“น้องชื่ออะไรนะ ตาต้างั้นเหรอ”
“ค่ะ”
ผ่านไปสักพักเดลต้าก็เริ่มเมา เธอไม่ได้แห้งเหี่ยวอยู่เพียงลำพัง เพราะตอนนี้มีหนุ่มๆ แวะมาชนแก้วกับเธอจนยกดื่มต่อไม่ไหวอีกต่อไป
“ชื่อน่ารักดีนะครับ”
“มุขนี้พี่ใช้ซ้ำกับพี่คนเมื่อกี้ค่ะ”
นี่คงเป็นคนที่สิบเห็นจะได้ที่เข้ามาชวนคุย แต่ไม่มีใครดูน่าสนใจเหมือนผู้ชายชื่อเอสเลยสักคน กระทั่งผ่านไปนานเกือบชั่วโมง
เดลต้ายกแก้วบลูมาการิต้าที่ไม่รู้ใครยื่นมาให้ขึ้นจิบ สายตาก็ทอดมองไปที่เพื่อนสนิทอย่างเซรีนไปด้วย ตอนนี้ผู้ล่าตัวมารดากลับมาอยู่ในเรดาร์แล้ว เธอกำลังเต้นท่างูเลื้อยขึ้นเลื้อยลงตรงเป้ากางเกงกับผู้ชายแอปปัดขวาที่นัดให้มาเจอที่นี่
เดลต้าได้แต่นั่งจิบเครื่องดื่มมึนเมาลงคอช้าๆ แล้วขยับโยกร่างกายเบาๆอยู่บนเก้าอี้ เพราะถ้าเอาขาเหยียบพื้นก็คงเซล้มไม่เป็นท่า
“มาคนเดียวเหรอครับ”
“มากับเพื่อนค่ะ”
เดลต้ายิ้มหวานให้ผู้ชายที่เดินเข้ามาเป็นคนที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ก่อนที่เธอจะยื่นแก้วค็อกเทลไปชนแก้วกับผู้มาใหม่
“Cheers~”
ผู้ชายสูงขาวตาตี๋สไตล์โอปป้าที่ยืนใช้สะโพกพิงกับเคาน์เตอร์บาร์คุยกับเธอ ดวงตาฉ่ำปรือไล่สายตามองเขาหัวจรดเท้า น่าสนใจไม่ต่างจากผู้ชายไซซ์56คนนั้นเลยแฮะ
“ยังไหวมั้ยครับคนสวย”หนุ่มตี๋ขยับเข้าไปใกล้เดลต้าเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มเมาจนแทบฟุบหน้าลงบนบาร์เหล้า
“หวาย~สิคะ”
“พี่ชื่อมาร์คนะ”
“ค่า ว่าแต่พี่มาร์คเห็นเพื่อนตาต้ามั้ยคะ คนที่สวยๆอ่ะ”
เดลต้าดันกายขึ้นลุกยืนโงนเงนซึ่งเขาก็รีบเข้ามาพยุงเธอเอาไว้ มองไปอีกทีตอนนี้ไม่เห็นเซรีนอยู่ตรงโต๊ะเดิมแล้ว อะไรกันอย่าบอกนะว่าไปกับผู้ชายปัดขวาคนนั้นแล้ว
“คนไหนครับ”
“อื้อ~ตาต้าน่าจะเมาแล้ว ปวดหัวชะมัดเลย”กำปั้นเล็กยกขึ้นทุบศีรษะเบาๆ โลกทั้งใบตอนนี้บิดเบี้ยวไปหมด
“เดินไหวมั้ย หรือจะให้พี่อุ้ม”
“เดินไม่ไหวค่ะ อุ้มทีสิคะ”
ร่างเล็กโผเข้ากอดรอบคอชายหนุ่มพลางซบหน้าลงไปกับแผงอกของเขาอย่างมีจริต ไม่รู้ทำไมเป็นคนอยู่ดีๆถึงกลายเป็นแรดขึ้นมาแบบกะทันหัน ถึงอยากเข้าไปคลอเคลียผู้ชายคนนี้จัง ตัวของเขาก็ห้อมหอม ริมฝีปากที่ขยับพูดน่าจูบจนเดลต้ากลืนน้ำลายลงคอหลายอึก เธออยากจูบเขาจังเลย
“ถ้าอย่างนั้นพี่มาร์คว่าเราขึ้นไปนั่งจิบไวน์บนห้องดีกว่ามั้ยครับ คืนนี้พี่อยากเห็นตาต้าอยู่บนตัวพี่จะแย่แล้ว”
ไม่รู้เพราะความเมาหรือผีเข้า หลังจากที่ดื่มจนได้ที่เดลต้าก็เป็นฝ่ายชักชวนมาร์คไปวันไนท์สแตนด์กับเธอ อยากลิ้มลองรสชาติที่ไม่เคยสัมผัส ได้ยินเพื่อนบอกเล่าว่ามันคือความสัมพันธ์ที่สบายใจทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญไร้ภาระทางกายด้วย
“ตาต้าก็อยากขึ้นขี่มังกรเหินฟ้าของพี่มาร์คแล้วเหมือนกัน นี่ค่ะคีย์การ์ดห้อง เราไปกันเลย!”
