ตอนที่ 7
ดาวเรือง
“ดาวเรืองจ้ะ...ฉันชื่อดาวเรือง”
หญิงสาวบอกอย่างเหนื่อยอ่อน และ ปราช ก็พึมพำชื่อเธอซ้ำก่อนจะเอนกายลงข้างร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ และหลับตาลงก่อนจะหลับไหลในเวลาไม่นานนัก ดาวเรืองได้แต่หรี่ตาพินิจมองหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ความเจ็บแปลบในร่างกายพลันปะทุขึ้นอีกครั้ง เธอจึงพลิกร่างให้นอนตะแคงอย่างระมัดระวัง ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา
ปราช ถือว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคมคาย รูปร่างงดงามสมส่วนชายชาตรี ผิวของเขาเนียนละเอียดไม่ถึงกับดำคล้ำอย่างเช่นคนส่วยหรือคนเขมรดั้งเดิม แต่ออกขาวเหลืองเหมือนมีเชื้อสายจีนผสมกรูย จมูกโด่งเป็นสันนั้นรับกับคิ้วหนาที่พาดอยู่บนเปลือกตาที่แผงขนตางอนสวย
เขาหน้าตาคมคายเหมือนกำนันเปรื่อง และงดงามสมส่วนเหมือนมารดา หมอผีรัตนาคนนั้น
ความจริงแล้ว ดาวเรืองเองก็ไม่แน่ใจเท่าใดนักว่า หญิงคนนั้นเป็นหมอผีหรือไม่ แต่เธอเรียกหล่อนว่า ป้ารัตน์ ดั่งเช่นคนในหมู่บ้านเรียกกัน
เธอเคยเห็นป้ารัตนา ไม่กี่ครั้ง ด้วยตอนเป็นเด็ก ผู้หญิงคนนี้มาเปิดร้านขายของชำอยู่ท้ายหมู่บ้าน ของส่วนใหญ่ที่เอามาขายเป็นพวกของจุกจิกทั่วไปที่หล่อนไปรับมาจากในเมือง มีทั้งรองเท้าแตะ น้ำมันก๊าช มีด จอบเสียม และของทั่วไป
ป้ารัตน์นั้นเป็นผู้หญิงสวยอายุประมาณสามสิบต้นๆ ว่ากันว่าหล่อนเคยมีสามีและลูก ก่อนที่จะย้ายมาหมู่บ้านนี้แต่ไม่มีใครทราบว่าเป็นใคร
ตอนนั้น ดาวเรืองอายุประมาณเจ็ดขวบ เป็นเด็กชั่งพูดชั่งเจรจา และชอบไปกับเพื่อนๆในวัยเดียวกัน เพื่อไปเล่นที่บ้านของป้ารัตน์ ด้วยบ้านหลังนั้นมีหนังสือตำรามากมายและของเล่นหลายอย่างที่คนในหมู่บ้านไม่มี
ทุกครั้งที่ไปบ้าน ป้ารัตน์ จะต้อนรับพวกเธอเป็นอย่างดี
เอาหนังสือนิทานมานั่งอ่านให้ฟัง และทำอาหารอร่อยให้กิน บางวันก็มีมันเผาร้อนๆ นั่นทำให้เธอและเพื่อนชอบหนีพ่อแม่ไปเที่ยวที่บ้านป้ารัตนาประจำ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆป้ารัตนา ก็หายไปจากหมู่บ้านอย่างไร้ร่องรอย ของทุกอย่างหายเกลี้ยงจากบ้านหลังนั้น ไม่รู้ว่าหล่อนหายไปไหน และไปอยู่ที่ใด
จากนั้นมา ดาวเรือง ก็ค่อยๆลืมเลือนเรื่องราวนี้ไปเสียสิ้น
จนกระทั่งเธออายุสิบแปดย่างสิบเก้า ก็มีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นกับเพื่อนๆในกลุ่มของเธอ เนื่องด้วยเพื่อนเธอทยอยเสียชีวิตทีละคน ตั้งแต่ กอบัวตายเพราะฟ้าผ่าขณะออกไปทำงาน ตามด้วยสายไหมตายเพราะกินเห็ดเบื่อจากป่า และอีกสองสามคนที่ตายหลากหลายสาเหตุ
แต่ทุกคนล้วนตายในวันเกิดอายุยี่สิบปี และเป็นกลุ่มคนที่คลุกคลีกับป้ารัตน์ในวัยเด็กทั้งสิ้น
“มึงโดนอีปีศาจมันฝังมนต์คำสาปไว้ตั้งแต่เด็กแล้วอีดาวเรือง และชีวิตมึงจะมอดม้วยตอนอายุซาว(ยี่สิบ) ดั่งเช่นคนอื่นๆ เพราะอายุของมึงจะต่ออายุให้นังรัตน์ไปเรื่อยๆ”
ยายแป้น ผู้เป็นหมอมอ ของหมู่บ้านเอ่ยทักขณะที่เธอไปใส่บาตรที่วัดกับป้า ให้กับพ่อและแม่ที่เสียเพราะเป็นใข้ป่าตอนไปงานที่ไร่ คำนั้นทำให้ดาวเรือง ตระหนกนัก
“แล้วต้องทำเช่นไรรึ? พอมีหนทางมั้ยยาย”
ป้าเกศ ของเธอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงหลานสาว เพราะตั้งแต่สาวๆวัยเดียวกันกับดาวเรือง เสียชีวิตติดๆกัน ทุกคนในหมู่บ้านก็หวั่นเกรงนัก
