หลังจากนั้นเอริคกับมารีนก็ขึ้นมาจนถึงห้องพักสวีทสุดหรูหราของโรงแรมแห่งนี้ พวกเขาเข้ามาในห้องพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ห้องนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเวนิชได้อย่างชัดเจน ตึกอาคารของเมืองนี้ดูทันสมัยและมีกลิ่นอายของความเก่าแก่ของเมืองอยู่เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่สวยงามเอาไว้
เหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายช่วยกันขนกระเป๋าสัมภาระของเอริคกับมารีนเข้ามาในห้องและจัดการเอาไปเก็บไว้ในห้องแต่งตัวให้เสร็จสรรพเรียบร้อยก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
มารีนเดินสำรวจรอบห้องเล็กน้อย ส่วนเอริคเดินมาทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มอย่างหมดแรง ชายหนุ่มไม่ชอบการเดินทางไกลแบบนี้สักเท่าไหร่เพราะเขารู้สึกว่ามันเสียเวลาและรู้สึกเหนื่อยล้าเกินไปกับการเดินทาง ดวงตาคมกริบหลับตาลงเพื่อที่จะพักผ่อนสายตาสักนิด ทว่าเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้นมาจากในกระเป๋ากางเกงเสียก่อน
เอริคลืมตาขึ้นมาด้วยใบหน้านิ่งเรียบก่อนที่มือหนาจะล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและกดรับสายทันทีเมื่อเขารู้ว่าใครโทรมา
“ว่าไง” เสียงทุ้มของเอริคเอ่ยขึ้นมา
‘ลงมาดื่มด้วยกันหน่อยไหม ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อยที่บาร์’ เลโอนาร์ดที่อยู่ปลายสายตอบกลับมาเป็นภาษาอิตาลี
“เออ เดี๋ยวลงไปหา” พูดจบ เอริคก็กดตัดสายไปทันที
“หิวก็สั่งอะไรขึ้นมากินเลย ฉันจะลงไปหาเพื่อน” ร่างกำยำยันกายลุกขึ้นนั่งจากที่นอนพลางบอกกล่าวหญิงสาวที่กำลังจะเดินออกไปชมวิวตรงระเบียง
“ค่ะ” มารีนหันหน้ามาตอบกลับชายหนุ่มสั้นๆ
หลังจากนั้นเอริคลุกขึ้นยืนและก้าวเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว มารีนถอนหายใจออกอย่างโล่งอกเพราะเธอรู้สึกอึดอัดเมื่อเอริคต้องมาอยู่ภายในห้องกับเธอแบบนี้
เวลาผ่านพ้นไปจนกระทั่งถึงช่วงตีหนึ่งของวัน มารีนใช้เวลาอยู่ภายในห้องพักด้วยความสบายใจและผ่อนคลายมากๆกับการที่ไม่มีเอริคอยู่ในห้องด้วย เธอสั่งอาหารขึ้นมาทานพร้อมกับนั่งชมวิวทิวทัศน์ตรงระเบียงจนกระทั่งถึงช่วงสี่ทุ่ม หญิงสาวก็เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายในห้องน้ำแล้วออกมาเข้านอนทันที เพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำให้มารีนหลับลงไปอย่างง่ายดาย
เอริคกลับมาที่ห้องพักด้วยสภาพเมามายในช่วงตีสองนิดๆ เขาปรายตามองมารีนที่นอนหลับสนิทอยู่บนที่นอนโดยที่เธอไม่ได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ เรียวขาแกร่งก้าวตรงไปหยุดอยู่ข้างเตียงใหญ่กลางห้องพร้อมกับมองสำรวจร่างอวบอิ่มในชุดนอนสีขาวแขนยาวขายาวสะอาดตา
ชายหนุ่มมองร่างอรชรด้วยสายตาที่เริ่มมีไฟปรารถนาเข้ามาครอบงำ มารีนถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยสดและมีรูปร่างที่น่าหลงใหล ชายใดก็อยากจะลิ้มลองเธอ ซึ่งเอริคเองก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความต้องการแบบนั้นเช่นกัน
ร่างกำยำโน้มลงไปอย่างช้าๆก่อนที่เขาจะคร่อมร่างเล็กไว้โดยที่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักตัวลงไปทั้งหมด ทว่าหญิงสาวก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอยู่ดี
“คะ..คุณเอริค คุณเมาเหรอคะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างสั่นไหวพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เอริคไม่ได้ตอบกลับอะไรออกไป ดวงตาคมกริบเอาแต่จ้องมองหญิงสาวโดยที่แก่นกายใหญ่ของเขาเริ่มแข็งขันชูชันขึ้นเรื่อยๆ
“ปล่อยฉันนะคะ” เสียงหวานพูดต่อ
“เราแต่งงานกันแล้วนะ” เอริคกดเสียงต่ำตอบกลับหญิงสาว มือหนาเริ่มล้วงเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังแบบบางอย่างหื่นกระหาย
“แต่เราไม่ได้รักกันนะคะ” มารีนยกมือขึ้นมาดันอกแกร่งเอาไว้เพื่อไม่ให้เอริคทาบทับลงมาบดเบียดเต้าสวยของเธอ
“เอากันเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกแบบนั้นหรอกนะ” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงต่ำมาเรื่อยๆจนปลายจมูกชนกับหญิงสาว
“คุณเอริค..ฉันยังไม่พร้อม” เรียวปากเล็กเอ่ยอย่างแหบพร่า
“อย่ามาลีลา..ประจำเดือนเธอคงหายแล้วละ แต่ถึงไม่หายฉันก็จะเอา”
“คือ…” ยังไม่ทันที่มารีนจะได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ ริมฝีปากหยักหนาของชายหนุ่มประกบจูบลงบนเรียวปากเล็กอย่างรวดเร็วโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว
ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่จูบแรกของหญิงสาวแต่เธอก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มหน้าไหนขนาดนี้ อีกทั้งเธอยังไม่เคยได้สัมผัสกับความรุนแรงดุดันแบบนี้มาก่อน กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของชายหนุ่มยิ่งทำให้มารีนหูอื้อตาลายมากขึ้นกว่าเดิม สัมผัสขมปร่าที่ปลายลิ้นสากค่อยๆรุกล้ำเข้ามาในโพรงปากเล็กและตวัดเกี่ยวพันลิ้นเล็ก
วันนี้เขาไม่ปล่อยเหยื่อตรงหน้าเขาไปอย่างแน่นอน
มือหนาล้วงเข้าไปใต้แผ่นหลังแบบบางก็พบว่าหญิงสาวสวมใส่เป็นสปอร์ตบรา เขาจึงเลื่อนมือแกร่งเข้ามาในบราและลูบไล้มายังเต้าสวย
เอริคออกแรงบีบหน้าอกสวยอย่างแรงจนหญิงสาวสะดุ้งโหยง น่าแปลกที่มารีนทำเหมือนกับว่าไม่คุ้นเคยกับสัมผัสพวกนี้จนชายหนุ่มเกือบจะหลงเชื่อเธอแล้ว แต่เพราะข่าวเสียหายของเธอจึงทำให้เขาไม่ค่อยจะเชื่อเธอสักเท่าไหร่
“อื้อออ” เสียงหวานครางต่ำในลำคอพร้อมกับบิดเร้าร่างกายด้วยความรู้สึกวาบวามที่ก่อตัวขึ้นมาภายในกายสาวกับสัมผัสที่ช่ำชองของเอริค