บทนำ
คุณอาขาอย่าทำหนู
นิดา เด็กสาววัยใสอายุสิบแปดปี เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เธอเคยอธิษฐานในวันเกิดตอนอายุแปดขวบให้ได้เป็นภรรยาของคุณอาข้างบ้าน
“นิดา อธิษฐานอะไรดีคะลูก” หญิงสาวอายุราวสามสิบห้าปีท่าทางเพียบพร้อม เรียบร้อย ใจดี เลื่อนเค้กสีชมพูรูปเจ้าหญิงไปตรงหน้าบุตรสาว
“หนูโตขึ้นอยากเป็นเมียอาติณค่ะ” นิดาเป่าเค้กดังฟู่ แก้มกลม ๆ กับผมเปียสองข้างช่างดูน่ารัก แต่คำขอของเธอกลับแสบสันเหลือเกิน
คำตอบของบุตรสาวทำให้บิดามารดายิ้มแห้ง คุณพ่อผู้มีอาชีพเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยปิดชื่อดัง ตำแหน่งศาสตราจารย์ดอกเตอร์นักวิทยาศาสตร์กับคุณแม่ผู้มีอาชีพทันตแพทย์ ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรมโรงพยาบาลเอกชน ได้แต่มองติณภพ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบด้วยใบหน้าเจื่อน ๆ
“ขอโทษด้วยนะติณภพ นิดาอาจยังไม่รู้ความหมายของคำว่า...เมียหรือภรรยา” คุณพ่อกล่าวขอโทษชายหนุ่มข้างบ้าน บุตรสาวมักเรียกเขาว่าอาติณ เพราะติณภพมีอายุไล่เลี่ยกับน้องชายคุณพ่อที่เพิ่งจบปริญญา
“หนูรู้ค่ะ เมียก็คือคนที่นอนเตียงเดียวกัน กอดกัน จูบกันได้ไงคะ เหมือนคุณแม่กับคุณพ่อชอบทำบ่อย ๆ คุณพ่อจูบคุณแม่ทุกที่เลยนะคะ ทั้งจูบแก้มจูบปาก คิดว่าหนูไม่เห็นรึไง คุณแม่เป็นเมียคุณพ่อ หนูเลยอยากเป็นเมียอาติณบ้างค่ะ” นิดากล่าวแย้งออกมา ดวงตากลมโตระยิบระยับมองหน้าพ่อกับแม่สลับกัน นึกถึงภาพจุมพิตแสนหวานยามเช้าตอนคุณแม่ส่งคุณพ่อไปทำงาน
“เอ่อ...โตไปค่อยว่ากันนะลูกนะ นิดาทานเค้กเจ้าหญิงก่อนนะลูก” คุณแม่นวลทิพย์หัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรมทำหน้าแหย ได้แต่บิดมือไปมา หน้าร้อนผ่าวเพราะไม่รู้จะมองหน้าหนุ่มวัยมหาลัยอย่างไรดี คุณแม่ไม่เคยสอนนิดาพูดเรื่องแบบนี้สักครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ นิดาคงยังไม่รู้ความหมายของคำว่าภรรยา...ผมน่ะกินจุ นิดาโตไปอาจไม่อยากเป็นภรรยาผมก็ได้” เด็กหนุ่มในชุดนิสิต สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คสีดำเอ่ยแก้เก้อ เขากล่าวคำว่ากินจุที่มีความนัย ไม่ได้หมายถึงกินข้าวแต่หมายถึงกินอย่างอื่น
เขามองยัยเด็กแปดขวบที่กล้าป่าวประกาศคำอธิษฐานก่อนเป่าเค้กต่อหน้าแขกเหรื่อในงานกว่าสามสิบคน เธออธิษฐานดังลั่นว่าอยากเป็นเมียเขา
นิดายื่นจานเค้กมาให้ติณภพ เขายืนอยู่ ส่วนเธอตัวกะเปี๊ยกเดียว กำลังยืนแหงนหน้ายิ้มหวานส่งจานเค้กมาให้
“ทานเค้กสิคะอาติณ คำอธิษฐานของนิดาจะได้เป็นจริง ถ้าอาไม่ทานเค้กหนูร้องไห้นะ” นิดาน้ำตาคลอทำหน้าเบะปาก
เมื่อเขารับจานขนม เธอเปลี่ยนสีหน้าทันที เด็กคนนี้ความสามารถทางการแสดงระดับตุ๊กตาทอง เขาหรี่ตามองยัยเด็กแก่แดดผมเปียยืนยิ้มแฉ่ง
“อากินดุ กินจุมากนะคะ นิดาไม่เปลี่ยนใจเหรอ” น้ำเสียงอ่อนลงจนเปลี่ยนโทนเสียง แถมลงท้ายคำว่าคะขากับนิดาด้วยความเคยชิน
“ไม่ค่ะ นิดาอธิษฐานให้ได้เป็นเมียอาติณ กินดุ กินจุหมายถึงกินเค้กเหรอคะ”
“อืม”
ติณภพกระตุกยิ้มทีหนึ่ง แก้มแดงร้อนผ่าวไปหมด เขาตักเค้กสตรอเบอรี่เข้าปาก หลุบตามองเจ้าของคำขอวิ่งไปเล่นตุ๊กตาผมทองที่โต๊ะจัดเลี้ยง
พ่อแม่ของเธอมองมาทางเขาพร้อมกับทำหน้าไม่ถูก ติณภพตักกินขนมเค้กชิ้นนั้นจนหมดจาน
“ถือว่านิดาจองอาเป็นผัวแล้วนะครับ”
สิบปีผ่านไป
หนุ่มสถาปนิกไฟแรงวัยสามสิบเอ็ดปี ต้องมารับมือกับอดีตยัยเด็กผมเปียที่พยายามปลุกปล้ำเขาทุกทีที่มีโอกาส ชายหนุ่มหล่อเหลากล้ามล่ำแน่นต้องพยายามหลีกเลี่ยงมนุษย์ราคะอายุสิบแปดปี
เขาเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กจะ ทำ เธอลงได้อย่างไรกัน
ที่สำคัญเธอมีแฟนแล้วชื่อไอ้เด็กบอม เรียนอยู่ปีสาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ เด็กบอมฮอทยิ่งกว่าตอนติณภพเรียนมหาวิทยาลัย แถมหน้าตาอย่างกับพระเอกเกาหลี
“ต้องไปมู (เตลู) วัดไหนคะถึงจะได้เป็นเมียอาติณ”
“ไปเลิกกับแฟนก่อน ค่อยมาเป็นเมียอา อาไม่อยากเป็นที่หนึ่งของใคร เพราะไอ้ที่สองคงไม่มีโอกาสมีชีวิตอยู่หายใจบนโลกนี้ ตำแหน่งผัวมีได้คนเดียวเท่านั้น”
นิดานึกถึง คำอธิษฐานในวัยแปดขวบจะกลายเป็นจริงหรือไม่
“หนูโตขึ้นอยากเป็นเมียอาติณค่ะ” ภาพเธอเป่าเค้กวันเกิดตอนอายุแปดขวบผุดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง