3 วันต่อมา
คนป่วยที่กำลังนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงมองหญิงสูงวัยดูน่าเกรงขามตรงหน้า คนนี้นะเหรอ คุณหญิงอรวรรณ อัครสกูลวงศ์ ความทรงจำเกี่ยวกับท่านในจิตใต้สำนึกของนิ่มน้อยมากจนเธอ อาจจะเพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันด้วย
“คุณหนูของนมสวัสดีคุณหญิงย่าสิคะ” สารีบบอกเมื่อเห็นว่านิ่มจ้องย่าไม่วางตา
“สวัสดีค่าคุณย่า” นิ่มยกมือสองข้างประกบเข้าหากันแล้วยิ้มกว้าง
“ไหว้พระเถอะหนูนิ่ม หมดเคราะห์หมดโศกนะลูก”
อรวรรณลูบหัวหลานสาวอย่างอ่อนโยน แม้ว่าเธอจะมีแม่เป็นแค่คนใช้ที่พยายามปีนขึ้นเตียงเจ้านายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น แต่เด็กที่เกิดมาก็ไม่รู้เรื่องด้วยอีกอย่างคงเป็นกรรมที่ติดตัวมาถึงทำให้นิ่มไม่เหมือนกับคนทั่วไป แล้วแบบนี้คนแก่แบบเธอยังจะจงเกลียดจงชังหลานได้อีกเหรอ
“วันนี้กลับบ้านกับย่านะลูกไปอยู่ด้วยกัน อยากอยู่กับย่าไหม”
“อยู่กับคุณย่า นิ่มอยากอยู่กับคุณย่าเย้ๆ” นิ่มปรบมือรัวๆ อย่างดีใจ ทำเอาคนที่มองอยู่ต่างพากันยิ้มตาม
หลังจากนั้นหมอก็เข้ามาตรวจอาการนิ่มอีกรอบก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ พอทุกอย่างเรียบร้อยคุณหญิงย่าก็พาเธอกับนมสากลับทันทีโดยมีแม็กคอยคุ้มกันอยู่ตลอดเวลาจนถึงคฤหาสน์หลังใหญ่
คฤหาสน์เก่าตระกูลอัครสกูลวงศ์
นิ่มมองคฤหาสน์เก่าแก่ตรงหน้าอย่างสนใจ ก็ได้ยินอยู่หรอกนะว่าฝั่งอาคเนย์มีตระกูลเก่าแก่เยอะ แต่เพราะว่าไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวด้วยเลยไม่ค่อยได้สืบความเป็นมาเท่าไหร่
“ลงมาได้แล้วเด็กดี”
อรวรรณเรียกหลานสาวให้ลงมา ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอต้องเจอหมอรักษาอาการปวดหลังคนใหม่แล้ว หลายวันมานี้หลังจากได้รับการรักษาเธอก็ดีขึ้นอย่างมาก ทั้งที่แต่ก่อนก็รักษาแต่ไม่ได้ดีขึ้นขนาดนี้ สมกับคนที่แนะนำบอกว่าเป็นหมอเทวดา
“ค่าคุณย่า”
“คุณหญิงคะ คุณหมอมารอที่ห้องนั่งเล่นแล้วค่ะ” หัวหน้าแม่บ้านเก่าแก่รีบเข้ามารายงานเมื่อเห็นเจ้านายมาถึง
“งั้นเหรอ พวกเธอพาหนูนิ่มไปพักที่ห้องเถอะ”
