เช้าวันต่อมา
“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”
ฉันลืมตาขึ้นมา ก็เห็นแบงค์เขานอนตะแคงมองหน้าฉันอยู่แถมยังส่งสายตาให้หวานเยิ้ม
หญิงสาวถึงกับตาเบิกกว้าง เพราะไม่รู้ว่าหลับน้ำลายยืดให้ชายหนุ่ม ที่ตกลงเป็นแฟนกันวันแรกได้เห็นหรือเปล่า เธอพยายามสำรวจตัวเอง
ส่วนเขาพอเห็นเธอตื่นก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ และดึงเธอเข้ามากอด ทั้งๆ ที่อยู่ในผ้านวมผืนเดียวกัน แถมยังล่อนจ้อนกันทั้งคู่
เมื่อคืนกว่าเธอจะได้หลับแบงค์ก็ทำเรื่องอย่างว่ากับเธอไปหลายรอบ และเช้านี้ก็เหมือนจะ....
“แบงค์....”
เธอร้องห้ามเพราะชายหนุ่มร่างหนากำลังมุดลงไปใต้ผ้านวม และกดริมฝีปากเข้ากับจุกสาวคู่สวยของเธอ
“ขอต่ออีกหน่อยนะครับ...”
“หื่นจังเลยนะแบงค์?”
“แฟนหุ่นเอ็กซ์ขนาดนี้ ไม่ให้หื่นได้ไง”
“แล้วพึ่งมาหื่นกับเราตอนปีสองเนี่ยนะ?”
“อยากหื่นด้วยมานานแล้ว...แต่ไม่แน่ใจว่าดรีมจะชอบเราหรือเปล่าจนไอ้มี่มันพูด”
ชายหนุ่มร่างหนา ละจากจุกนมสีหวานมาพูดคุยกับเธอก่อนที่จะก้มลงไปดูดเม้ม และเล้าโลมเธอต่อ
หึ...ไอ้มี่นะไอ้มี่ชงเก่ง!
เธอได้แต่บ่นพึมพำในใจก่อนที่จะร้องออกมาด้วยความเสียว ที่เขาปรนเปรอเธอ
“อ้าส์...แบงค์”
ทั้งคู่ฟัดกันนัว และใส่จังหวะที่ดุเดือดอยู่บนเตียงอย่างไม่มีใครยอมใคร เขาตอกลงมาเป็นจังหวะถี่ๆ เอวบางก็เด้งรับอย่างเร่าร้อน พอ
จบยกบนที่นอนนุ่มๆ เขากับเธอก็เข้าไปอาบน้ำล้างตัวพร้อมกัน ผลัดกันถูไถจนเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ เลยต้องจัดต่ออีกยกก่อนไปเรียน
ระหว่างอยู่ในรถเขาก็เอามือมากุมมือเธอเอาไว้อย่างหวงแหน
“ดรีมชอบเราตอนไหนเหรอ?”
“ก็ตั้งแต่ปีหนึ่งนั่นแหละ”
“ปีหนึ่งตอนไหนอ่ะ?”
“ตอนแบงค์ลงไปเตะบอลนั่นแหละ”
“ชอบนักกีฬา?”
“เปล่า...”
“แล้วชอบเราได้ไง ทั้งที่ตัวเองก็มีคนมาจีบเยอะแยะ”
“ก็ชอบเพราะ....” เธอหยุดพูดและคิดว่าจะพูดต่อไปดีไหม จนชายหนุ่มเริ่มสงสัย และถามเธอมาอีกครั้ง
“เพราะ?”
“เพราะแบงค์เป้าตุงกว่าคนอื่นไง 555”
“ดรีม...หื่นว่ะ!!!”
“คนอื่นดรีมมองไม่เห็น แต่ของแบงค์มันชัดเลยนะ”
เธอพูดแล้วก็ยิ้มกริ่มอย่างเขินอาย พลางหัวเราะไปกับเขา
“นี่ดรีมแอบมองเป้าผู้ชายทุกคนเลยเหรอ?”
