ตอนที่ 11 ไร้ทางออก

1739 คำ
08.00 น. ความรู้สึกแรกที่ถาโถมเข้ามาคือปวดร้าวที่ศีรษะเหมือนจะระเบิด เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้นก็พบกับแสงสว่างที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง คีตารวบรวมสติก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง และเมื่อตั้งสติได้ ทำให้เธอรับรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ที่นี่คือห้องเก็บของห้องนั้น...ในบ้านของขุนภาค ห้องที่อีกฝ่ายจะให้เธออยู่ คีตาจำได้ว่าตัวเองถูกจับมัดอยู่ในทะเล และมีผู้ชายสองคนมาช่วยเธอ ทว่าหลังจากนั้นสติของเธอก็ดับวูบลง และมาตื่นที่นี่ เมื่อนึกออกแบบนั้นก็ก้มมองตัวเองทันที เสื้อผ้าชุดที่เธอใส่ในตอนแรกถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง กางเกงผ้าขายาวสีดำ ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อดึงคอเสื้อออกมาเพื่อมองดูข้างใน ว่างเปล่า!! “...!!” ชุดชั้นในทั้งข้างบนและข้างล่างไม่ได้สวมใส่ ใบหน้าร้อนเผ่าขึ้นมาอย่างฉับพลัน คนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอจะเป็นใครไปได้ ถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น มือเล็กกระชากประตูห้องออก ห้องเก็บของอยู่ในห้องครัว เธอต้องเดินผ่านห้องครัวที่ว่างเปล่าเงียบสงัด หันมองนาฬิกาเรือนใหญ่ก็เห็นเป็นเวลาแปดโมงตรง ศีรษะของเธอหนักอึ้ง รู้สึกไม่ค่อยดีที่ร่างกาย คีตาเดาว่าตัวเองน่าจะมีไข้เพราะเหตุการณ์เมื่อคืน...และเมื่อนึกถึงเรื่องที่พบเจอก็ทำให้เธอรู้สึกหนักหน่วงที่หน้าอกจนหายใจแทบไม่ออก ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นที่บันได ปรากฏร่างของเจ้าของบ้าน ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสัน กล้ามแขนเป็นมัด ๆ เผยให้เห็นเพราะวันนี้อีกฝ่ายใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว นัยน์ตาดุดันจ้องมองมาทางเธอ เราสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้นจนกระทั่งขุนภาคเดินลงบันไดมาถึงชั้นล่างและมาหยุดตรงหน้าเธอ คิ้วของเขาเลิกขึ้น ก่อนจะกวาดสายตามองคีตาตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่งผลให้เธอกำมือแน่น “นึกว่าตายไปแล้ว” และนี่คือคำทักทายของเขา คนที่ตั้งใจจะฆ่าเธอเมื่อคืน ดวงตากลมสั่นไหว ความโกรธพุ่งทะยานอัดแน่นอยู่ในใจจนอยากจะสำรอกออกมา “ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตายล่ะ ช่วยฉันทำไม?” “...” “แถมยังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ สันดานผู้ชาย...แค่มองก็ดูออก” และคำพูดของเธอทำให้อารมณ์ดี ๆ ยามเช้าของขุนภาคปลิวหายไป เขาจ้องหน้าเธอ พ่นเสียงหัวเราะในลำคอ “สารรูปแบบนี้ มานอนแก้ผ้าตรงหน้า ฉันก็เอาไม่ลง” “...” “และที่ฉันไม่ปล่อยให้เธอตายไปตั้งแต่เมื่อคืน เพราะคนอย่างเธอต้องเจออะไรอีกมากถึงจะสาสม” “...” “จะให้ตายง่าย ๆ ได้ไง” ขุนภาคพูดพลางเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างยียวน คีตาได้ยินแบบนั้นก็กลืนน้ำลายฝืดเคืองลงคอ “บอกว่าคนอื่นเป็นฆาตกร คุณมันก็ไม่ต่าง” “ใช่ ฉันจะฆ่าเธอ ถ้ายังปากดีไม่เลิกแบบนี้” “...” “เข้างานแปดโมงครึ่ง ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงยี่สิบนาที” “ฉันไม่ทำ!” คีตาตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป อยู่ที่นี่ก็เหมือนตาย ไม่รู้ว่าผู้ชายบ้าเลือดคนนี้จะลุกขึ้นมาฆ่าเธอวันไหน คีตาจะขอกลับไปต่อสู้กับชาวีด้วยตัวของเธอเอง หญิงสาวหมุนตัวไปยังประตูทางออกของบ้าน ทว่าฝ่ามือหนาก็กระชากข้อมือของเธอเอาไว้ ขุนภาคดึงคนตัวเล็กมากระแทกกับแผงอก เธอเงยหน้ามองเขา “จะกลับกรุงเทพ? กลับไปเข้าคุกหรือไง” คำถามของเขาทำให้คีตาชะงัก ดวงตาของเธอสั่นระริก “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!” “ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด จะหนีมาที่นี่ทำไม?” “ฉันไม่ได้หนี” “เหรอ?” “...” “มาที่นี่ด้วยความเต็มใจ ไม่มีใครบังคับ ไม่ใช่เพราะจะหนีคดีหรือไง” “...” คีตามองขุนภาคที่บีบข้อมือของเธอแน่นขึ้น...เธอตั้งใจเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเองจริง แต่เพราะชาวีบอกว่าจะให้เธอมาทำงานที่นี่ เพื่อเขาจะไม่เอาเรื่องเธอที่ทำให้ใบบัวตกบันไดและแท้งลูก คีตายอมมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะเธอยอมรับความผิดนั้น แต่ที่เธอมาเพราะเธอไม่อยากโดนยัดข้อหา และไม่อยากมีจุดจบในคุก เธอต้องการสืบเรื่องพินัยกรรมต่อ และจะทวงความยุติธรรมให้ตัวเองโดยป้าพิศจะคอยช่วยอยู่ที่นั่น...ที่คีตายอมมาเพราะเธอเลือกอะไรไม่ได้ และไม่อยากให้เรื่องมันจบโดยเธอสู้อะไรชาวีไม่ได้เลย ต้องยอมให้อีกฝ่ายฮุบทุกอย่างไปและข้อกล่าวหาที่เธอทำร้ายใบบัวจนต้องแท้ง คีตาก็ไม่สามารถดิ้นหลุดจากหลักฐานการใส่ร้ายนั่น...เธอไม่มีปัญญาจ้างทนายที่เก่งกาจมาสู้คดีด้วยซ้ำ เธอไม่เหลืออะไรเลย ความหวังของเธอตอนนี้มีเพียงป้าพิศเท่านั้น อีกฝ่ายรับปากและบอกว่าคุณลุงไชยจะช่วยเธอ คีตาถึงจะอดทนและยอมมาอยู่ที่นี่ แต่ในเมื่ออยู่ไป ขุนภาคก็ทำร้ายเธอจนเกือบตาย เขาต้องการฆ่าเธอให้ตายเพื่อชดใช้ที่เธอทำกับลูกของใบบัว คีตาถูกกล่าวหาว่าตัวเองเป็นฆาตกร โดยที่เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรให้ตัวเองได้เลย ไม่มีแม้แต่คำแก้ตัวให้คนอื่นเชื่อ ชาวีอยู่เหนือเธอ เขามีเส้นสายที่ใหญ่และมีพรรคพวกมากมายเพราะอยู่ในวงการนี้มานาน ส่วนเธอ...ที่ไม่ได้สนใจธุรกิจของครอบครัว ทำตามใจ ทำตามความชอบของตัวเองมาตลอด จนกระทั่งวันที่ถูกกลั่นแกล้ง เธอถึงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ คีตาชะล้าใจ ไม่คิดว่าคุณพ่อคุณแม่จะจากไปไว และไม่คิดว่าชาวีจะทำกับเธอแบบนี้ จะมานึกเสียดายหรือเจ็บใจตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว เธอจ้องตากับเขานิ่ง...จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลอาบสองแก้มต่อหน้าต่อตาของขุนภาค ชายหนุ่มนิ่งงัน มองน้ำตาเม็ดใสที่ไหลพราก ไร้เสียงสะอื้น “ถ้ากลับไป เธอจะติดคุกทันที พี่ชายเธอมีหลักฐานทุกอย่าง หลักฐานที่ทำให้ใบบัวต้องแท้ง ทำร้ายร่างกายโดยเจตนาในคลิปก็เห็นอยู่ทนโท่ จะแก้ตัวยังไงเด็กในท้องก็ต้องตายเพราะเธอ!!” “...” “เธอผลักใบบัวให้ตกบันได ทั้งที่รู้ว่าใบบัวตั้งท้องลูกของพี่ชายอยู่ ฉันถามเธอจริง ๆ คีตา