“คุณย่าเป็นอาไร ทำไมหาคุงหมอ...หนูนิ่มปายด้วยเป็นห่วงค่า” พอได้ยินว่าหมอเธอก็รู้ทันทีว่าคือคนของวีที่ส่งมาแน่เพราะเมื่อวานเธอได้คุยกับอยู่
'คนของฉันเข้าไปแล้ว เธอก็หาทางเจอเองให้ได้แล้วกันเอง'
“โถ่~ ตัวเองก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลยังจะห่วงย่าเป็นเด็กดีจริงๆ งั้นไปกับย่าก็ได้ลูก”
นิ่มยิ้มให้ย่า ตอนนี้เธอเริ่มจะรู้สึกผิดที่โกหกซะแล้วสิแต่ถึงแบบนั้นก็ต้องทำต่อไป อรวรรณจับมือของเธอให้เดินตามตัวเอง ไม่นานก็เดินผ่านห้องโถงใหญ่เข้ามาด้านในจนถึงห้องนั่งเลย เธอมองหมอที่อายุประมาณ 40-50 ปีได้ เธอไม่รู้จักเขาดูท่าทางอาจจะเพิ่งเข้ามาเป็นคนของวีในช่วงที่เธอตาย
“สวัสดีครับคุณหญิง”
“คุณหมอมาเร็วจังเลยนะวันนี้ ฉันสั่งคนให้แจ้งไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไปโรงพยาบาลรับหลานสาวก่อน”
“แจ้งแล้วครับ แต่พอดีว่าผมมีทำธุระแถวนี้เสร็จแล้วเลยมาครับ”
“หนูนิ่มสวัสดีคุณหมอสิลูก” อรวรรณพยักหน้าเข้าใจก่อนจะหันไปบอกหลานสาวที่ยืนข้างๆ
“สวัสดีค่า~คุณหมอเย้ ๆ คุณหมอรักษาคุณย่า”
“หนูนิ่มไม่เอาลูกสงบหน่อย” อรวรรณดึงมือของหลานสาวที่กำลังตบมือด้วยความดีใจลง “ขอโทษด้วยนะคุณหมอ พอดีหลานคนนี้สติไม่สมประกอบตั้งแต่เด็ก”
“จริงเหรอครับ!” หมอดูตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเล็กน้อย ก่อนที่จะมีท่าทางลังเล “เอ่อคุณหญิงครับถ้าผมพูดไปคุณหญิงอาจจะไม่ค่อยเชื่อแต่ผมเคยรักษาคนที่เป็นโรคนี้หายมาแล้วสองคน สนใจอยากลองให้ผมรักษาให้หลานคุณหญิงดูก่อนไหมครับ”
“อะไรนะ คุณหมอพูดจริงเหรอ”
อรวรรณตกใจในสิ่งที่ได้ยิน แม้ว่าจะมีคนบอกว่าหมอคนนี้เก่งเหมือนหมอเทวดา แต่เรื่องนี้มันก็เกินจะเชื่อได้
“จริงครับ ถ้าคุณหญิงสนใจผมขอเวลาแค่ 3 เดือน...แต่ถ้าไม่เชื่อผมก็ไม่ว่าครับ”
คำพูดของหมอตรงหน้าทำให้หญิงชราสูงวัยลังเล เธอควรลองเสี่ยงดีไหม ใจหนึ่งเธอก็คิดว่าถ้ารักษาหายได้จริงหลานสาวก็จะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่อีกใจมันก็น่าเหลือเชื่อมากเกินไป ถ้ารักษาไม่ได้ก็กลัวหลานจะเป็นอันตราย
“คือ...”
“คุณย่าค่า~ หนูนิ่มอยากหาคุณหมอ” นิ่มพูดขึ้นเพื่อให้ย่าตัดสินใจง่ายขึ้น
“ใช้เวลา 3 เดือนเหรอคุณหมอ”
“ใช่ครับ”
“งั้นลองก็ได้แล้วรักษาที่ไหน ค่าใช้จ่ายเป็นยังไง”
“เรานั่งพูดกันดีกว่าไหมครับ”
หลังจากนั้นนิ่มก็ถูกพาออกมาก่อนจะได้ฟังต่อ แต่คงไม่มีอะไรน่าห่างเพราะดูท่าทางคุณย่าจะตัดสินใจแล้ว ส่วนเรื่อง 3 เดือนเป็นตัวเธอเองที่กำหนดขอบเขตให้คนที่วีหามา เธอจำได้ว่าพายุบอกอีก 3 เดือนข้างหน้าคืองานหมั้นของนิ่มกับพายุ
“ไหนบอกว่าจะกลับมาในอีกสองวันไง แต่ก็ดีแล้วแหละขืนเขาอยู่คุณหญิงย่าคงเล่าให้เขาฟังแน่”
เธออดที่จะสงสัยไม่ได้จริง ๆ คนของพายุก็ไม่ได้บอกเธอว่าทำไมเขาถึงยังไม่กลับมา เธอก้าวขาสำรวจห้องนอนที่ถูกเตรียมให้จนทั่ว จำได้ว่าห้องของนิ่มในบ้านของพ่ออยู่ชั้นล่างห้องมืดทึบ
“ไว้ฉันพร้อมจะกลับไปทวงสิทธิ์ที่เธอควรได้รับแทนนะนิ่ม ต่อจากนี้ไปฉันก็คือเธอ เธอก็คือฉันเพราะแบบนั้นแล้วเรื่องอยุติธรรมที่เธอเคยได้รับฉันจะแก้มันให้เอง”
...........
ก๊อก ๆ
“คุณหนู!! นมสาขอเข้าไปนะคะ”
สาเดินเข้ามาในห้องก็เห็นคุณหนูของตัวเองกำลังหลับอยู่ก็อดเอ็นดูไม่ได้จริง ๆ ถ้าเรื่องที่คุณหญิงย่าของคุณหนูเล่าเป็นเรื่องจริงได้ เด็กคนนี้ที่เธอดูแลมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ก็จะสามารถมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้
“คุณหนูของนมสา ขอให้หมดทุกข์ หมดโศกนะคะ”
สาพูดพร้อมกับลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน ถ้าเกิดคุณหนูหายจากโรคนี้ได้ เธอคงตายตาหลับเพราะอย่างน้อยคุณหนูของเธอก็ดูแลตัวเองได้ในตอนที่ไม่เธอ
“โทรศัพท์เราหายไปไหนเนี่ย ตั้งใจว่าจะเก็บรูปคุณหนูไว้สักหน่อย”
เธอยืนอยู่ตรงนั้นสักพักก่อนจะเดินออกไปหาโทรศัพท์ของตัวเอง ส่วนคนที่หลับเมื่อกี้ก็ลืมตาตื่นขึ้นแล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองแอบขโมยออกมากด
ถึง Veehaiyai@gmalh.com
หลังจากนี้ฉันต้องการที่พักสำหรับ 3 เดือน ของใช้ ของกิน โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ อ่อ! ที่พักไม่เอาเป็นเขตนี้ ขอเป็นนอกเขตการดูแลของเขตนี้เอาที่พวกเขาสามารถหาเจอได้ รบกวนคุณหน่อยนะคะ...แล้วฉันจะบอกบุคลิกคนร้ายเป็นการตอบแทน
จาก Veehaiyai@gmalh.com
เธอนี่ได้คืบจะเอาศอกจริงๆ นะ
นิ่มยิ้มให้กับโทรศัพท์ถ้าเขาตอบกลับมาแบบนี้แปลว่าเธอจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ
“ทำไมกันนะวี ฉันตายมา 7 ปีแล้วยังยึดติดกับเรื่องของฉันจนคนอื่นเอามาใช้ข่มขู่นายได้”
หลังจากวันนี้ไปเธอคงต้องเก็บตัวสักพัก แต่ก็ดีเหมือนกันสำหรับเธอการมีเวลาหลังตื่นนอนไปถึง 7 ปีเปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก คงต้องศึกษาโลกนี้หน่อย
***นมสารักคุณหนูนิ่มมากจริง ๆ ถ้าวันหนึ่งรู้ว่าคนที่ตัวเองอยู่ด้วย ไม่ใช่คุณหนูของตัวเองแล้วจะเสียใจแค่ไหนนะ***