“ไม่ได้แอบนะ ก็มองตรงๆ 555” เธอพูดหยอกล้อกับเขาอีกครั้งจนชายหนุ่มหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า
“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามไปมองเป้าใครนอกจากแบงค์อีกแล้วนะ”
เขาพูดพร้อมกดหัวเธอลงมาตรงเป้ากางเกงอย่างหยอกล้อ ในขณะที่นั่งเป็นคนขับ
“แบงค์ให้มอง และให้อม แถมให้ขย่มด้วย” เขาพูดแล้วยิ้มกริ่มเพราะพอใจในสิ่งที่เธอพูดมา
“อ่ะ...อ้า ปล่อย นะแบงค์” เธอพยายาม ดึงมือที่เขาโน้มหัวเธอเข้าหาตัวเขาออก หันมาจัดทรงผม และหันไปถามเขาต่อ
“แล้วแบงค์ชอบดรีมตอนไหนล่ะ?”
“ชอบตั้งแต่รับน้องด้วยกันแล้ว ชอบตั้งแต่ปีหนึ่ง ตอนนั้นดรีมดูโก๊ะๆ ดีนะ คือสวยแต่โก๊ะอ่ะ”
“โก๊ะ ยังไง?”
“ก็เพื่อนเขาไปถึงไหนกันแล้ว ดรีมยังนั่งเหวออยู่เลย แบงค์ก็ดูแลและอยู่ใกล้ดรีมตั้งแต่นั้นมา ดรีมไม่รู้ตัวเหรอ?”
“ไม่รู้...แต่รู้แค่ว่า ดรีมจะนัดใครไปเดท แบงค์ก็ชวนไปดูบอลด้วยทุกที”
“แต่ดรีมก็มา...”
“ต้องมาดิ...มาดูเป้าแบงค์ไง...ใส่กางเกงบอลยิ่งเห็นชัดดี 555”
“คืนนี้จะจัดให้แบบ 3G เลยคอยดู ให้ทะลุเข้าไปในปากลากลงมาที่......” แบงค์พูดพร้อมลากมือมาตรงขอบกระโปรงของฉัน และกำลัง
จะเอามือลุกล้ำเข้ามาที่เป้ากางเกงในของฉัน จนฉันต้องจับมือของเขาเอาไว้
“หื่นว่ะแบงค์...เรายังระบมอยู่เลยนะ”
“เดี๋ยวก็ชิน”
ตอนนี้รถของแบงค์เข้าไปจอดที่หน้าตึกคณะ ฉันเดินลงมาพร้อมกันกับแบงค์ และเขาก็จับมือฉันไม่ยอมปล่อย
ตรงหน้าตึกมีสายตาหลายสิบคู่กำลังมองมาที่เรา
“แบงค์ปล่อยมือก่อนก็ได้”
“ไม่ปล่อย...ให้มันรู้ไปเลยว่าเด็กใคร”
ฉันมองหน้าคนขี้หวงอย่างเขินอาย ก่อนที่จะมาหยุดตรงกลุ่มเพื่อนที่นั่งกันอยู่นับสิบรวมทั้งไอ้มี่ด้วย
วี้ดดดวิ้วววว~
“มึงกลัวไอ้ดรีมมันเดินมาคณะไม่ถูกหรือไงครับไอ้แบงค์.....”
พอเดินเข้ามาเพื่อนๆ ต่างโห่แซว จนฉันเขินแต่แบงค์ก็ไม่ยอมปล่อยมือสักที จนไอ้เจ เพื่อนในห้องเอ่ยแซว
แบงค์ยักคิ้วและยิ้มมุมปากให้ไอ้เจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“นั่งรอก่อนนะเดี๋ยวแบงค์ไปซื้อน้ำให้”
เมื่อกี้ในรถฉันแค่บอกว่าอยากกินน้ำส้มปั่นเท่านั้น เขาก็วิ่งไปซื้อน้ำให้ฉันแล้ว มีแฟนมันดีอย่างนี้นี่เอง
ฉันเดินมานั่งลงข้างๆ ไอ้มี่ และเห็นมันยิ้มหวานอย่างมีเลศนัย
“ไงมึง...? เล่ามา”
“อะไรมึง?”
