ตอนที่ 2
เด็กโฮสต์ตัวท็อป
“ไม่ไห้หวานแค่ปากนะครับพี่ลิน ...ลองชิมดูมั้ยครับ”
หน้าหล่อเหลาเบียดชิดใกล้จนลมหายใจผ่าวร้อน รวยรดรินต้นคอขาว ริมผีปากเย็นนั้นแตะเบาๆยังผิวเนื้ออ่อนข้างลำคอก่อนจะขบเม้มเบาๆ แค่นั้นขนอ่อนในกายของ เกวลิน ก็ลุกชูชัน
“มะ..ไม่นะชิน พี่แค่ต้องการคนเอาใจแบบฟินแฟนเท่านั้น”
หญิงสาวรีบปฎิเสธแต่ไม่ได้ดันตัวเขาออกห่าง ด้วยแม้ว่าเธอจะต้องการความสุนทรีย์ให้ผ่อนคลายเพียงใด แต่ตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในสถานะการแต่งงานที่ยังไม่ได้หย่าขาดอย่างเป็นทางการจาก สุรเชษฐ์ สามีที่แต่งงานเพื่อผลทางธุรกิจเท่านั้น
ทั้งที่อีกฝ่ายก็มีคนที่คบหาและแอบกินกันอยู่แล้ว
“ขอโทษครับพี่ลิน”
ชิน เอ่ยเสียงอ่อย ใบหน้าหล่อเหลานั่นเจื่อนลงเล็กน้อย “ผมแค่ถูกใจพี่มาก ก็เลยเผลอตัวไปหน่อยเท่านั้น”
รู้หรอกน่า! ว่าพูดแบบนี้กับลูกค้าสาวทุกคน
“เป็นไงบ้างลิน น้องชินถูกใจมั้ยนี่ฉันเลือกเด็กโฮสต์ตัวท็อปของที่นี่ให้เลยนะ” อรสาหันมากระซิบถาม เมื่อเด็กหนุ่มของตัวเองขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และชินกำลังผละตัวไปสั่งไวน์ขวดใหม่ให้กับเธอ
“แกนี่ใช่ย่อยนะอร เชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน”
เกวลิน ตอบแซวๆด้วยรู้ว่าเพื่อนสาวหย่าร้างมานานแล้ว และไม่สนใจจะมีครอบครัวใหม่เป็นตัวเป็นตน ยังคงสนุกสนานกับการได้ผ่อนคลายในลักษณะนี้
“ก็ฉันโสดนี่จะทำไม ว่าแต่แกเหอะจะเอาเพิ่มมั้ย น้องเบอร์ห้าก็เข้าท่านะแกคนนั้นแค่เห็นกล้ามฉันก็น้ำลายหกแล้ว” เพื่อนสาวชี้มือไปบนเวที
“คนนั้นเหรอ? อะ..”
ทว่ามือหนาของชิน ดึงร่างของเธอให้กลับมาใกล้จนปะทะกับอกแกร่งของเขา
“พี่ลินคงไม่เรียกใครเพิ่มแล้วครับพี่อร ไม่ต้องแนะนำหรอก แค่มีผมดูแลคนเดียวก็พอแล้ว” เสียงชินเหมือนจะเข้มขึ้น ก่อนจะหันมามองหน้าสวยจัดของเธอ แล้วยื่นแก้วไวน์ให้ คิ้วหนายกขึ้นเล็กน้อย “จริงมั้ยครับพี่ลิน”
“อืม”
เธอรับแก้วไวน์มาจิบ อรสาได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“แหมน้องชิน บริการดีเว่อร์เกินเบอร์แล้วนะ ทีกับพี่ละจองคิวตั้งนานไม่เห็นจะว่างเสียที บ่ายเบี่ยงมาตลอด”
ชินหัวเราะในลำคอเบาๆ “พอดีผมยุ่งจริงๆครับพี่อร แต่พอมีโอกาสก็อยากจะบริการพี่ลินเขาเต็มที่ อย่าว่ากันเลยนะครับ” มุมปากหยักได้รูปยกยิ้มจนเห็นแก้มบุ๋ม
หน้าหล่อเหลานั้นสว่างจ้า จนเกวลินอดที่จะจ้องมองไม่ได้
คนอะไรหล่อฉิบหาย! หากบอกว่านี่คือลูกรักพระเจ้าก็ไม่น่าจะผิดแต่อย่างใด
“หือ อ้อนเก่งแบบนี้ใครจะไปโกรธลง ว่าแต่หมดคิวลินเมื่อไหร่ พี่จะจองต่อนะชิน”
“คงน่าจะผูกนานเลยนะครับ”
ชินหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมากระซิบข้างๆเธอ “จริงมั้ยครับพี่ลินของผม”
พี่ลินของผม ...ช่างสรรหาคำหวานป้อยอเสียจริง
อรสา ได้แต่ส่ายหน้าหัวเราะก่อนจะหันกลับไปสนใจบนเวทีและเด็กเอ็นของหล่อนต่อ ทิ้งให้เกวลินนั่งอยู่ห่างๆกับเด็กโฮสต์ตัวท็อปที่คอยเอาใจใส่อยู่ไม่ห่าง
“ผ่อนคลายหน่อยซิครับพี่ลิน”
มือหนาบีบนวดต้นขาเธอเบาๆอย่างเอาใจ ชินอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตเนื้อดีสีขาวสะอาดที่พับแขนไปถึงข้อศอกเห็นรอยสักรูปกงจักรแปลกๆและเส้นเลือดปูดโปนน่ามอง
