“ฉันดื่มได้แล้วใช่มั้ย”
สาวสวยกะพริบตาถี่ๆพลางยันกายนั่งตัวตรง ตอนนี้รู้สึกเค็มจนลิ้นแทบชา หรือว่าเธอจะเลียเกลือเยอะเกินไปนะ
“ครับ ดื่มเลย”
ชายหนุ่มยกยิ้ม แล้วผายมือไปทางแก้วช็อต เขานั่งมองเธอยกแก้วเตกีล่ากรอกของเหลวลงคอจนหมดแก้ว ใบหน้าสวยเบ้เบี้ยวเล็กน้อยตามรสชาติของเหลวที่กระจายทั่วลิ้นก่อนจะไหลลงลำคอ
“นี่ครับมะนาว”
คลังแสงมองลำคอระหงของเธอแล้วเผลอกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ มะนาวที่เขายื่นให้ถูกเธอรับมันไปบีบเข้าปากอย่างว่าง่าย เขาจับตามองเธอราวกับเสือที่รอตะปบเหยื่อป้อนเข้าปากตัวเอง อยากรู้แล้วสิว่าตอนที่เขาขอเข้าไปอยู่ในตัวเธอจะว่าง่ายแบบนี้มั้ย
“คุณไม่ดื่มเหรอคะ”เธอยิ้มให้บางๆแล้วเป่าลมระบายความร้อนของแอลกอฮอล์ออกจากแก้มป่อง
“ผมดื่มไวน์น่ะ”คลังแสงตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็หมุนเก้าอี้หันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ “น้องครับพี่ขอไวน์ที่ฝากไว้แก้วหนึ่ง”
“คุณมาบ่อยเหรอคะ”
“ครับ”คลังแสงเอ่ยอย่างไม่ปกปิด ก็นี่มันผับของพี่ชายเขาเอง“แล้วคุณล่ะ ผมไม่เคยเจอคุณที่นี่มาก่อนเลย”
“ฉันเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ มากับเพื่อนแต่ไม่รู้ว่ายัยนั่นไปวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหนแล้ว”
“แล้วคุณไม่ไปวันไนท์สแตนด์เหมือนเพื่อนเหรอครับ”คลังแสงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปอย่างเปล่าประโยชน์ รีบเข้าประเด็นทันที
“ก็อยากอยู่นะคะ อ๊ะ!นั่นไงคะเพื่อนฉัน สาวสวยคนที่ใส่เกาะอกสีดำปี๋ ว้าย!”
เดลต้าไม่ทันระวังบวกกับความอ่อนเปลี้ยของเธอทำให้แทบล้มหน้าคว่ำลงจากเก้าอี้ ดีแค่ไหนที่คลังแสงรับเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นหน้าคงซุกอยู่ที่เป้ากางเกงของอีกฝ่ายแล้ว
“ระวังหน่อยสิคุณ”คลังแสงหันพยุงเธอให้นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างมั่นคง แล้วขยับเก้าอี้ของเขาให้เข้าไปชิดเธอมากขึ้น
“แฮะ ขอโทษค่ะ ตาต้าคงเมาแล้ว”
เดลต้าขยับนั่งบนเก้าอี้อย่างมั่นคง โดยที่มือเล็กก็จับมือของคลังแสงเอาไว้อีก นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ อีกไม่กี่ประโยคก็คงปิดจ๊อบได้แล้วสินะ
“ว่ายังไงครับ คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ คืนนี้คุณอยากไปต่อกับผมมั้ยตาต้า”
“อืม...”หญิงสาวเอียงคอราวกับกำลังครุ่นคิด ไล่สายตามองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งคลังแสงรู้ดีว่าเธอกำลังคาดหวังอะไรจากตัวของเขา
“ไซซ์ห้า56 รับรองว่าโดนเข้าไปคุณเสียวยันปลายผม”
“อุ๊ย! คุณได้ยินที่พวกฉันคุยกันเหรอคะ”
มือเล็กยกขึ้นทาบอก ส่วนคลังแสงนั้นยืดกายขึ้นอย่างมาดมั่น เห็นหน้าใสๆแบบนี้ใจเกินร้อยเหมือนกันนี่หว่า ดูจากสายตาปรามาสของเธอแล้ว อยากจะงัดมังกรตัวเขื่องของเขาออกมาโชว์ให้เธอดูเสียตรงนี้เลย
“ถ้าบอกว่าใช่คุณจะอายมั้ย”
“อะ...อายสิคะถามได้ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ โธ่~ อายคุณจัง ฉันก็แค่อยากลองก็เท่านั้นเอง”
คงเป็นเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมาที่ทำให้เธอกลายเป็นหญิงปากกล้าขนาดนี้ ถ้าแม่รู้คงตีตาย
“ผมไม่ถือ แต่ถ้าคุณอยากลองกับผมก็บอกนะ เดี๋ยวจะเปิดโลกให้”
คลังแสงยักคิ้วกวนๆแล้วเสนอต่ออย่างช่ำชอง
“ว่าไงครับ ไม่สด ไม่เบา เน้นกระแทกเอามันส์ ร้องครางดังๆได้ไม่กั๊กเพราะห้องเก็บเสียงอย่างดี ถ้าคุณตาต้าสนใจ...”
