บทนำ
ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก !!
“ พี่ซันข๋า คุณแม่ให้มาตามไปกินข้าวค่ะ “ สาวน้อยหน้าหวานมายืนเคาะประตูเรียกพี่ชายที่เกิดห่างกันแค่ไม่กี่นาทีอยู่หน้าห้อง
แกร่กกก !!!
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออกมาพร้อมกับเด็กหนุ่มร่างสูงโปรง ผิวขาว ปากกระจับสีชมพูธรรมชาติ หล่อราวกับลูกรักพระเจ้า
“ มาแล้วววว น้องรอพี่ซันหิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย มัวทำอะไรอยู่ค่ะ ” น้องสาวขี้อ้อนเอ่ยถามพี่ชายขึ้น เธอลงไปรอที่ห้องอาหารนานแล้ว แต่พี่ชายสุดหล่อนี่สิไม่ลงไปซะที
“ เมื่อคืนพี่ทำรายงานดึกเลยตื่นสาย ” พี่ชายว่าพลางมือหนาลูบหัวน้องสาวไปพลาง น้องสาวที่เขารักและหวงมากที่สุด ซันที่เล่นกับน้องมาตั้งแต่เด็ก โตขึ้นหน้าที่ดูแลรับส่งน้องก็เป็นเขาเองที่อาสา เพราะความเป็นห่วงน้องเลยไม่ยอมปล่อยน้องซะที ทั้งที่อายุเท่ากันเกิดห่างกันแค่ไม่กี่นาที แต่สำหรับเขาน้องสาวยังเด็กอยู่เสมอ
” ไปค่ะงั้นไปกินข้าวกัน เดี๋ยวไปเรียนสายนะคะ“แขนเรียวของน้องสาวตัวเล็กคล้องเข้าที่แขนแกร่งของพี่ชายพาเดินลงไปชั้นล่างทันที
” พี่ซันรีบๆเดินสิค่ะ ชักชาจริงเลย “ สาวน้อยที่เห็นคนพี่เดินช้าไม่ทันใจก็เอ่ยขึ้น พี่ชายได้แต่สายหน้าเบาๆพร้อมยกยิ้มมุมปากชอบใจปนรู้สึกเอ็นดูน้องมาก
ตุ๊บ !! ตุ๊บ !! ตุ๊บ !!
เสียงสาวน้อยเพียงคนเดียวในบ้านวิ่งลงบันไดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
” ทับทิม !!! อย่างวิ่ง เดี๋ยวตกบันได !!! “ คนพี่ตะโกนเสียงดังตามมาทันทีที่เห็นน้องวิ่งทิ้งตัวเองลงบันไดไป
ตุ๊บ !! ตุ๊บ !! ตุ๊บบ !!
” ทับทิมได้ยินที่พี่พูดไหม ทำไมถึงดื้อขนาดนี้ “ เมื่อคนน้องยังไม่หยุดวิ่ง คนพี่ก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง….
ตุ๊บ !! ตุ๊บ !! …………
” ว๊ายยยยยยยยย “ ” โอ้ยยย “
สาวน้อยที่อายุ 18 ปีแล้วแต่ยังซุกซนไม่หายตกบันไดลงมานั่งกองอยู่กับพื้น
” ทับทิม เป็นยังไงบ้างเจ็บไหม พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่างวิ่งมันจะตกบันได ไหนเจ็บตรงไหนบอกพี่มา” คนพี่วิ่งกระหืดกระหอบมาหาน้องสาวที่รักทันที
“ หืออ !! ” ใบหน้าสวยใส เบะปากตั้งท่าจะร้องไห้แต่แล้ว..
