บุษบามินตรามีนิสัยที่เคยคิดว่าเป็นข้อดีของตัวเองอยู่อย่างหนึ่ง
นอกจากเป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก เก็บความลับเก่ง (ไม่อย่างนั้นเธอคงสารภาพรักกับเพื่อนสนิทไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว) ช่วยเหลือเพื่อนฝูง ชอบทำกิจกรรม ขยันทำงานแล้วก็มักตัดสินใจอะไรๆ ด้วยตัวเองได้
แต่ไม่ใช่ครั้งนี้...
เธออยากมีที่ปรึกษา โคตรอยากปรึกษา อยากระบายความอัดอั้นนี้กับใครสักคน แต่นี่เป็นเรื่องน่าอาย น่าอายมากๆ และเป็นหลุมดำในชีวิตที่ไม่สามารถบอกกล่าวกับใครได้ แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดอย่างตุลยวัตรกับพิจิกา แน่นอนว่าโดยเฉพาะสองสามีภรรยาคู่นั้น คือคู่ที่ห้ามรู้เรื่องเหล่านี้มากที่สุดด้วย
ถ้าตุลยวัตรรู้ว่าเธอพลาดเพราะอกหักจากเขา หรือพิจิการู้ว่าเธอแอบรักสามีของหล่อนมานานสิบกว่าปี สองคนนี้อาจจะมีปัญหากัน โดยเฉพาะตุลยวัตรที่น่าจะโทษว่าเป็นความผิดตัวเองก็เป็นได้
แต่เมื่อมองเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย บอกตามตรงว่ามีแต่พวกสายเรื้อนปากสว่าง ไม่น่าเก็บความลับได้สักคน แถมสองในสามยังเป็นแฟนคลับของวชรวรรษ ที่ได้ชื่อว่าเป็นไฮโซตัวท็อปของเมืองไทย เดือนในตำนานของมหาวิทยาลัย พ่วงด้วยอดีตนักแสดงชื่อดังที่เล่นเรื่องเดียวแล้วออกจากวงการ แต่ชื่อเสียงไม่เคยหายไปจากวงการ ผู้ชายที่ครอบครองสถิติคบแล้วเทนักแสดงสาวมาเกือบครึ่งวงการได้แล้วกระมัง!
นั่นยิ่งทำให้เธอไม่อาจปริปากบอกเรื่องนี้กับใครได้เลยละ!
สุดท้ายบุษบามินตราเลยไม่ได้ปรึกษาใคร และตัดสินใจได้ว่าเธอควรจะหลบหนีวชรวรรษสักพัก อาจจะสักเดือนเพื่อให้เขาลืมเรื่องบ้าๆ พวกนี้แล้วค่อยกลับมาดูลาดเลา ถ้าเขาไม่หายบ้า เธออาจจะต้องตัดสินใจลาออกจากงานแล้วย้ายไปต่างประเทศ ขอพ่อไปเรียนต่อน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับเธอ!
ถึงตอนนั้นต่อให้วชรวรรษป่าวประกาศเรื่องแดงขึ้นมา ก็ทำอะไรเธอไม่ได้แล้วล่ะ!
เออ เอาตามนี้แหละ เธอคิดแล้วเริ่มคำนวณวันลาของตัวเองว่ายังเหลืออยู่เท่าไร นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าโชคดีที่ตัวเองเป็นเด็กเส้น คุณหญิงแม่ของวชรวรรษคงจะยอมให้เธอลางานยาวได้อย่างแน่นอน!
