แสงดาวนั่งมองชายหนุ่มทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจ เขาช่างน่าหลงไหล แสงดาวแอบมองแล้วยิ้ม
จนกระทั่งภามเครียร์ทุกอย่างเสร็จ จึงพาแสงดาวมาทานข้าวในร้านอาหารที่ไม่ไกลจาก สน เท่าไหร่นัก เป็นร้านที่เขามานั่งทานประจำ และเขาก็คิดว่ามันอร่อยใช้ได้เลย แสงดาวนั่งทานอาหารกับภามคุยเล่นถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
" ดาวพักที่ไหน "
" คอนโดห่างจากนี่ประมาณ 6 โล พอดีมันใกล้ที่ทำงานใหม่น่ะ "
" แล้วเริ่มงานเมื่อไหร่ "
" มะรืน "
" น่าเสียดาย มะรืนตรงกับวันหมั้นเราพอดีเลย ว่าจะชวนไปร่วมงานซะหน่อย แต่ไม่เป็นไร ไว้รอไปงานแต่งเลยแล้วกันนะ "
ภามพูดอย่างอารมณ์ดี แสงดาวฝืนยิ้ม แม้ความเจ็บปวดจะมาก แต่เธอต้องฝืนแสดงความยินดีกับเขา
" คู่หมั้นภามทำงานอะไรเหรอ "
" น้องตรีเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนเอกชน PL น้องพึ่งเรียนจบมาน่ะ "
" แล้วภามไปรู้จักน้องเค้าได้ยังไง "
" จริงๆ รู้จักมานานแล้ว รู้จักตั้งแต่เด็กๆเลยแหละ ขอไม่เล่านะ เราอยากให้มันเป็นความทรงจำของเรากับน้องตรี "
ภามไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไร เพราะนั่นคือความทรงจำที่เขาไม่อยากให้ใครรู้ ทำเอาตรีทิพย์เจ็บแปลบ คำพูดเขาเหมือนเธอเป็นคนอื่นทั้งที่สนิทกันและเธอก็รู้ใจเขาแทบทุกเรื่อง
แต่สิ่งที่แสงดาวสังเกตเห็น คือภามพูดถึงเด็กนั่นด้วยแววตาประกายแวววาว ดูมีความสุขในแบบที่เธอเองยังรู้สึกได้ แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกน้อยใจว่า ทำไมนะ เธอที่ดีกับเขา อยู่เคียงข้างเขามาตลอด ทำไมเขาถึงไม่มองเธอบ้าง แสงดาวเก็บกลั้นความอิจฉาริษยาไว้ในใจ พยายามไม่แสดงออกมาให้ภามเห็น เธอพยายามฝืนยิ้มเต็มที่ขณะที่อยู่ต่อหน้าภาม เพราะไม่อยากให้ภามรู้ว่าเธอกำลังน้อยใจแค่ไหนที่ภามไม่เคยมองเธอเลย
หลังจากทานอาหาเสร็จ ภามก็กลับมาทำงาน ในขณะที่แสงดาวขอตัวกลับก่อน
" ว่างๆดาวจะแวะมาหานะ "
" อืม ขับรถดีดีล่ะ "
" อืม "
แสงดาวขับรถออกไปแล้ว ภามจึงกลับเข้าไปในห้องทำงาน ผ่านด่านลูกน้องที่ถามไถ่อย่างล้อเลียน
" คนไหนตัวจริงกันแน่ครับผู้กอง "
ภามส่งสายตาดุดันให้ลูกน้องที่พูดเล่นไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงดุดันไม่แพ้สายตา
" ตัวจริงของกูมีแค่คนเดียว "
ภามไม่ได้ถือสาลูกน้องหรอก แต่เวลางานคือจริงจังสุดๆ
ด้านแสงดาว เธอไม่ได้กลับไปที่คอนโดหรอก เธอโทรหาอัญชัญ เพื่อสอบถามเส้นทางไปโรงเรียนเอกชน PL เป้าหมายคือ ' นังเด็กนั่น '
ปฏิบัติการสร้างความร้าวฉานกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
' ภามต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น '
แสงดาวขับรถมาถึงโรงเรียนเอกชน PL ในเวลาไม่นานนัก เธอแอบสอดส่องหาเป้าหมายทันที รออยู่ซักพัก ก็เห็นตรีทิพย์ เดินนำเด็กๆออกมา
" เป็นครูอนุบาลเหรอ น่าสนใจดีนี่ "
สายตาที่แสงดาวมองตรีทิพย์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ซักพักเธอก็ปรับสีหน้าเป็นยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปหาตรีทิพย์
" สวัสดีค่ะน้องตรีใช่มั้ย จำพี่ได้มั้ยเอ่ย "
ตรีทิพย์เงยหน้าขึ้นมอง และเธอจำแสงดาวได้ แต่รู้สึกแปลกใจไม่ใช่น้อยว่าทำไมแสงดาวถึงมาอยู่ที่นี่
" สวัสดีค่ะคุณแสงดาว มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ "
" อ่อ พอดีพี่แวะไปหาภามมาน่ะค่ะ ไปทานข้าวกลางวันกับภาม ภามเค้าน่ารักมากเลยนะคะ เลี้ยงข้าวพี่ด้วย เห็นภามบอกว่าน้องตรีเป็นครูอยู่ที่นี่ ให้พี่ลองแวะมาทำความรู้จักกับน้องตรีน่ะค่ะ "
" อ่อ ค่ะ "
แม้จะรู้สึกจุกกับสิ่งที่ได้รู้แต่ตรีทิพย์ก็รู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากลแปลกๆ เธอรู้สึกถึงความไม่จริงใจในน้ำเสียงของแสงดาว
" น้องตรี คบกับภามมานานแล้วเหรอคะ "
เป็นคำถามที่เธอตอบไม่ได้เพราะเธอกับภามไม่เคยคบกันเลย แต่จับพลัดจับผลูต้องมาหมั้นโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นเอง
" ค่ะ "
" เห็นภามบอกว่า ถูกจับหมั้นโดยไม่ตั้งใจเหรอคะ "
ตรีทิพย์ไม่ตอบ เธอทำได้เพียงแค่ยิ้ม แต่ซ่อนความไม่พอใจไว้อย่างมิดชิด
" น่าสงสารภามนะคะ ต้องมารับผิดชอบทั้งที่ไม่เต็มใจ "
ผิดคาดที่ไหน นึกอยู่แล้วว่ายัยนี่มาต้องไม่หวังดีแน่นอน
" ถ้ามันฝืนใจนัก ก็ไม่ต้องหมั้นก็ได้นี่คะ "
" ตรีก็ไม่ได้อยากหมั้นหรอกค่ะ แต่ผู้ใหญ่เค้าตกลงกันไว้แล้ว แต่คุณแสงดาวไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หมั้นได้ ก็ถอนหมั้นได้ เดี๋ยวตรีขอตัวก่อนนะคะ ตรีต้องทำงาน "
ตรีทิพย์เดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ใช่เธอไม่รู้สึก แต่แค่ไม่แสดงออก ตรีทิพย์มีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากพอ
แสงดาวแอบหมันใส้เบะปากตามหลังตรีทิพย์
" หึ ตรีต้องทำงาน แหวะ "
แสงดาวเดินกลับไปที่รถ ในขณะที่ภูแอบฟังอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แสงดาวมาถึง เขาได้ยินทุกคำที่สองสาวสนทนากัน และเริ่มรู้สึกว่าแสงดาวดูไม่น่าคบเลย ดูไม่ใช่คนดีเหมือนที่แสดงออกต่อหน้าผู้กองเลยซักนิด
" อย่างกะคนละคนกับตอนไปหาผู้กองเลย แต่ผู้กองจะรู้มั้ยว่าคุณแสงดาวมาพูดแบบนี้กับคู่หมั้นตัวเองเนี่ย "