“ หยุด !! ห้ามร้องไห้ เพราะดื้อใช่มั้ยถึงได้ตกบันไดลงมา ” คนพี่เอ่ยเสียงเข้มจนคนน้องต้องปรับสีหน้าเป็นส่งยิ้มหวานๆให้ทันที
“ เป็นอะไรลูก ” เสียงพลอยใสผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้อายุ ย่างเข้าเลข 4 แล้วแต่ยังสวยใสราวกับเด็กอายุ 25 อย่างไงอย่างงั้น
“ ตกบันไดอีกแล้วใช่มั้ย ” ตามมาด้วยเสียงทรงอิทธิพลของผู้เป็นพ่ออย่างอาทิตย์ถามขึ้น เพราะลูกสาวเขาตกบันไดเป็นอาชีพอยู่แล้ว
แฮร่ !!!! สาวน้อยได้แต่หัวเราะแก้เขิล ไม่ใช่สิหัวเราะกลบเกลื่อนความผิดออกมา รอยยิ้มตาหยีเหมือนผู้เป็นแม่ทำให้พ่ออย่างอาทิตย์นึกเอ็นดูลูกสาวตัวเองอยู่ไม่น้อย
“ ลุกไหวมั้ย ” พี่ชายเอ่ยถามน้องสาวสุดที่รักขึ้น
“ ไม่ค่ะ ”
พรึบ !!! สองแขนแกร่งอุ้มน้องสาวขึ้นในท่าเจ้าสาวพาเดินไปยังโซฟาที่อยู่ไม่ไกลทันที วางน้องลงบนโซฟาแล้วสาวเท้าเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลหยิบยานวดมานวดข้อเท้าในน้องสาวอย่างเบามือ
“ พี่บอกกี่ครั้งแล้วอย่างวิ่งลงบันได ทำไมชอบดื้อนักนะ ตกก็ไม่รู้กี่ครั้งแล้วทำไมไม่รู้จักจำ ” คนพี่ที่นั่งขัดสมาดอยู่บนพื้นพรมราคาแพงเอ่ยบ่นน้องสาวออกไป
“ ก็น้องหิวข้าว พี่ชักช้านี่ ” คำแก้ตัวน้ำขุ่นๆนั้นมันทำให้คนพี่ถอนหายใจยาวๆออกมา แก้ตัวตลอด แก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ วิชาการเอาตัวรอดของน้องสาวเขาแหละ
“ แล้วนี่จะไปโรงเรียนได้มั้ย ” เป็นอีกครั้งที่คนพี่เอ่ยถามน้องสาวออกไป
“ ได้สิค่ะ วันนี้น้องมีสอบเก็บคะแนนนะ วิชาหลักด้วย “ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองมีสอบก็ได้แต่นั่งโทษตัวเองในใจว่าไม่น่าดื้อเลย ข้อเท้าเจ็บแบบนี้แล้วจะไหวมั้ยเนี่ยยัยทับทิม
ซันนวดยาพันข้อเท้าให้น้องเรียบร้อยสองแขนแกร่งพยุงน้องสาวเดินมายังโต๊ะอาหารที่มีพ่อแม่นั่งรออยู่แล้ว
“ จะไปโรงเรียนไหวมั้ยลูก ” พลอยใสเอ่ยถามลูกสาวเพียงคนเดียวออกไป
“ ไหวค่ะ เดี๋ยวพี่ซันเดินไปส่งน้องด้วยนะคะ ” แขนเรียวกอดแขนคนพี่แน่นพลางซบใบหน้าลงบนไหล่แกร่ง ลูกอ้อนนี้ได้มาจากแม่เต็มๆ
“ อืม รีบกินข้าวจะได้กินยา ” ทับทิมกลัวพี่ชายมากกว่าพ่ออย่างอาทิตย์เสียอีก เพราะอาทิตย์มักตามใจลูกจนเมียรักบ่นอยู่บ่อยๆ แต่มีซันที่คอยดุคอยปรามน้องสาวอยู่บ่อยครั้ง ทับทิมเองก็กลัวซันเพราะรู้ว่าถ้าพี่เอาจริงขึ้นมาเธอก็ต้องถอย
ระหว่างที่นั่งกินข้าวกันอยู่นั้น …
” พี่ซันข๋า “ เป็นอีกครั้งที่แขนเรียวกอดแขนแกร่งของพี่ชาย
” ว่า “
” น้องอยากได้มือถือใหม่ซื้อให้น้องหน่อยนะคะ” มือถือยี่ห้อดังออกรุ่นใหม่มาเครื่องเก่าของทับทิมก็ดับๆติดๆขึ้นมาทันที อาทิตย์ได้แต่นั่งมองลูกยิ้มๆ รู้สึกชอบใจในความขี้อ้อนของลูกสาว