“ใหญ่สมคำล่ำลือไหม?”
ตอนนี้ไอ้มี่มันนั่งกับฉันแค่สองคนแล้วมันก็เค้นคำตอบจากฉันใหญ่
“ก็ไม่ได้มีอะไร”
“อย่าบอกว่ามึงจับมือแล้วหลับนะ ไอ้ดรีมมึงเล่ามา”
“อืม....” ฉันไม่ค่อยอยากจะเล่าเรื่องนั้นสักเท่าไร ไม่อยากจะเล่าว่าแบงค์ของฉันเด็ดแค่ไหน เลยพยายามบ่ายเบี่ยง แต่ไอ้มี่มันก็ยังจะถามไม่หยุด
ตอนนี้ฉันอ้ำอึ้งแล้วก็ยิ้มด้วยความเขิน ไอ้มี่มันเอามือมาปัดผมตรงต้นคอของฉัน
“ไอ้ดรีม...เล่ามาเลยคอมึงแดง! ยังมาบอกแค่นอนจับมืออีก”
“เชี้ย!!!มี่” ฉันรีบเอามือของมันออกแล้วเอาผมมาปิดตรงรอยรักที่แบงค์ทำไว้เมื่อคืน เพราะกลัวเพื่อนๆ ที่นั่งแถวๆ นี้จะเห็น
“ใหญ่ ดิบ ดุดันมากมึง ตอนมันลงลิ้นกูร้องลั่น”
“อืม....สมหวังแล้วสิมึง” ไอ้มี่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“มันจะว่ากูง่ายป่าววะ แค่มันขอเป็นแฟนก็ได้กันแล้ว...แล้วมันจะทิ้งกูหรือป่าว? วะไอ้มี่”
“คิดเชี้ยไรแบบนั้น ดูมันหวงมึงจะตาย”
“เออ...แล้วมึงล่ะ?”
“อะไรมึง?”
“มึงเล่ามาเลย...อย่านิ่ง กูเล่าเรื่องของกูแล้ว”
“กูเกือบเดินไม่ได้”
“ทำไมวะ?”
“ก็เด็กวิศวะ เอวแม่งอย่างดุ กูมองเกือบไม่ทัน”
“โห....ไอ้มี่”
“แต่ไม่เป็นไร กูชอบว่ะ555”
“มึงนี่ก็ซาดิส”
ตอนนี้ชายหนุ่มหน้าคมเดินมาส่งน้ำส้มปั่นให้เธอ พวกเธอเลยหยุดพูด
“อ่ะนี่ของมึง” เขาส่งน้ำส้มให้เพื่อนของเธอด้วยทำให้เพื่อนสาวถึงกับงง เพราะไม่ได้สั่งสักหน่อย
“ให้กูหรอ?”
“เออ...มึงเป็นแม่สื่อที่ดีมาก”
ถ้าเมื่อวานไอ้มี่ ไม่พูดแบบนั้น เขาคงยังไม่กล้าเปิดใจจีบคนที่เขาเฝ้ามองมาตั้งแต่รับน้องปีหนึ่งแน่ๆ
“โห...ไอ้แบงค์ มึงต้องเลี้ยงกูมากกว่านี้ป่าววะ?”
“มึงก็ได้ไอ้เอ็มเพื่อนกูไปแล้วไง อย่าบอกว่ามึงไม่ได้นะเมื่อคืน?” แบงค์เลิกคิ้วหนาถามเพื่อนอย่างเย้ยหยัน
“มึงรู้ได้ไง?” เธอถึงกับเขินที่เพื่อนดันรู้ทัน
“กูบอกมันเองแหละ...ว่ามึงชอบมัน”
“กูว่าแล้ว...งั้นก็เจ๊า”
”ถึงเวลาเรียนแล้วไปกันเถอะ” หญิงสาวหน้าสวยมองดูนาฬิกาก่อนที่จะหันไปบอกทั้งคู่ที่กำลังต่อปากต่อคำกันอย่างออกรสออกชาติ