“เอส!”
เชรด!
ยังไม่ทันที่เขาจะโฆษณาสรรพคุณดุ้นใหญ่เสร็จ ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกมาจากทางด้านหลัง เหยื่อสาวของคลังแสงเลื่อนสายตามองผ่านไหล่แกร่งไปตามเสียงหวานนั้นทันที
ส่วนผู้มาใหม่ก็ปรี่เข้ามาประชิดตัวเขาแบบแนบชิดจนเกือบจะรวมร่าง ตวัดเรียวแขนโอบรอบเอวสอบอย่างไม่รอคำอนุญาต
“ใช่เอสจริงๆด้วย ฝ้ายมาเที่ยวรอคุณทุกคืน ทำไมไม่เจอคุณเลยคะ”
“เราเคยเจอกันด้วยเหรอ”
คลังแสงรีบแกะมือปลาหมึกที่กำลังโอบเอวเขาออก สายตาก็มองผู้หญิงที่ชื่อตาต้าไปด้วยหวั่นว่าเหยื่อตรงหน้าจะบินหนีไปเสียก่อน
“คืนนั้นไงคะ ตรงระเบียงห้องเชือดหมายเลขหนึ่ง”
เธอกระเง้ากระงอดซบหน้าลงไหล่ของคลังแสง จังหวะนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงอีกคนพบว่าเธอกำลังเท้าข้อศอกลงบนบาร์กระจก ดวงตาฉ่ำปรือจับจ้องมองเขาแล้วคลี่ยิ้มหวานหยด มันช่างยั่วยุ เย้ายวนจนเขาต้องตัดสินใจสลัดผู้หญิงมือปลาหมึกออกอย่างรวดเร็ว
“ชื่อฝ้ายใช่มั้ย”
“อย่าทำเป็นจำไม่ได้สิคะ”
“ไปครับ ไปสะสางเรื่องของเรากันเถอะ”
สิ่งเดียวในสมองตอนนี้ก็คือ เขาต้องลากยัยฝ้ายมัดตราสังนี่ออกไปให้พ้น ยังไงเขาก็อยากเชือดสาวคนใหม่มากกว่าผู้หญิงที่ตกถังน้ำหอมข้างๆ
“คุณเอส...แต่คืนนี้ไม่เอาตรงระเบียงแล้วนะคะ ฝ้ายอยากลองในอ่างจากุซชี่บ้างค่ะ”
เดลต้ามองตามตาปริบๆเมื่อทั้งคู่ที่หายไปท่ามกลางผู้คน เธอถอนหายใจออกมาอย่างอนาถหัวใจ
“เฮ้อ~วงการนักท่องราตรีมันเป็นแบบนี้นี่เอง”
เตกีล่าแก้วใหม่ถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวแบบไม่พึ่งพามะนาว ปล่อยของเหลวรสขมไหลลงคอโดยที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาทางสีหน้าทั้งนั้น เว้นเสียจากความรู้สึกเสียดายอยู่ในใจ ที่เกิดเรื่องขึ้นก่อนจะได้สัมผัสเจ้านั้นที่มีขนาดไซซ์56
“ต้องใหญ่กว่าแขนเราแน่ๆ”
หญิงสาวยกข้อมือเล็กขึ้นแล้วก็อดขำกับความคิดทะลึ่งตึงตังของตัวเองไม่ได้
"เฮ้อ~ เสียดายจัง"