“ พี่จะซื้อให้แต่ถ้าเห็นวิ่งขึ้น วิ่งลงบันไดอีกเมื่อไหร่พี่ยึดคืน ” มือถือเครื่องที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขาซื้อให้น้องสาว แต่ครั้งนี้มันต้องมีข้อตกลงกันหน่อย ซันเป็นเด็กเก่งและฉลาดมาก เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุ 15 ปี นั่นก็คือ สนามแข่งรถ ที่ชื่อว่า Sunshine Racing เพราะชอบรถและชอบความเร็ว เขาเลยขออาทิตย์เปิดสนามแข่งในตอนแรกที่เปิดอาทิตย์เป็นคนดูแลให้และคอยสอนงานลูกชายไปเรื่อยๆจนตอนนี้เขาปล่อยให้ซันดูแลทุกอย่างเองและถือว่าไปได้ดีเอามากๆ
“ พี่ซันอย่าใจร้ายกับน้องสิ ” น้องสาวเอ่ยออกไปพร้อมยู่หน้าใส่พี่ชายอย่างไม่จริงจังนัก
“ งั้นก็ไม่ต้องเอา ” พี่ชายพูดแค่นั้นก็หันไปกินข้าวต่อทันที
“ ก็ได้ค่ะ น้องจะไม่วิ่งแล้วก็ได้ งั้น เลิกเรียนเย็นนี้เราไปซื้อกันเลยนะคะ ” คนน้องที่รับปากเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ จำไว้ ถ้ายังดื้อพี่ยึดคืน ” บทสนทนาระหว่างพี่น้องก็จบลงแค่นั้น สองพี่น้องที่กินข้าวเสร็จก็รีบออกจากบ้านไปโรงเรียนทันที
รถสปอร์ตคันหรูสีดำขับบนถนนเส้นหลักตรงไปยังโรงเรียนมัธยมชื่อดังสองพี่น้องที่ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วและโรงเรียนนี้ก็เป็นโรงเรียนของเพื่อนสนิทพ่อเขานั่นเอง
รถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอดยังลานจอดรถข้างอาคารเรียนของน้องสาว บรรดานักเรียนที่เห็นรถขับเขามาก็รู้ได้ทันทีว่ารถหรูคันนี้เป็นของใคร ความหล่อเหลาของซันมันทำให้เด็กนักเรียนหญิงทั้งโรงเรียนหลงในความหล่อของเขา ส่วนน้องสาวแสนสวยก็มีชายเด็กหนุ่มมากมายต้องการเข้าหาแต่ติดอยู่อย่างเดียว คือ พี่ชายที่โคตรดุ มันเลยทำให้ทุกคนได้แต่มอง
” เดินไหวมั้ย “ คนพี่ที่เดินมาเปิดประตูรถฝั่งน้องสาวก็เอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วง
” ก็พอไหวค่ะ “
” ไปเดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องเรียน “ พี่ชายสุดหล่อพยุงน้องสาวเดินขึ้นอาคารเรียนไปท่ามกลางสายตาของนักเรียนที่นั่งอยู่บริเวณนั้น
” พี่ซันโคตรหล่อเลยน่ะแกว่ามั้ย “
” ใช่หล่อมากๆๆอิจฉาน้องสาวเขาจังมาพี่หล่อขนาดนี้ “
” ฉันอยากจะรู้จัง ใครจะได้เป็นแฟนเขา “
” นั่นสิ หล่อขนาดนี้แฟนเขาต้องสวยมากแน่ๆ“
บรรดานักเรียนหญิงบริเวณนั้นต่างคุยกันในหัวข้อเดียวกัน คือความหล่อของซัน
” โต๊ะน้องทางนู้นค่ะ นั่นไงค่ะขนมนั่งอยู่ “
หญิงสาวหน้าตาน่ารัก ผิวขาวอมชมพู ปากนิด จมูกหน่อย ดวงตากลมโตสีน้ำตาล เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนๆ ร่างบอบบางเธอชื่อ ขนม เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของทับทิม ทั้งสองมารู้จักกันตอน ม.ต้น เพราะขนมเป็นเด็กที่เรียนเก่งมากจึงสอบชิงทุนเข้ามาเรียนโรงเรียนเอกชนนี้ได้
” ขนม “ เสียงใสเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทออกไป
” ทับทิมข้อเท้าไปโดนอะไรมา อย่าบอกนะว่าตกบันไดอีกแล้ว “ เพื่อนที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนรักของเธอต้องตกบันไดมาอีกแน่