เธอทำได้ยังไง” “ฉันไม่ได้—” คีตากลืนคำพูดของตัวเองลงคอ ภาพวันนั้นผุดเข้าในหัวสมอง เธอกับใบบัวทะเลาะกันตรงบันได วันนั้นคีตาไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่องกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ใบบัวหาเรื่องเธอ ใบบัวตั้งใจยั่วโมโหเธอและเราสองคนก็ยื้อยุดฉุดกระชากกันจริง ๆ คีตารู้ดีว่าตัวเธอออมแรงมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็เพราะรู้ว่าใบบัวท้องอยู่...เธอไม่คิดจะทำร้ายอีกฝ่ายด้วยซ้ำ แต่จะบอกใคร...ใครจะเชื่อ ใครมันจะเชื่อว่าวันนั้นเธอออมแรง ใครมันจะเชื่อว่าวันนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจผลัก ใครมันจะเชื่อว่าเธอไม่มีเจตนาทำร้ายอีกฝ่าย เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาคือวันนั้นใบบัวตกบันได และอีกฝ่ายก็มีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลว่าแท้งลูกหลังจากที่กระแทกตกลงมา ทุกคนมองว่าคีตาเป็นต้นเหตุ เธอร้องไห้สะอื้นในที่สุด ความอึดอัดอยู่ในใจของเธอ ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ “ใบบัวไม่ได้ท้อง...” ทว่าคีตาก็ยังจะพูดออกไป ส่งผลให้ขุนภาคกำข้อมือของเธอแน่นมากขึ้น นัยน์ตาของเขาเริ่มแดงก่ำและแข็งกร้าวเรื่อย ๆ “มีหลักฐานหรือไง?” “...” “หรือคิดเอาเอง” เขาถามกลับ คีตาตอบไม่ได้ เธอได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากและเถียงไม่ได้ว่าเธอคิดเอาเอง พูดปากเปล่า เป็นคำพูดที่ไร้หลักฐานไม่มีน้ำหนัก คีตาคิดว่าตัวเองนั้นแพ้ราบคาบ เธอไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำ และไม่มีโอกาสแม้แต่จะหาหลักฐานพวกนั้นมาแย้งความผิดให้ตัวเองได้ “ฉันจะกลับไปหาความจริง” “กลับไป ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอให้สุขสบาย” “...” “ถึงไม่มีพี่ชายเธอ ฉันนี่แหละที่จะตามไปลากคอเธอกลับมารับโทษเอง” “...” ขุนภาคเหยียดยิ้มขึ้น ถ้าเธอหนีไป เขาสาบานเลยว่าจะตามไปลากคออีกฝ่ายและไม่ให้เธอมีที่ยืนในสังคมอีกตลอดชีวิต สายตาเกลียดชังเธออย่างชัดเจน แน่นอนว่าถ้าคีตาไปจากที่นี่ ชาวีกับขุนภาคคงไม่ปล่อยเธอเอาไว้ให้ลอยนวลอยู่สุขสบาย และคีตาก็จะไม่เหลือความหวังอะไรเลยอีกต่อไป ทั้งหลุดพ้นจากความผิด และทวงทุกอย่างของตัวเองคืนมา เธอจะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว พรึบ! ขุนภาคปล่อยข้อมือเล็กโดยผลักเธอไปด้านหลัง ร่างของคีตาเซถอยหลังหลายก้าวจนเกือบล้ม ดวงตาเลื่อนลอยมีแต่น้ำตาที่เอ่อล้น ขุนภาคมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม “เข้าใจสถานภาพตัวเองแล้วก็ไปทำงานซะ” “...” “ถ้าไม่ปากดีกับฉันก่อน ฉันก็ไม่คิดจะฆ่าเธอง่าย ๆ หรอก” “...” “บอกแล้วไง ว่าปล่อยให้ทรมานแบบนี้สนุกกว่าเยอะ” ขุนภาคพูดแบบนั้นก็หมุนตัวออกจากบ้านทันที ขึ้นรถกระบะคันใหญ่ของตัวเองและขับออกไปจากที่นี่ คีตายกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาของตัวเอง ดวงตาแดงก่ำบวมช้ำหม่นหมอง กวาดมองรอบ ๆ บ้านหลังนี้ ที่เปรียบเสมือนนรกบนบดินก่อนจะหลุบสายตามองพื้นอย่างเหม่อลอย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม