หลายวันต่อมา
10.23 AM.
"ตอนเย็นใครจะเข้ามาเก็บแล็ปอ่ะ"
ทั้งกลุ่มที่กำลังยืนล้อมโต๊ะในห้องแล็ปอยู่ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กๆทันทีเพราะคงไม่มีใครอยากจะเข้ามาในคณะอีกเป็นครั้งที่สองแน่รวมถึงฉันหากแต่ถ้าไม่มีใครเข้ามาอีกหัวหน้ากลุ่มที่ดูเป็นคนไม่กล้าพูดก็จะอาสาอีก..
"โอเคงั้นเดี๋ยวเราเข้ามาก็ได้"
"ไม่เอาดิ" ฉันขัดขึ้นทันทีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาเปิดตารางเรียน "หัวหน้าเข้ามาเก็บสองครั้งแล้วเดี๋ยวครั้งนี้เราเข้ามาเก็บแล้วจะสรุปผลลงกลุ่มให้แต่ครั้งหน้าหัวหน้าจัดเป็นเวรให้คนเข้ามาเก็บงานเลย เราว่าแบบนี้โอเคกว่า"
"เอาแบบนั้นหรอ เพื่อนๆว่าไง"
เพื่อนอีกห้าคนในกลุ่มหันมองกันทันทีที่หัวหน้ากลุ่มหันไปถามความเห็นนั้นทำให้ฉันถอนหายใจและกอดอกใส่
"ดูตารางเรียนเรามีเข้าแล็ปอีกตั้งหลายครั้งทำงี้แหละดีแล้ว รึจะให้แต่หัวหน้าหรอที่เข้ามาเก็บ?"
"ก็มันเป็นหน้าที่จะให้เราสรุปเองหรอ ทำไม่เป็นหรอก"
"ไม่เป็นก็หัดดิ ไม่เข้าใจก็ถามคนที่เคยทำเรายังจะถามหัวหน้ากลุ่มเลย"
ฉันตอบกลับเพื่อนในกลุ่มที่ชื่อตาลมั้งถ้าจำไม่ผิดและเธอเป็นรุ่นพี่ที่ซิ่วมาเรียนที่นี่ เห็นว่าเป็นพี่ฉันปีนึงแหละมั้ง...เธอถอนหายใจและมองฉันอย่างไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
"ก็แล้วแต่เลยงั้นครั้งหน้าไม่ต้องถามความเห็นหรอกนะถ้าจะทำอ่ะ"
"ก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ควรทำช่วยกันอ่ะและถ้าเป็นงานเดี่ยวเราไม่ยุ่งยากเธอขนาดนี้หรอก"
ตาลเหลือบมองฉันอีกครั้งก่อนเธอจะถอดถุงมือและเดินออกจากห้องแล็ปไปอย่างไม่พอใจทำให้เพื่อนเธออีกสี่รีบเดินตามกันไปด้วย แม่งถ้าฉันไม่เข้าสายคงได้อยู่กลุ่มที่ดีกว่านี้อ่ะคงไม่ต้องถูกแยกกับอีแมนอีแนนเพราะเป็นตัวเศษหรอก
"ขอโทษนะที่ทำให้ต้องทะเลาะกัน"
ฉันหันมองหัวหน้ากลุ่มก่อนจะส่ายหน้าไปมายิ้มๆ
"ไม่เป็นไรเลยเถอะ งานกลุ่มไงไม่ใช่งานเดี่ยวอีกอย่างช่วงแรกๆเราก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่"
"โอเค ถ้ามายมีอะไรให้ช่วยมายบอกครีมได้เลยนะ"
"แค่อธิบายพวกที่ต้องสรุปผลก็พอ"
"ได้เลย"
"งั้นพูดตอนล้างก็ได้จะได้ไม่ต้องเสียเวลากลับ"
ครีมพยักหน้าให้ฉันและอธิบายการสรุปผลขณะที่เรากำลังล้างพวกอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทดลองจนเสร็จ ฉันเดินออกมาจากห้องแล็ปและยกมือทักทายแนนกะแทนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างเพลียๆ
"ไงมึงแดกไรวันนี้?"
"พวกกูกำลังจะชวนไปแดกข้าวมันไก่ใต้คณะนิเทศ"
"อร่อยหรอ?"