” แฮร่ ใช่จ้า “
“ ตลอดเลยทำไมไม่ระวังนะ นี่เจ็บมากมั้ย ” ขนมเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
สายตาคมลอบมองเพื่อนสนิทน้องสาวที่อายุเท่ากันกับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ขนมที่รู้ตัวว่าถูกมองก็ไม่กล้าที่จะสบตากับเขา แม้เธอจะสนิทกับทับทิมและเจอซันอยู่บ่อยครั้งแต่เธอก็กลัวสายตาดุๆของเขาอยู่ดี
“ พี่ซันไปเรียนเถอะค่ะ แล้วอย่าลืมนัดของเราเย็นนี้นะคะ อ๋อ !!! ขนมเย็นนี้ไปห้างเป็นเพื่อนเราหน่อยน๊า น๊าาาาา เราจะไปซื้อของนะขนมไปช่วยเราเลือกหน่อยสิ ได้มั้ย !!! “
“ เออ …. เออ… ” ขนมที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนักได้แต่อ้ำๆอึ้งๆจะปฏิเสธก็เกรงใจเพื่อน จะตอบตกลงก็กลัวคนหน้าดุ
“ เลิกเรียนแล้วก็ไปรอกันที่รถ ” ซันพูดเพียงแค่นั้นแล้วปรายตาไปมองยังขนมอีกครั้ง ขนมที่เห็นดังนั้นก็รีบหลบสายตาไปทางอื่นทันที
“ หึ ” ซันได้แต่หัวเราะเบาๆในลำคอแล้วก็สาวเท้าเดินออกจากห้องเรียนน้องสาวไปทันที ทุกย่างก้าวของเขามีแต่ความนิ่ง สุขุม เสือยิ้มยากที่มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นจะได้เห็นรอยยิ้มหล่อๆของเขา
15:35 น.
ที่จอดรถข้างอาคารเรียนมีร่างบางสองร่างนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน รอพี่ชายสุดหล่อพาไปห้าง ช่วงเวลาเลิกเรียนมีนักเรียนต่างทยอยกันกลับ ระหว่างที่สองสาวกำลังนั่นคุยกันอยู่นั้น..
“ ทับทิม ” เสียงเด็กหนุ่มเอ่ยเรียกทับทิม
“ ออ ว่าไงเก่ง ”
“ ทำไมยังไม่กลับละ ” เก่งเอ่ยถามทับทิมขึ้น
“ ออ เรารอพี่ซันนะ ” เด็กหนุ่มยกยิ้มชอบใจที่ได้คุยกับสาวสวยที่เขาแอบชอบมานาน นี่ก็ใกล้จะเรียนจบกันแล้วเลยอยากสานสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองแอบชอบมานาน
“ เออ เราขอเบอร์ทับทิมหน่อยสิ ” เก่งต้องใช้ความกล้าเป็นอย่างมากกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้ แต่แล้ว…
“ มีแต่เบอร์รองเท้ามึงจะเอาไหม !!! ” ซันที่เดินมาทันได้ยินตอนไอ้เก่งขอเบอร์น้องสาวก็เอ่ยเสียงเย็นออกมา ในตาคมจ้องมองเก่งอย่างไม่วางตา สายตาคมดุนั้นมันทำให้เก่งต้องรีบเดินออกไปทั้งที่ยังไม่ได้เบอร์และไม่ได้ร่ำลากันเลย
“ พี่ซัน จะดุอะไรขนาดนั้นค่ะนี่ต่อไปถ้ามีแฟนพี่ไม่ฆ่าคนที่มองแฟนพี่ตายหมดเหรอ ” น้องสาวพูดไปอย่างที่ใจคิดจะดุอะไรขนาดนั้น
ซันปลายตาไปมองยังขนมที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่
รถสปอร์ตคันหรูขับออกมาจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังวิ่งตรงไปยังห้างหรูระหว่างทางคนที่ทำหน้าที่ขับรถพาน้องสาวไปห้างปรายตาไปมองยังเพื่อนรักของน้องสาวที่นั่งเบาะหลังอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้คนที่ถูกมองรู้สึกตัวและนั่งตัวเกร็งไปหมด
^^