ภูเริ่มใช้ความคิด แต่คงยังพูดอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องแน่ใจก่อนว่าเขาคิดถูก
ตกเย็นหลังส่งเด็กๆกลับบ้านจนหมด รวมทั้งพี่น้ำก็กลับไปแล้ว ตรีทิพย์ยังคงนั่งคิดถึงคำพูดของแสงดาว เธอรู้สึกไม่พอใจเพราะคิดว่าภามเล่าเหตุผลที่ต้องหมั้นให้แสงดาวฟัง
" รับผิดชอบในสิ่งที่ไม่เต็มใจเหรอ ไหนบอกไม่เคยฝืนใจไง ตาผู้กองบ้า คอยดูนะ หมั้นเสร็จแล้วจะถอนหมั้นเลย "
" ไม่มีวันซะหรอก!!! "
ตรีทิพย์หันขวับไปมองด้วยความตกใจ ก็พบสายตาเกรี้ยวกราดที่มองมาของภาม
ภามที่มารับตรีทิพย์เดินมาด้านหลัง ได้ยินทุกคำที่เธอพูดออกมา และรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินหญิงสาวพูดแบบนั้น
" หมั้นแล้วจะถอนหมั้น แล้วจะหมั้นเพื่อ ? "
ตรีทิพย์ทำหน้าตึง เธอเองก็กำลังโมโหเหมือนกัน
" ก็ถ้าพี่ภามไม่เต็มใจแล้วจะหมั้นทำไมคะ ก็แค่เรื่องเข้าใจผิดเดี๋ยวคนก็ลืม แต่ถ้าพี่ภามไม่เต็มใจตรีก็ไม่ได้อยากบังคับใคร "
ภามมองตรีทิพย์สีหน้าจริงจัง เขามองเธอเหมือนอยากให้เธอมองทะลุเข้าไปในดวงตาของเขา พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
" อย่าฟังคนอื่น "
ตรีทิพย์อึ้งในท่าทีเข้มและน้ำเสียงดุดันของเขา ก่อนจะมีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อภามเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีอ่อนลงแล้ว เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง
" ทุกๆคำพูดที่ออกจากปากพี่คือเรื่องจริง คือความรู้สึกจริง น้องตรีไปฟังใครมา มันก็ไม่จริงเท่าฟังจากปากพี่หรอก "
ตรีทิพย์มองเขานิ่ง สมองกำลังคิด
" ไปครับ พี่จะพาไปทานข้าวก่อนกลับบ้าน "
แต่ตรีทิพย์ยังคงดื้อดึง ด้วยอยู่ๆก็นึกถึงที่แสงดาวพูดว่าไปทานข้าวกับเขาเมื่อตอนกลางวัน ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้
" เป็นอะไรอีกครับ "
" ไม่อยากทานข้าว อยากกลับบ้าน "
ภามพยายามทำความเข้าใจกับท่าทีของหญิงสาว แม้จะมีท่าทีอ่อนลงแต่ไอ้ทีท่างอนโดยไม่รู้สาเหตุแสดงว่ามันต้องมีอีกเรื่องที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
" งอนอะไรอีกครับ "
ไม่มีคำตอบ ภามยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะพูด
" วันนี้พี่ไปทานข้าวกับแสงดาวเพราะแสงดาวพึ่งมาที่นี่ไม่มีเพื่อน ส่วนเพื่อนเค้าอีกคนที่บอกว่าอยู่ที่นี่ก็ทำงาน เค้าเลยขอให้พี่ช่วยแนะนำร้านอาหารให้ พี่เลยถือโอกาสเลี้ยงข้าวเค้าในฐานะเพื่อน ไม่มีอะไรเกินเลย "
ภามสังเกตว่าตรีทิพย์เริ่มมีท่าทีอ่อนลง นั่นแสดงว่าเขาคิดถูกแล้ว
" ทีนี้ไปทานข้าวกับพี่ได้รึยังครับ "
" ก็ไปสิ "
ตรีทิพย์เดินนำไปแบบงอนๆ ภามยิ้มพูดตามหลังอย่างอารมณ์ดี
" หึงก็น่าจะบอกดีดีเนอะ "