พลันลำคอของ เกวลินรู้สึกแห้งผากขึ้นมาดื้อๆ
“โทษทีพี่มีเรื่องเครียดหลายเรื่อง”
หญิงสาวถอนหายใจเล็กน้อย แม้สถานที่และผู้คนแห่งนี้จะทำให้รู้สึกลืมหลายเรื่องที่ประสบมา แต่ก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น เพราะเมื่อนั่งสงบสักพักสมองก็วกกลับไปคิดอีกจนได้
“เล่าให้ผมฟังซิครับ เล่าได้ทุกเรื่องเลยเผื่อผมจะช่วยพี่ได้”
น้ำเสียงเขาออดอ้อนและอ่อนโยน นิ้วมือเรียวแข็งไล้กดตามต้นแขนและหัวไหล่อย่างคนรู้งาน นั่นทำให้เธอเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นจริงๆ
“จะช่วยพี่ได้จริงเหรอ”
เกวลินหัวเราะเบาๆ หลับตาลงช้าๆเอนศรีษะกับพนักนุ่มของโซฟาตัวใหญ่ ขาอีกข้างของเธอคล้ายจะเกยทับขึ้นไปบนต้นขาของเขา หน้าหล่อเหลาของชินโน้มลงมาใกล้
“ได้ซิครับ ..ผมเป็นผู้วิเศษนะพี่บอกมาได้เลยว่าจะให้ทำอะไร ผมจะทำให้พี่ได้ทุกอย่าง”
หากบอกว่านี่คือสรวงสรรค์ที่เธอมาหลบเลียแผลใจก็คงจะไม่ผิด และการได้มาเจอกับปีศาจที่แปลงกายเป็นเทพบุตรกระซิบคำหวานบอก ว่าจะเสกพรมากมายให้เธอ
แม้เป็นแค่จินตนาการ ก็ทำให้เธอรู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจ
“ธุรกิจฉันกำลังมีปัญหา” ริมผีปากจิ้มลิ้มเอ่ยเบาๆ ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังขึ้น ด้วยไม่ได้ปราถนาอยากจะให้คนอื่นได้ยิน เพียงอยากจะพูดออกไปเท่านั้น แต่ชินเหมือนจะใส่ใจพอควร เขาโน้มใบหูลงแทบจะแนบชิดกับปากของเธอและฟังอย่างตั้งใจ
“ครับ”
“โครงการหลายอย่างที่ฉันบริหารเริ่มติดขัดขายไม่ออก แบงค์ก็เริ่มไม่ปล่อยกู้อาจเพราะสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้เกิดภาวะเงินฝืด แถมตอนนี้สามีฉัน...”
หญิงสาวชะงักคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะผ่อนลมหายใจเบาๆ
สามีที่เหมือนไม่ใช่สามี เพราะการแต่งงานแค่ในนามเท่านั้น เธอกับสุรเชษฐ์แทบไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน และพูดคุยกันไม่กี่ครั้ง
ยิ่งเมื่อรู้ว่าธุรกิจฝั่งครอบครัวเธอเริ่มจะไปไม่รอด คล้ายฝ่ายนั้นจะเริ่มตีตัวออกห่าง สัญญาก่อนหน้าที่ว่าจะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องเงินทุนนั้นเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่ตกลงกันไว้แต่ในตอนแรก
“ถ้าผมรู้ว่ากริลล่าเอสเตรทจะดิ่งขนาดนี้ผมคงไม่แต่งงานกับคุณให้เสียเวลา”
ฝ่ายนั้นบอกเธอไว้เช่นนั้น และความห่างเหินก็ยิ่งชัดขึ้น แม้เกวลินจะตระหนักอยู่แล้วว่าเขากับเธออาจจะแต่งงานกับเพื่อเงื่อนใขและผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่ก็ไม่คาดว่าเขาและคนรักของเขาจะเล่นตลบหลังเธอขนาดนี้
อย่างน้อยคิดว่าถ้าสักวันต้องหย่าขาดกัน ก็น่าจะเป็นเพื่อนทางธุรกิจที่ดีต่อกันในภายภาคหน้าได้ เพราะครอบครัวเธอกับสุรเชษฐ์ก็รู้จักกันมาก่อนอยู่แล้ว
“ไม่เห็นต้องเครียดเลยครับพี่ลิน”
ชินกระซิบข้างใบหูขาว มือหนาไล้กดนวดตามแผ่นหลังเธอเบาๆ เกวลินปรือตาขึ้นมองและสบตากับดวงตาคู่สีนิลเข้มดั่งรัตติกาลที่แสนยั่วยวนนั้น
“อืม” ทำไมเด็กนี่เหมือนมีมนต์อะไรบางอย่าง เมื่อมองริมผีปากหยักโค้งขึ้น
“ถ้าไม่ไหว ...ก็แค่หย่านะครับ”