หญิงสาวเซถลาซบลงบนแผงอกของชายหนุ่มอีกครั้ง สติของเธอพร่าเลือนไปกับแอลกอฮอล์ที่กรอกลงคอตั้งแต่ผับเปิด กระทั่งผับใกล้ปิด ตอนนี้ไม่สนใจแล้วว่าเพื่อนของเธอจะหายตัวไปไหน
พรึ่บ!
ไฟในผับดับลงหลังจากสิ้นเสียงเพลงสุดท้าย มีเพียงไปสีส้มนวลนำทางให้ทุกคนรีบเดินออกจากผับแห่งนี้ มาร์คกำลังพยุงตัวสาวสวยร่างเล็กที่อยู่ในอาการมึนเมาจนขาลาก แหวกผู้คนออกไปจากผับเพื่อขึ้นไปยังห้องเชือด ทว่าจู่ๆก็ถูกการ์ดของผับเข้ามาควบคุมตัวและแยกตัวเดลต้าไปจากเขา
“เฮ้ยอะไรวะ! พวกมึงมาจับตัวกูไว้ทำไม แล้วนั่นจะเอาผู้หญิงไปไหน”มาร์คตะโกนตามหลังชายร่างสูงที่พยุงเดลต้าเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ไม่ต้องตกใจครับ เชิญคุณออกไปจากที่นี่ซะอย่ากระโตกกระตาก”
“แล้วมึงจะเอาแฟนกูไปไหน”มาร์คขึ้นเสียงใส่ทำท่าจะจะวิ่งตามเดลต้าไปแต่ถูกการ์ดคนนั้นผลักอกเอาไว้
“แน่ใจนะครับว่าแฟน ไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณจ้องจะเอายาบางอย่างผสมเหล้าให้เธอดื่ม”
“นะ...นี่พวกมึง!”มาร์คถึงกับเสียงสั่นใบหน้าซีดเผือด เมื่อมีคนรู้เรื่องที่เขาคิดจะจัดการเดลต้าด้วยการวางยาปลุกเซ็กซ์
“จะออกไปดีๆหรือจะให้พวกผมจับคุณส่งตำรวจดีครับ คุณคงไม่รู้สินะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียเจ้าของผับ”
“เมีย!”
“ครับ เมีย! เชิญครับ”
การ์ดหน้านิ่งผายมือไปทางประตูซึ่งคนเริ่มเบาบางลงแล้ว แถมยังมีอีกสองสามคนที่ยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นเตรียมจัดหนักให้มาร์คอย่างสาสมอีก
“แม่งเอ๊ย!”
มาร์คสบถอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเตะลมเตะแล้งเตะขาโต๊ะก่อนจะยอมเดินออกจากผับไปอย่างจำยอม เขาล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมากดโทรออกหาใครคนหนึ่ง กรอกเสียงตวาดใส่โทรศัพท์อย่างเดือดดาล
“งานไม่สำเร็จ มันมีผัวมาด้วย กูควรต้องถามมึงไม่ใช่ให้มึงมาถามกู! สัตว์!”