“อีรัตน์มันแกร่งกล้านัก ชีวิตมันยาวนานมาหลายร้อยปีจากการดูดกลืนวิญญานของผู้คนที่สมยอมให้มันต่อชีวิตไปเรื่อยๆ หนทางเดียวที่จะคลายมนต์มันได้คือต้องเสพสมกับคนที่มีสายเลือดเดียวกันกับมันเท่านั้น”
เสพสมงั้นรึ!! แล้วคนสายเลือดเดียวกับ ป้ารัตน์ จะมีด้วยเหรอ หล่อนลึกลับและไม่มีใครล่วงรู้ที่มาที่ไปได้
“แล้วใครกันที่เป็นสายเลือดเดียวกับมัน”
ป้าเกศเอ่ยถามอย่างสงสัย
“มันมีลูกชายกับกำนันเปรื่องที่อยู่ศรีขร ก่อนจะย้ายมาที่นี่ เป็นเลือดเนื้อของมันเพียงคนเดียวที่ญานกูจับกระแสได้ มึงจงรีบหาทางเข้าใกล้มันให้ได้อีดาวเรือง”
ยายแป้นบอก หลังจากนั้นก็ทำพิธีเชื่อมมนต์ให้เธอ “หากเมื่อใดที่มึงได้เสพสังวาสกับลูกชายมัน มนต์ของอีรัตน์จะคลายลงกูทำพิธีให้แล้ว”
คำของยายแป้น ดังก้องอยู่ในหู และวันนี้ดาวเรืองก็ทำสำเร็จแล้ว ...เธอได้รับการปลดปล่อยแล้ว
หญิงสาวจึงนอนมองหน้าหล่อเหลาที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างๆอย่างโล่งอก เพราะพรุ่งนี้เช้าเธอก็จะได้ออกจากที่นี่ และไปใช้ชีวิตอิสระแล้ว
ดาวเรืองจึงหลับสนิทข้างๆร่างของเขาอย่างสบายใจ
.
.แสงแดดยามเช้าสาดส่องหน้าต่างไม้มากระทบกับเปลือกตาคู่สวยของ ดาวเรือง ทำให้เธอปรือตาขึ้นและรีบขยับตัวลุกนั่งอย่างทุลักทุเล
ร่างกายเหมือนจะหนักอึ้งเมื่อมีแขนแข็งแรงวางทับบนตัว คนที่นอนอยู่ข้างๆร่างกายเปลือยเปล่าและหลับสนิท หญิงสาวพยายามยกมือเขาออกจากตัวอย่างระมัดระวัง ด้วยไม่อยากให้เขารู้สึกตัว
“รถสองแถวจะเข้ามาในหมู่บ้านตอนเจ็ดโมงครึ่ง”
เธอพึมพำกับตัวเองด้วยหาข้อมูลมาบางส่วนแล้ว และเธอต้องรีบออกไปจากที่นี่ เพื่อเดินไปยังท่ารถของหมู่บ้าน จึงรีบควานหาเสื้อผ้าและชุดชั้นในของตนที่ตกอยู่บนพื้นเรือน
ชุดหมอลำฟูฟ่องนี่แหละ ไม่เป็นไรดอก
มีเงินยัดอยู่ในกระเป๋าของกระโปรงด้านในเกือบสองร้อยแค่นี้ก็เยอะเพียงพอที่จะให้เธอกลับบ้านได้ หลังใส่เสื้อผ้าเสร็จเธอจึงรีบผลักประตูไม้ออกอย่างระมัดระวังแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านทันที
ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นที่เธอทำอะไรบ้าๆเช่นนี้
หวังว่าคำบอกของ ยายแป้นจะสัมฤทธิ์ผลและเธอเองก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติของเธอต่อไป
ร่างเล็กในชุดกระโปรงบานรีบวิ่งไปตามถนนลูกรังหน้าบ้านเพื่อไปยังท่ารถ โดยทุกอย่างอยู่ในสายตาคมเข้มของ ปราช เจ้าของเรือนที่มองเธอมานานแล้ว ตั้งแต่เธอลุกขึ้นแต่งตัวและรีบเดินออกจากห้องไป
ร่างหนาพยุงกายลุกขึ้น ก่อนจะคว้าผ้าขาวม้ามาพันรอบลำตัว คิ้วหนาเข้มขมวดขึ้นเล็กน้อย
กลิ่นกายหอมละมุนของเธอยังคงอบอวลอยู่ในห้อง
“นายจ้ะ ฉันเห็นสาวสวยใส่ชุดหางเครื่องวิ่งออกจากเรือนตั้งแต่เช้าเลย จะให้ฉันขับรถตามไปส่งมั้ยจ้ะ”
ไอ้แดน ลูกน้องคนสนิทปรี่เข้ามาถาม เมื่อเห็นเจ้านายรูปหล่อเดินลงมาจากเรือน
“ไม่ต้อง”
ปราช เอ่ยสั้นๆ ดวงตาคู่สีถ่านเข้มมีแววครุ่นคิด เมื่อนึกถึงร่างนุ่มนิ่มที่เขากกกอดแนบชิดเมื่อคืน แม้จะเริงรักกันอย่างเร่าร้อนเพียงใด เธอก็ไม่เปิดเผยตัวตนออกมาว่าเข้าหาเขาเพราะอะไร
รู้เพียงว่าเธอชื่อ ...ดาวเรือง
“จ้ะนาย แล้ววันนี้จะให้ฉันพาคนงานไปปรับดินด้านหลังมั้ยจ้ะ จะได้ลงมันสำปะหลังชุดใหม่”
ไอ้แดนเอ่ยถาม อย่างนอบน้อม ขณะยกชาร้อนมาพร้อมมันเผามาให้เจ้านาย
มุมปากของ ปราช ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ต้องไป ...วันนี้กูมีงานให้มึงทำ”
*****************