันทวันรีบโบกไม้โบกมือ
“กวนเกินที่ไหนกัน พวกเราอยู่กันแค่สองตายายแก่ๆ เท่านั้น ว่างๆ แก้มก็แวะมาเยี่ยมคุณลุงบ่อยๆ สิ ลุงเขาจะได้ดีใจหายคิดถึง”
“ค่ะ ถ้าแก้มว่างเมื่อไหร่ แก้มจะแวะมาหานะคะ”
เธอพยักหน้ารับ ทั้งที่ในใจรู้ดีว่านอกจากเดชแล้ว คนที่นี่ไม่มีใครอยากต้อนรับเธออย่างที่ปากพูดสักคน โดยเฉพาะคุณนายและลูกชายของนาง
“เจ้าดรณ์... ไปส่งน้องกลับบ้านสิ มืดค่ำแบบนี้ น้องเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว กลับเองจะไม่ปลอดภัย”
เมื่อเห็นเด็กสาวลุกขึ้นเตรียมจะกลับ เดชก็หันไปสั่งลูกชายเสียงแข็งทันที
ดรณ์หน้าบึ้ง
“ผมไม่ใช่คนขับรถ คุณพ่อให้คนอื่นไปส่งดีกว่าครับ”
“แกนั่นแหละไป หัดทำตัวเป็นสุภาพบุรุษบ้างสิ”
ไม่จำเป็น! กับผู้หญิงเหลี่ยมจัดอย่างแก้มหอม เขาจะต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไปทำไม?
เขาตอบสวนในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมา เอาแต่เม้มปากแน่นอย่างไม่เต็มใจ
“อย่าไปกวนพี่ดรณ์เลยค่ะคุณลุง เดี๋ยวแก้มโทร. เรียกคนมารับดีกว่าค่ะ”
โรซี่บอกราวกับเกรงอกเกรงใจเสียเต็มประดา แต่ที่จริงเธอไม่อยากนั่งรถไปกับคนหน้าบูดต่างหาก กลัวกลิ่นเน่าๆ บนหน้าเขาจะโชยมาพลอยทำให้เธอเสียอารมณ์เปล่าๆ
“ใครเหรอลูก ไว้ใจได้รึเปล่า” เดชไม่วายเป็นห่วง
“เขาเป็นคนสนิทที่คอยดูแลแก้มอยู่ค่ะ รับรองว่าไว้ใจได้ หายห่วงค่ะ”
เสียงกลั้วหัวเราะสดใส ดวงตาเป็นประกายของหล่อน ทำให้ดรณ์เบะปาก นึกขัดหูขัดตาเสียจริง ‘คนสนิท’ ที่หล่อนพูดถึงจะเป็นใครไปได้ล่ะ...
นอกจากคู่นอนของหล่อนอย่าง... แอนโทนี่ ฮอว์ก!
หน้าด้าน!
ถอนหมั้นกับเขายังไม่ทันข้ามวัน ก็ออกอาการระริกระรี้วิ่งเร่หาผู้ชายอื่นเสียแล้ว แถมนอกจากไอ้หมอนั่น ก็ยังมียศกรและผู้ชายหน้าโง่อีกกี่รายก็ไม่รู้ที่หล่อนวิ่งไล่ และพร้อมจะขึ้นเตียงด้วย
ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ !
พอเห็นหล่อนทำตัวกระดี๊กระด๊าเหมือนปลาได้น้ำ ดรณ์ก็อดรนทนไมได้ เกิดอยากจะทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลองขึ้นมาเสียดื้อๆ
“รีบตามมาสิ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง”
เขาหันไปบอกแก้มหอมเสียงห้วน แต่หล่อนยืนนิ่งทำเหมือนไม่ได้ยินที่เขาเร่ง
“อย่าเลยค่ะ แก้มไม่อยากให้พี่ดรณ์ลำบาก”
แต่แววตาบอกชัดว่า... เธอไม่อยากไปกับเขา!
ยิ่งหล่อนต่อต้าน เขาก็ยิ่งจะเอาชนะให้ได้ ดรณ์จึงก้าวเข้ามากระชากมือแก้มหอมให้เดินตามเขาออกมา ปากก็เอ่ยกระซิบเสียงขุ่นพอให้ได้ยินกันแค่สองคนว่า
“ฉันไม่ได้พิศวาสเธอหรอกนะ ตามมาดีๆ ฉันมีเรื่องจะถามเธอ”
โรซี่ถอนหายใจ ถึงไม่อยากไป แต่ก็รู้ว่าเลี่ยงไม่ได้ คนโอหังเอาแต่ใจอย่างเขา ถ้าเธอไม่ยอมทำตาม มีหวังคืนนี้เขาคงไม่ยอมให้เธอไปไหนแน่ เธอไม่อยากทนเหม็นขี้หน้าเขาไปมากกว่านี้ เธอเกลียดเขา อีกอย่างเธอเองก็ไม่อยากให้คุณลุงเดชที่สุขภาพไม่ค่อยดีพลอยโมโหโทโสเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วย
หญิงสาวจึงเลิกขืนตัว แล้วยอมเดินตามเขาไปดีๆ ก่อนจะหันกลับมาล่ำลาเจ้าของบ้านอีกครั้ง
“แก้มไปก่อนนะคะคุณลุงคุณป้า”
เธอเดินไปก้าวขึ้นรถมายบัคอย่างไม่เต็มใจนัก ยังไม่ทันทรงตัวและคาดเข็มขัดนิรภัย คนหน้าบูดก็เหยียบคันเร่งพุ่งทะยานไปข้างหน้า ทำเอาเธอเซหน้าคะมำ หัวเกือบกระแทกกับคอนโซลรถเข้าจังๆ เธอแอบบ่นอุบในใจว่า
จะรีบไปตายรึไง!?