๐๐๐
วันต่อมาบุษบามินตราก็ไปทำงานแต่เช้า เธอเกริ่นกับพ่อและแม่เมื่อเช้าบนโต๊ะอาหารว่าจะลาหยุดยาวไปเที่ยวต่างประเทศสักพัก พ่อของเธอที่ทำงานเป็นซีเอฟโอ[1]ของบริษัทในเครือเอสเอ็นได้แต่มองลอดผ่านแว่นสายตาตำหนินิดหน่อย แล้วบอกว่าถ้าเธอลาได้อยากจะไปก็ไป ส่วนแม่ได้แต่บอกว่าจะลิสต์รายชื่อของที่จะฝากซื้อ โดยไม่ถามสักคำว่าเธอจะไปประเทศไหนและไปกี่วัน
“น้องมิ้นต์ งานเลี้ยงช่วงเย็นวันแต่งงานคุณไนต์หนูไปอยู่ไหนลูก ทำไมพี่ไม่เห็นหนูเลยคะ”
ทันทีที่เธอมาถึงที่ทำงาน พี่อ้อมก็เอ่ยถามแล้วตีแขนเธอรัวๆ ด้วยสีหน้าขัดอกขัดใจ
พี่อ้อมเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของคุณหญิงป้าภัทราวรรณ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานของบริษัท แน่นอนว่ายังเป็นมารดาของวชรวรรธและตุลยวัตรอีกด้วย
ตั้งแต่บุษบามินตราเรียนจบ เธอก็ถูกคุณหญิงป้าเรียกตัวให้มาทำงานเป็นผู้ช่วยด้วยอีกคน อันที่จริงงานส่วนใหญ่ที่เธอทำก็เป็นการจัดการตารางงานที่นอกเหนือจากงานของบริษัท นัดต่างๆ รวมถึงทุกสิ่งอย่างในชีวิตประจำวันของคุณหญิงป้านั่นแหละ
ตำแหน่งเธอนั้นบอกตามตรงว่าคือตำแหน่งเด็กเส้นดีๆ นี่เอง เนื่องจากบิดาของเธอเป็นซีเอฟโอที่นี่และยังเป็นมือขวาของท่านประธานซึ่งก็คือบิดาของวชรวรรธ ตอนแรกเธอก็โกรธที่โดนนินทาลับหลังแบบนั้น แต่พอเธอบ่นออกมา ตุลยวัตรกับพิจิกาก็พากันหัวเราะเธออย่างนั้น โดยเฉพาะเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กอย่างตุลยวัตรที่ย้อนถามให้เจ็บใจว่ามันไม่จริงตรงไหน ซึ่งบุษบามินตราก็ได้แต่พูดไม่ออก แถมยังโดนพิจิกาย้อนถามอีกว่าการทำงานกับคุณหญิงป้าไม่ดีหรือ ทำให้บุษบามินตราได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
เธอเองชอบที่ได้ทำงานกับพี่อ้อมและคุณหญิงป้า ถึงจะเข้ามาได้เพราะเส้น แต่คุณหญิงป้าไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอกินเงินเดือนเปล่าๆ เธอได้ทำงาน วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้ายันเย็น ทำผิดก็ไม่ได้มีข้อยกเว้นเหมือนคนอื่น อาจจะมีความเมตตาและใจดีกับเธอมากกว่าก็จริงอยู่ ทว่าสิ่งที่ควรตำหนิเธอก็โดนหมด
ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน บุษบามินตราซึ่งมักจะนัดกับกลุ่มแก๊งเพื่อนชะนีที่เรียนจบมหาวิทยาลัยเดียวกันและเป็นเพื่อนสนิทช่วงเรียนมหาลัยที่พอแยกย้ายกันไปทำงานต่างก็มักจะปรับทุกข์กันเรื่องการทำงานเสมอ อาจจะเป็นเพราะเพื่อนหลายคนไม่ได้โชคดีอย่างเธอที่ได้เจ้านายดีๆ เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนแล้วที่คุณหญิงป้าเป็นเจ้านายที่ดี
“หนูเหนื่อยน่ะค่ะ เลยหลบไปนอนตอนเริ่มอาฟเตอร์ปาร์ตี้”
เธอบอกพี่อ้อมไปตามตรง คนอายุมากกว่าเธอนับสิบปีเลยได้แต่ทำสีหน้าบางอ้อ
“พี่ก็ลืมไปว่าน้องมิ้นต์เป็นเพื่อนสนิททั้งกับคุณไนต์และคุณพิงกี้ ควบตำแหน่งทั้งเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลยเหนื่อยกว่าใครเลย”
คนอายุมากกว่าร่ายออกมายาวเหยียดด้วยความเห็นใจ เพราะสองเพื่อนสนิทของเธอ คนหนึ่งเพื่อนตั้งแต่เกิดอีกคนเพื่อนสมัยตั้งแต่มัธยม แต่มารักกันจริงๆ ตอนมหาวิทยาลัยโดยมีเธอเองเป็นแม่สื่อแท้ๆ พองานแต่งงานตัวเองต่างก็ชี้นิ้วอะไรๆ ก็ให้เธอช่วยเลือกช่วยตัดสินใจจนบุษบามินตราแทบจะเหมือนคนที่ต้องแต่งงานเองอยู่รอมร่อ เพราะคู่รักคู่นี้ดันไว้ใจรสนิยมของเธอมากกว่าตัวเองน่ะสิ!
...โดยไม่รู้เลยว่าเธอขมขื่นใจมากแค่ไหนกว่าจะผ่านมาได้
ทว่าบุษบามินตรากลับชะงักกึกเมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านี้ น่าแปลกที่เธอกลับไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คิด มิหนำซ้ำดูเหมือนว่าเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่าอย่างวชรวรรษจะทำให้เธอหวาดผวาเสียจนไม่ได้สนใจความเจ็บปวดเพราะอกหักของตนเองเลยด้วยซ้ำไป
“นั่นแหละค่ะ สองคนนั้นใช้งานหนูคุ้มค่าเลย หนูเลยหนีไปนอนน่ะค่ะ”
เธอรีบสมอ้างตามที่อีกฝ่ายเข้าใจอย่างนั้น
.
.
.
.
.
[1] ซีเอฟโอ (CFO - Chief Financial Officer) คือ ผู้อำนวยการสายการเงิน ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดด้านการบัญชีและการเงินของบริษัทหรือองค์กร