มิลิน
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนจากแอปธนาคารดังขึ้น พร้อมกับแสงแดดบ่ายสามที่ส่องตรงหน้าจอมือถือ
มิลินยืนอยู่หน้าสำนักงานข่าว
โทรศัพท์ในมือสั่นไหวไม่ต่างจากหัวใจของเธอในตอนนี้
เงินถูกถอนออกจากบัญชีจำนวน 65,000 บาท
ยอดเงินคงเหลือ 150 บาท
เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ ในลำคอ
หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ มือสั่นจนเผลอกดโทรออกไปยังเบอร์ที่เธอไม่เคยอยากโทรหา
เสียงปลายสายรับเร็วเกินไป ราวกับรอจะเหยียบย่ำเธอ
"มีอะไรอีกล่ะ?"
เสียงของแม่เลี้ยงดังขึ้นทันที
"แม่... เงินในบัญชีหนูหายไปหมดเลย... นั่นมันเงินที่หนูเก็บไว้จ่ายค่าเทอมให้มินนี่นะคะ"
เสียงของมิลินสั่น แต่ยังพยายามพูดให้สุภาพ
"ฉันถอนเอง" แม่เลี้ยงพูดเสียงเย็น
"แล้วไง? มินนี่ก็ลูกฉัน เงินของฉันจะใช้ยังไงก็เรื่องของฉัน"
"แต่นั่นมันเงินที่หนูเก็บเอง หนูไม่ได้ขอจากแม่เลยนะคะ!"
เธอพูดเร็วขึ้น น้ำตาเริ่มไหลโดยไม่รู้ตัว
"เลิกทำเป็นร้องไห้หน่อยเถอะมิลิน
จะเป็นพี่ที่ดีใช่ไหมล่ะ?
งั้นก็หาทางจ่ายเองแล้วกัน เก่งนักไม่ใช่เหรอ"
ตู๊ด... ตู๊ด...
เสียงตัดสายดังขึ้นอย่างไร้เยื่อใย
มิลินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน
มือข้างหนึ่งยังกำโทรศัพท์แน่น
อีกข้างทิ้งลงข้างตัวอย่างหมดแรง
เสียงรองเท้าส้นแบนกระทบพื้นทางเท้าคอนกรีตชื้นๆ ด้วยฝุ่นละอองจากลมบ่าย
หญิงสาวร่างเล็กเดินฝ่าแสงแดดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง น้ำตาคลอเบ้าราวกับกลั้นมันเอาไว้มาหลายชั่วโมง
มือบางกำสายกระเป๋าสะพายแน่น เหมือนมันคือสิ่งสุดท้ายที่เธอยังมีในชีวิต
ในมุมถนนฝั่งตรงข้าม
รถยนต์สีดำสนิท รุ่นหรู ราคาหลายสิบล้าน จอดนิ่งอยู่หน้าตึกสูง เพื่อรอสัญญาณไฟเขียว
อชิรวัฒน์ ธิรเดชากุล หรือที่ใครๆ ในโลกมืดเรียกว่า 'พี่ใหญ่'
เขานั่งไขว้ขาอยู่เบาะหลัง สูบบุหรี่ในความเงียบของเจ้าพ่อผู้ไม่เคยเอ่ยคำฟุ่มเฟือย
เขาเลื่อนกระจกลงครึ่งหนึ่ง
ปลายนิ้วคีบบุหรี่ไว้ พลางพ่นควันออกไปทางหน้าต่างด้านซ้าย
และในจังหวะที่เขาหันหน้าออกไปข้างนอก...
...เขาก็เห็นเธอ
หญิงสาวตัวเล็ก ผิวขาวจัดเหมือนตุ๊กตา ใบหน้าหวานแสนเศร้า ราวกับแบกรับโลกทั้งใบไว้คนเดียว
เธอเดินช้าๆ ผ่านหน้ารถของเขาไป โดยไม่ได้มองเข้ามาแม้แต่นิดเดียว
แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะ เขา ต่างหากที่ 'หยุดมอง'
ดวงตาคมเข้มของมาเฟียหนุ่มไม่ละไปไหน
แทบจะกลืนร่างบางนั้นไว้ในแววตา
เหมือนกำลังจ้องใครบางคนที่คุ้น... คุ้นจนเหมือนเคยได้ สัมผัส
"พี่ใหญ่... ชอบแบบนี้เหรอครับ?"
เสียงของลูกน้องดังขึ้นเบาๆ ขณะนั่ง อยู่หลังพวงมาลัย ไม่มีคำตอบจากเจ้านาย
มีเพียงแค่เสียงพ่นควันเบาๆ
กับสายตานิ่งลึกที่ยังเฝ้ามองเธอผ่านกระจกมองข้าง...
จนเธอลับหายไปจากภาพสายตา
3 ชั่วโมง
ก่อนหน้านี้บ้านตระกูลธิรเดชากุล
เสียงรองเท้าแตะดัง แฉะ! แฉ! เดินเข้ามาในห้องอาหารหรูของบ้าน
'คุณแม่ไออุ่น' แม่ของอชิ เดินตรงมาพร้อมถ้วยชาจีนใบโปรด
น้ำเสียงของเธอปกติจะนุ่มนวล สง่างาม ราวกับหญิงผู้ดีผู้ทรงอำนาจ...
แต่วันนี้ บรรยากาศรอบโต๊ะอาหารกลับเย็นเฉียบจนแม้แต่แม่บ้านยังไม่กล้าหายใจเบาๆ
“อชิรวัฒน์...”
เสียงเธอเรียกเต็มยศ ไม่มีคำว่า “ลูก” หรือ “ลูกรัก” เหมือนเช่นเคย
ชายหนุ่มเจ้าของนามนั้น หยุดช้อนกาแฟในมือทันที
เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่ใครในบ้านก็รู้ดี
ว่านี่คือสีหน้าของ ลูกชายที่รู้ว่ากำลังโดนแม่จัดการ
"ครับ..."
เสียงตอบรับสั้นๆ แต่นอบน้อมกว่าปกติ
"ลูกชายบ้านไหนอายุ 33 แล้วยังไม่ยอมแต่งงาน ไม่มีเมีย ไม่มีหลานให้แม่อุ้ม จะให้แม่ถือไม้เท้าเดินไปรับขวัญหลานหรือไง?"
อชิไม่ตอบ
เพียงยกกาแฟขึ้นจิบอย่างไม่สะทกสะท้าน
“หรือจะให้แม่ส่งข่าวไปบอกนักข่าว ว่าลูกชายแม่มีปัญหาทาง... สุขภาพ?”
คำพูดเชือดนิ่มๆ แต่จงใจ แม้ลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่อีกมุมยังเผลอกลั้นหายใจ
อชิ วางถ้วยกาแฟลงบนจานรอง
วางอย่างสุภาพ แต่แววตาเริ่มเย็นเฉียบ
“ถ้าแม่อยากอุ้มหลาน...”
“ผมหาผู้หญิงมาคนหนึ่งก็ได้”
“แม่ไม่ต้องรู้จักชื่อ ไม่ต้องรู้จักที่มา แค่ให้เธอมีลูกให้ก็พอ... ใช่ไหมครับ?”
คำตอบเรียบเย็นจนแม้แต่คุณแม่ไออุ่นยังชะงัก แววตาแม่ลูกประสานกันในความเงียบ
คุณแม่ไออุ่นเงียบไปชั่วครู่ แต่แววตานั้นกลับไม่เงียบเลย
เธอจ้องลูกชายแน่นิ่ง... สีหน้าสงบนิ่งแต่รังสีรอบตัวเย็นจัดยิ่งกว่าน้ำแข็ง
“อชิ... ลูกจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ แม่สอนให้ลูกเป็นคนไม่ให้เกียรติผู้หญิง ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
น้ำเสียงของเธอไม่ได้ดัง...
แต่ราบเรียบและชัดเจนจนรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนในอก
อชิชะงักเล็กน้อย
ชายผู้เยือกเย็น นิ่งขรึม โหดเหี้ยมในสายตาคนทั้งโลก... แต่ในเวลานี้ กลับหลบสายตาของแม่เหมือน เด็กชายที่โดนจับได้ว่าโกหก
เขาหลบตาเล็กน้อย ก่อนถอนหายใจเบาๆ
“งั้น... รอให้ผมหาผู้หญิงที่ผมถูกใจ และแม่ก็ถูกใจเจอแล้ว... ผมจะขอเธอมาเป็นสะใภ้ให้แม่นะครับ”
คำพูดนั้นนุ่มนวลกว่าที่ใครเคยได้ยินจาก อชิ แต่คุณแม่ไออุ่นไม่ตอบทันที เธอมองเขานิ่ง ก่อนเอ่ยตอบเสียงต่ำ แต่แฝงแรงสะเทือนอยู่ในถ้อยคำเพียงไม่กี่คำ
“เมื่อไหร่ล่ะ?”
“แม่ต้องตายก่อนมั้ย... อชิรวัฒน์?”
~ทั้งห้องเงียบกริบ~
อชิเงียบไปทันที ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาคมกริบที่เคยใช้มองศัตรู ในวงการใต้ดิน... ตอนนี้กลับหลบแววตา ของผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่เคยชนะได้เลยในชีวิต
"แม่ไม่เคยสนฐานะ ไม่สนว่าเธอจะเป็นใคร"
"แต่แม่จะรัก... ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดี และถ้าลูกชายแม่... รักเธอจริง"