ฉันถามพร้อมถอดแว่นสายตาที่ตัวเองใส่ออกมาใส่กล่องไว้
"เออ ให้เยอะด้วยจานโคตรใหญ่แต่ราคาแค่สี่สิบ"
อีแทนตอบยิ้มๆ
"อีกอย่างเผื่อมึงจะได้เห็นพี่สิบของมึงด้วย ได้ข่าวว่าโทรไปแล้วผู้ชายไม่รับหรอ?"
"ข่าวเร็วเหมือนอีแทนเม้าให้ฟังเลย" ฉันประชดกลับพร้อมกับยกยิ้ม "ถึงพี่สิบจะไม่รับแต่เขาก็ให้เบอร์กูล่ะวะ"
"แต่เขาก็ไม่รับไง ไม่ใช่ให้เพราะตัดรำคาญหรอกนะ"
"รำคาญมึงเนี้ยแหละอีแมนจะแซะกูให้ได้อะไรนี่ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อนกูตบปากล่ะนะ แก้ได้แก้ซะนะนิสัยแบบนี้อ่ะ"
"เอ้าอีนี่ไปโมโหอะไรมาย่ะหล่อน"
ฉันโบกมือไปมาอย่างตัดรำคาญก่อนเราจะเดินไปขึ้นรถเก๋งของอีแมนที่มันขับมาเพื่อไปคณะนิเทศและใช่หมดกลุ่มมีแค่อีแมนมีรถแต่บ้านมันอยู่คนล่ะทางกับหอฉันกับแทนเวลากลับพวกเราเลยต้องกลับเอง..พอนึกถึงเรื่องพี่สิบฉันยังโมโหอยู่นะ มาให้ความหวังกันแต่ไม่รับสายฉันอ่ะฉันโทรไปตั้งแต่วันนั้นรวมๆแล้วเป็นสิบสายแถมยังแอดไลน์ไปที่เบอร์เขา ส่งแชทไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ โคตรหยามกันเลยเอาจริงๆ
โคตรเข้าถึงยากแต่เพราะงี้มันเลยทำให้ฉันอยากเอาชนะ
"โอ้โหคนอย่างเยอะ นั่งไหนดีล่ะมึง"
"นั้นๆ ไปอีมายวิ่ง!"
ฉันหันมองตามที่อีแทนชี้ทันทีก่อนจะวิ่งไปจองที่นั่งเพราะตอนนี้มันเที่ยงและโรงอาหารโต๊ะอย่างเต็ม อีแทนเดินตามมายิ้มๆพร้อมยกนิ้วให้
"ดีมากวิ่งเร็วนี่ต้องยกให้มึง"
"อยู่แล้ว"
ฉันน่ะนักวิ่งของโรงเรียนเชียวนะ ฉันมองไปทั่วโรงอาหารก่อนจะไปสะดุดที่โต๊ะที่นั่งมุมๆที่มีผู้ชายนั่งกันอยู่สามคน สองคนที่กำลังนั่งคุยกันฉันรู้จักเพราะนั้นคือพี่ซันกับพี่พูมเป็นเพื่อนรักพี่สิบและคนที่นอนฟุ่บอยู่ที่โต๊ะคือพี่สิบแน่นอน..ผ่านมาหลายวันขนาดนี้ฉันก็ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับเขาบ้าง รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งอ่ะแบบนี้
"ตามึงเร็วมากอีกมาย"
อีแมนแซะทันทีขณะที่ฉันก็ยกยิ้ม
"อยู่แล้ว พวกมึงไปซื้อข้าวเลยนะ"
"เดี๋ยว" อีแทนเบรกฉันไว้ทันที "จะทิ้งเพื่อนไปหาผู้ชาย?"
"แน่นอนจ้ะ พวกมึงพากูมาเองนะบอกแค่นี้ไปก่อนกูจะรีบไปจูบปลุกเจ้าชายนิทรา"
"อีเวรนี่มันมหาลัย"
ฉันหัวเราะเสียงเหี้ยมและเดินสวยๆไปทางโต๊ะพี่สิบก่อนหยุดยืนและยิ้มให้พวกพี่ซันและพี่พูมอย่างเป็นมิตร
"สวัสดีค่ะ"
"อ้าว น้องร้านเบียร์นิ"
"หนูชื่อมายค่ะพี่" ฉันตอบกลับพี่พูมยิ้มๆก่อนจะชี้ที่นั่งข้างๆพี่สิบ "ที่นั่งตรงนี้ว่างรึป่าวเอ่ย?"
"ว่างสิคะ หนูมาหาสิบหรอ?"
"ค่ะ" ฉันตอบยิ้มๆพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้และหันไปสกิดพี่สิบ สกิดยิกๆๆจนเขาเงยหน้าจากโต๊ะและหันมาขมวดคิ้วใส่ "หวัดดีค่ะพี่สิบ!"
"..." เขาถอนหายใจและหันมองเพื่อนที่ไม่สบตาเขาก่อนหันมองฉันอีกครั้ง "ไง..น้องมาย"
"จำชื่อมายได้ด้วย"
"ครับ"
"จำกันได้แต่ทำไมไม่รับโทสับอ่ะ" ฉันว่าพร้อมใช้นิ้วเกลี่ยที่ริมฝีปากตัวเองอย่างอ่อยๆก่อนจะยิ้มเมื่อพี่สิบไม่ตอบ "ไม่เป็นไรๆ เอ่อมายมาคนเดียวน่ะค่ะแล้วที่นี่ไม่มีโต๊ะว่างเลย"
ฉันโกหกไปหน้ายิ้มขณะที่พี่สิบก็มองฉันด้วยสีหน้านิ่งๆส่วนเพื่อนเขาก็ขมวดคิ้วและเหลือบมองเพื่อนฉันที่นั่งอยู่แถวกลางๆ ฉันใช้นิ้วชี้จุปากตัวเองทันทีเพื่อไม่ให้เพื่อนพี่สิบบอกว่าฉันโกหกและทั้งสองก็ช่วยเป็นอย่างดีโดยการ..
"เออว่ะที่นั่งแถวนี้ไม่มีเลยนะสิบ มึงก็ให้น้องนั่งๆไปเถอะยังไงวันนี้กุนกะแก้มก็ไม่มาอยู่แล้ว"
"ได้ไหมคะพี่สิบ?"
ฉันหันมองพี่สิบอย่างอ้อนๆ
"ครับ...ตามสบาย"
"เย้ แล้วพี่สิบจะกินไรคะเนี้ย?"
"ข้าวมันไก่"
"ใจตรงกัน!"
ฉันชี้นิ้วไปที่พี่สิบทันทีพร้อมกับยิ้มกว้างแต่คนตรงหน้าทำแค่มองฉันนิ่งๆและขยับลุกเดินไปทางร้านข้าวทำเอาฉันนั่งอ๋องไปเลย..โดนหักหน้าอีกแล้ว
"มันเป็นงี้แหละค่ะหนูอย่าตกใจไปเลย"
"คือพี่สิบรู้ไหมคะว่ากำลังโดนหนูจีบ?" ฉันถามไปตรงๆทันทีทำเอาพี่ทั้งสองหัวเราะ "เอ้าพี่คะมายจริงจังนะเนี้ย"
"มันไม่ได้ใสซื่อครับน้องมันแค่ติดง่วงและขี้เกียจ"
"แล้วเขาเคยมีแฟนไหมคะ?"
"จะจีบไอ้สิบจริงๆน่ะ?" ฉันพยักหน้าเมื่อพี่ซันถาม "ตั้งแต่เข้ามหาลัยมาพี่ยังไม่เคยเห็นมันคบใครเลยครับส่วนมาก็แค่คุยแล้วเขาก็หายเพราะมันเป็นงี้"
"แต่แบบน้องมายไอ้สิบมันยังไม่เคยเจอนะ"
"แบบหนูนี่ยังไงคะ?" ฉันถามพี่พูมอย่างงงๆขณะที่เขาก็หัวเราะชอบใจ
"ก็รุกขนาดนี้ไงมันยังไม่เคยโดน ยังไงก็สู้ๆนะครับแต่ถ้าโดนมันง่วงใส่ก็อย่าไปเสียใจล่ะ"
"หนูไม่เสียใจหรอกน่า"
ขนาดจูบๆกันอยู่แล้วโดนหลับใส่ยังเคยโดนมาแล้ว ฉันรีบลุกและวิ่งตามพี่สิบไปยืนต่อแถวทันทีแถมยังชวนเขาคุยนั้นนี่แม้เจ้าตัวจะตอบแค่...ครับ...อืม...ไม่นะ...ขอบคุณครับ ก็เถอะคิดแล้วเครียดแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีเรื่องน่าว้าวนะเพราะเห็นเป็นสล็อธตอนเดินตอนพูดแบบนี้แต่พอตอนกินกินเร็วมาก
แล้วรู้ไหมที่กินเร็วเพราะอะไร...เพราะจะนอนไงล่ะกินเสร็จเลื่อนจานออกจากตรงหน้าตัวเองและฟุ่บหลับไปอย่างนั้นเลยบ้าไปแล้ว!
"ไม่ใช่ว่าเขาเป็นโรคอะไรนะมึง?"
"กูถามเพื่อนเขาแล้วพี่ซันบอกไม่ได้เป็นแต่ที่ง่วงเพราะมันง่วง กูก็แบบเออเข้าใจก็ได้วะ"
"แต่มึงกล้ามากนะอีมายเดินไปนั่งโต๊ะเดือนเพื่อจีบเพื่อนเดือนอย่างห้าวอ่ะคนอะไร"
"คนมองกูไหม?" ฉันยักไหล่ถามอีแทนทันทีขณะที่เรากำลังนั่งรถเมล์กลับหอ
"มองดิ แบบอีนี่ใครวะงี้"
"มองแบบอิจฉาหรอกมึง คือกูสวยไงแล้วแบบยิ่งไปนั่งกับเดือนเขาคงไม่คิดว่ากูเป็นดาวหรอกใช่ไหม?"
"เป็นมั่นๆเนาะ"
"เออดิ แม่บอกอย่าไปอายลูกไว้ขายหน้าทีเดียวตอนไม่ได้ผู้ก็พอ"
"ไปให้สุดเลยมาย"
ฉันหัวเราะอย่างขำๆก่อนจะแยกกับแทนเมื่อมาถึงหน้าหอตัวเองแล้ว ตอนเย็นต้องกลับไปเก็บข้อมูลอีกนิ...ให้ตายต้องต่อรถอีกแล้วขี้เกียจจังวะ
.
.
16.34 PM.
"ลุงคะ"
ฉันโบกมือให้ลุงยามที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในป้อมทำให้เขารีบเปิดกระจกมายิ้มให้
"มีอะไรหรอครับ?"
"คือ จักรยานคันนี้ของใครหรอคะ?"
ฉันว่าพลางชี้ที่จักรยานจ่ายตลาดที่อยู่ข้างป้อมยามเพราะเล็งไว้แล้วว่าจะมายืมตอนเดินเข้าหอ
"ของลุงเองไว้ขับมาทำงานน่ะ"
"โหห หนูขอยืมไปมอสักแป๊บได้ไหมอ่ะลุงพอดีหนูไม่อยากต่อรถแล้วเงินก็ไม่ค่อยมีด้วย"
"หนูจะปั่นไหวหรอลูก มหาลัยตั้งไกลนะ"
"ไหวค่ะลุงเห็นแบบนี้หนูนักกีฬาเก่านะคะ" ฉันตอบยิ้มพร้อมยกมือไหว้ลุง "ยืมหน่อยนะคะคุณลุงหนูจะไม่ปั่นไปชนไรแน่นอน"
"เอางั้นก็ได้ลูก ระวังรถนะลุงเป็นห่วง"
"ขอบคุณนะคะ"
โอเคเยี่ยม ทีนี่ก็ปั่นๆๆ...ฉันปั่นจักรยานผ่านมรสุมทางถนนแบบเกือบตายและเข้าไปเก็บแล็ปได้สำเร็จ หลังจากสรุปผลและทำความสะอาดแล้วฉันก็กลับมาปั่นจักรยานเพื่อกลับหออีกครั้ง แต่แถวนี้มีอะไรกินบ้างนะหิวอยู่นะ ฉันปั่นจักรยานเลี้ยวไปทางเซเว่นซึ่งมันต้องผ่านคณะนิเทศ
"พี่สิบ?"
ร่างสูงที่กำลังฟุ่บหน้าหลับตรงม้าหินอ่อนในเวลาหกโมงกว่าๆซึ่งช่วงนี้มันฤดูหนาวมันมืดเร็วแต่เขาก็เลือกที่จะนอนหลับมันตรงนี้...ฉันมั่นใจว่าเป็นเขาเพราะเขากล้าที่จะหลับตรงนี้นี่แหละ ฉันค่อยๆชะลอความเร็วและจอดจักรยานก่อนจะเดินไปหาพี่สิบพร้อมสกิดเบาๆ
"พี่คะ พี่สิบ!"
หมับ!
ฉันเบิกตามองมือใหญ่ที่รวบมือฉันไว้ด้วยความตกใจก่อนพี่สิบจะปล่อยออกเพราะเมื่อกี้เหมือนเขาตกใจมากกว่า เขาเงยหน้ามองฉันอย่างงุนงง
"...อีกแล้ว"
"ค่ะ มายอีกแล้ว"
พี่สิบถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เธอปลุก...อีกแล้ว"