คำขอร้อง

1274 คำ
หลังจากเสร็จพิธีหมั้นแขกก็เริ่มทยอยกลับ ตอนนี้นิ่มถูกพามานั่งรอในห้องที่พายุจองไว้เป็นพิเศษ ไม่นานคนที่ให้เธอมารอก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ เธอ “หนูนิ่มครับ เฮียขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า” “ค่ะ” “หมอคนนั้นทำอะไรกับเราหรือเปล่า ทำไมถึง...” “ถึงหายบ้านะเหรอคะ” เธอฉีกยิ้มให้เขาเล็กน้อย “ความจริงนิ่มก็จำอะไรไม่ได้เหมือนว่าคุณหมอจะใช้การสะกดจิตน่ะค่ะ แล้วก็พาไปสูดอากาศปลอดโปร่ง...นิ่มก็อธิบายไม่ถูก เฮียต้องการคำตอบตอนนี้เลยเหรอคะ” พายุถึงกับต้องถอนหายใจยาวออกมาเมื่อคนตัวเล็กส่งสายตาอ้อนเขา นี่เป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่รู้จักนิ่มมาที่เธอมาท่าทางออดอ้อนเหมือนที่ผู้หญิงทั่วไปทำกัน “เฮ้อ~ เอาไว้วันหลังก็ได้ครับ แต่ว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไรจริงๆ ใช่ไหม” “จริงค่ะ” “งั้นก็ดีแล้วครับ หนูนิ่มบอกเฮียได้หรือเปล่าว่าหมอคนนั้นพาไปอยู่ที่ไหนมา” “หนูนิ่มก็ไม่รู้จักเหมือนกันค่ะ เฮียพายุก็น่าจะรู้นิคะว่านอกจากบ้านแล้วหนูนิ่มไม่เคยไปไหนเลย...แต่ว่าหนูนิ่มก็พออธิบายได้ว่าที่นั่นมีทะเล บ้านตั้งอยู่บนภูเขา มองลงไปเห็นทะเลค่ะ” พายุนึกถึงสถานที่ตามที่นิ่มบอก ถ้าพื้นที่มีทะเลรายล้อมเป็นส่วนใหญ่ก็มีแค่เขตของทิศทักษิณ แต่ทำไมคนของที่นั่นถึงได้สอดมือมาทางนี้ล่ะ ระหว่างที่พายุกำลังคิดนิ่มก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเขาต้องสงสัยแน่ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนมาเลยเบี่ยงไปทางทิศทักษิณแทน “หนูนิ่มกลับพร้อมย่าเลยหรือเปล่า” เสียงของหญิงชราสูงวัยทำให้ทั้งคู่หันไปมอง “ค่ะ!” แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบรับพายุก็พูดแทรกขึ้นก่อน “เดี๋ยวน้องจะกลับบ้านผมก่อนครับคุณหญิงย่า ผมให้หมอมาตรวจอาการน้องอีกทีเผื่อมีโรคแทรกซ้อนอะไร ถ้าหมอตรวจเสร็จผมจะพาน้องกลับไปส่งครับ” “งั้นก็ได้ลูก ย่าฝากน้องด้วยนะ” “ครับ” หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็พากันออกจากโรงแรมมาส่งคุณหญิงย่าขึ้นรถเสร็จ ทั้งคู่ก็นั่งรถกลับบ้านพายุทันที ตระกูลอนันท์พิบูรวงศ์ษา นิ่มมองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้าแล้วรู้สึกอึ้งเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นบ้านของเธอก่อนตายหรือบ้านของคุณหญิงย่ายังเทียบไม่ได้กับความหรูหราของประติมากรรมตรงหน้าเลยสักนิด ก็สมกับเป็นตระกูลที่รวยสุดในประเทศ “หนูนิ่มชอบบ้านเฮียหรือเปล่าครับ” “ชอบค่ะใหญ่มาก ใหญ่กว่าบ้านคุณย่าอีก” “งั้นอยู่กับเฮียที่นี่เลยดีไหม” นิ่มฉีกยิ้มเล็กน้อยเป็นการตอบรับ จะให้เธออยู่ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อวันนี้เธอตั้งใจมาขอร้องเพื่อไปอยู่ที่อื่น เวลา 3 เดือนที่เธอหายไปได้รู้เรื่องอะไรมากมายเลย แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่พอสำหรับคนที่หายไป 7 ปี เธอเลยตั้งใจว่าจะขอไปอยู่ต่างประเทศสักพัก อีกอย่างร่างกายนี้ก็ไม่เหมาะจะไปตอบโต้ใครได้ เธอคงต้องฝึกอีกสักพักเพื่อความเคยชินในการขยับร่างกายเพราะเหมือนจะไม่ค่อยมีแรงเลย “คือเฮียคะ หนูนิ่มมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ” “เรื่องอะไรครับ” “เราค่อยไปคุยกันในบ้านของเฮียดีไหมคะ” “ก็ดีเหมือนกันครับ เฮียก็มีเรื่องอยากถามหนูนิ่มเหมือนกัน” พายุจับมือเล็กของคู่หมั้นตัวเองมากุมไว้ ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเสียหนูนิ่มที่น่ารักไปแล้วหรือเพราะแค่เธอกลับมาเป็นคนปกติอย่างนั้นเหรอ หลังจากนั้นไม่นานรถก็ขับเข้ามาจอดที่ประตูไม้บานใหญ่ที่มีพ่อบ้านกับแม่บ้านเกือบสิบกว่าคนได้มายืนคอยต้อนรับการกลับมาของเจ้านาย นิ่มเห็นแบบนั้นก็อดขำไม่ได้ตอนที่เธอเป็นนารันยังไม่มีแบบนี้เลย อาจจะเพราะคุณปู่ของเธอท่านไม่ค่อยชอบมีพิธีรีตองมากมายด้วย “ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับนายท่าน คุณหนูนิ่ม” นิ่มยิ้มเล็กน้อยจากการทักทาย ดูเหมือนว่าการต้อนรับแบบนี้จะตั้งใจจัดทำขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ “สวัสดีค่ะทุกคน” ไม่นานนิ่มกับพายุก็พากันมานั่งที่ห้องนั่งบนชั้นสองของตัวบ้าน ระหว่างทางนิ่มก็มองรอบๆ เพื่อสำรวจทางบ้านอีกฝ่าย เท่าที่เห็นบ้านหลังนี้มี 4 ชั้น ถ้าไม่มีชั้นได้ดินเพิ่มนะ “นั่งก่อนสิครับ” พายุตีมือลงบนโซฟากำมะหยี่ข้างตัวเอง “เรื่องอะไรเหรอครับที่หนูอยากจะบอกเฮีย” “เฮียพายุคะ...คือหนูนิ่มขอเวลาสักปีไปเรียนรู้เรื่องต่างๆ ที่ต่างประเทศได้ไหมคะ” “ทำไมต้องไป” ใบหน้าของพายุดูตึงเครียดทันทีเมื่อได้ยินคำร้องขอ ทำไมพอเธอหายเป็นปกติแล้วถึงได้มีความคิดแบบนี้กันนะ ถ้าเป็นแบบนี้กลับไปเป็นคนเดิมยังดีกว่า “เฮียก็รู้ใช่ไหมว่าตลอดชีวิตหนูนิ่มเป็นแค่คนบ้าในสายตาของคนอื่น การที่ได้กลับมาเป็นปกติหนูนิ่มก็อยากรู้จักโลกภายนอกบ้าง หวังว่าเฮียจะสนับสนุนคำขอร้องของหนูนิ่มนะคะ” พอได้ฟังคำขอของคนตรงหน้าพายุก็ได้แต่ถอนหายใจยาว เขาพอจะเข้าใจในคำขอของนิ่มอยู่เพราะถ้าเป็นเขาพอก็อยากทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ “ก็ได้ครับ…แต่ต้องหลังจากที่เฮียแน่ใจว่าหนูนิ่มหายดีจริงๆ และต้องไปอยู่ในสถานที่เฮียจัดไว้ให้ มีคนของเฮียคอยตามดูแลอยู่ตลอด” นิ่มยิ้มแห้งเธออุตส่าห์จะหนีไปทำเรื่องบางอย่างแต่ถ้าถูกคลุมตลอดเวลาขนาดนี้ก็ซวยนะสิ แต่ก็เอาเถอะพอถึงเวลาค่อยคิดหาทางหนี “ได้ค่ะ มีคนของเฮียคอยดูแลหนูนิ่มยิ่งสบายใจ” “งั้นก็ดีครับ…ไปกินข้าวกันไหมเฮียให้คนจัดโต๊ะไว้รอแล้ว” ระหว่างที่เขาบอกเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาเลยหยิบออกมาเปิดอ่านข้อความ “พอกินข้าวกันเสร็จคุณหมอที่เฮียตามให้มาดูอาการของหนูคงมาถึง ถ้าตรวจร่างกายเสร็จแล้วหมอบอกว่าปกติเฮียจะให้หนูเลือกประเทศที่อยากไปดีไหม” “ก็ดีค่ะ…คู่หมั้นของหนูนิ่มทั้งหล่อและก็ใจดีที่สุด” ร่างเล็กโผล่เข้าอีกฝ่ายด้วยความออดอ้อน เกิดมาเพิ่งจะเคยทำเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย ก่อนเพราะต้องเป็นผู้นำเรื่องแบบนี้แม้แต่กับสามียังไม่เคยทำ “เดี๋ยวนี้รู้จักพูดอ้อนเฮียด้วย…เฮียดีใจนะครับที่หนูนิ่มหายเป็นปกติ ถึงแม้ว่าสถานการณ์มันจะไม่ปกติก็ตาม” พายุพูดพร้อมกับโน้มตัวไปจูบหน้าผากเธอด้วยความอ่อนโยนและก็เป็นอีกครั้งที่นิ่มใจเต้นเวลาที่เขาทำแบบนี้กับตัวเอง [ไม่หรอกมั้ง ขนาดผัวเก่าเรายังไม่ใจเต้นแบบนี้เลย ทำไมทีกับเด็กหนุ่มคนนี้ถึงเต้นไม่หยุดเลย]
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม