ตอนที่ 12
หนูอยากอยู่ใกล้พี่
“อ๊ะ อูย..”
หน้าสวยของ ดาวเรือง บิดเหยเกด้วยความเจ็บเมื่อรู้สึกเจ็บปลาบที่ข้อเท้าข้างขวา ด้วยอาจเพราะว่าเมื่อสักครู่ตอนล้มเธอหันเท้าไปอีกทางนั่นอาจทำให้ข้อเท้าแผลงได้
“เป็นไงบ้าง? จะรีบเดินมาทำไมกัน เดี๋ยวข้าก็หยิบไปให้”
ปราช เอ่ยถามเสียงนุ่มทุ้มต่ำ ร่างหนาย่อกายนั่งลงข้างเธอ แล้วเอื้อมจับข้อเท้าเล็กที่แดงบวมเบ่ง หน้าหล่อเหลาโน้มลงใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนของเขารดรวยรินอยู่ใกล้
“อ๊ะ หนูเจ็บ”
หญิงสาวปรามเบาๆ เมื่อมือหนาจับข้อเท้าเบาๆ แต่สายตายังคงเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ปราช อยู่ในชุดผ้าฝ้าย ที่ใส่กระดุมเม็ดกลางเพียงเม็ดเดียว เผยให้เห็นแผงอกกำยำแน่นเครียดน่ามอง
กลิ่นกายเขาหอมสะอาดคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ผมหนานุ่มนั้นเปียกชื้นเล็กน้อยและมีกลิ่นแชมพูจางๆ และนั่นก็ทำให้ดาวเรือง รู้สึกคล้ายลมหายใจตัวเองเริ่มจะติดขัดขึ้นมา
บางทีเขาอาจได้รับมนต์บางอย่างมาจากแม่ของเขา
เธอถึงได้ใจสั่นไหว ไม่เป็นตัวของตัวเองเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา เหมือนความคิดและหัวสมองทุกอย่างขาวโพลนไปหมด รวมทั้งแขนขาที่เริ่มอ่อนระทวย
“ยังไม่ต้องขยับ”
คิ้วหนาของ ปราช ย่นเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะช้อนร่างของเธอขึ้นจากพื้นเรือน นั่นทำให้หญิงสาวตระหนกเล็กน้อย ด้วยวันนี้เธอตั้งใจจะทำกับเขาสักครั้งจะได้ลดทอนจำนวนที่เหลือ
“มะ..ไม่ จะพาหนูไปไหน”
“อุ้มกลับไปที่ห้องเอ็งไง จะเดินลงไปได้ยังไงกัน”
“หนูยังไม่ได้ซ้อมเต้นเพลงเลย”
เธอชี้ไปยังวิทยุ ด้วยอย่างน้อยวันนี้ตั้งใจจะเต้นยั่วเขาสักเพลงสองเพลงเช่นดั่งวันนั้น
“ขาเจ็บเช่นนี้จะเต้นได้อย่างไร วันหลังค่อยซ้อม”
ชายหนุ่มเดินสาวเท้าอุ้มเธอเดินลงบันใด และใช้หลังดันประตูห้องด้านล่างก่อนจะวางเธอยังเตียงนอนเล็กที่อยู่มุมห้อง ก่อนจะเตรียมเหยียดกายผละออกห่าง แต่เธอยังคงช้อนตามองเขา สองมือยังคงเกาะเกี่ยวรอบคอเขาไว้แน่น
“หนูดีใจที่ได้กลับมาที่นี่อีก”
“เช่นนั้นรึ?”
“ใช่จ้ะ หนูอยากกลับมาหาพี่ปราช...อยากอยู่ใกล้พี่”
“แล้วเหตุใดวันนั้นจึงหนีไปเสียละ” มุมปากของ ปราช ยกยิ้มเล็กน้อย แม้จะแปลกใจกับกริยาของเธอ แต่ท่าทางออดอ้อนในตอนนี้ก็ไม่อาจทำให้เขาดันร่างนิ่มออกห่าง
อยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อ
“ก็หนูกลัวพี่ปราช จะมองว่าหนูใจง่ายนี่นายิ่งหนูมาในฐานะหางเครื่องวงหมอลำแบบนั้น”
ใบหน้าสวยยิ้มระเรื่อ และเอ่ยเสียงหวานออดอ้อน
นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำครั้งที่สองกับเขา
“งั้นรึ!ทำไมข้าไม่รู้สึกเลยว่าเอ็งพูดออกมาจากใจ”
น้ำเสียงของเขากังวานและแฝงความเย้ยหยันในที แต่นิ้วเรียวแข็งกลับไล้ยังเรียวปากอิ่มช้าๆ อย่างชั่งใจ
“หนูอาจจะพูดไม่เก่ง แต่หนูบอกอย่างที่หนูรู้สึกจ้ะ แค่อยากบอกว่าหนูอยากอยู่ใกล้พี่ อยากจะทำกับพี่แบบคืนนั้นอีกหลายๆครั้งเลย”
ดาวเรืองเอ่ยเสียงหวาน นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลจ้องมองเขาอย่างยั่วยวน
ปราช มองเธออย่างล้ำลึก ก่อนจะยิ้มออกมา
“อะไรทำให้เอ็งคิดว่าหากยั่วข้าขนาดนี้ ข้าจะยอมปล่อย”
แขนแข็งแรง ท้าวยังฟูกนอน และเอ่ยถามเสียงแหบพร่า แม้จะรู้ว่า สาวหางเครื่องนี่มีเจตนาอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น แต่ความออดอ้อนและร่างนุ่มนิ่มของเธอ ก็ไม่อาจทำให้เขาถอยออกห่างได้จริงๆ
“หนูไม่ได้ยั่วเสียหน่อย หนูพูดจริงจ้ะ”
จริงๆก็ยั่วนั่นแหละ เกิดมาเคยทำแบบนี้เสียที่ไหนกัน
“อยากให้ข้าทำอะไรรึ?”
เขาเชยคางเรียวของเธอขึ้น จ้องมองไปยังนัยน์ตาคู่สวยที่เริ่มสั่นระริก สวนทางกับคำพูดที่แสนยั่วยวนยิ่งนัก ท่าทางของเธอกับกริยาที่สั่นไหวดูขัดแย้งกันไปหมด
นั่นทำให้ ปราช นึกสนุกขึ้นมา
ความจริงแล้วเขาชอบที่ได้สัมผัสเธอแบบคืนนั้น แม้วันนั้นจะไม่ได้เตรียมให้เกิดความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกเช่นนั้น แต่อะไรบางอย่างจากตัวเธอที่ดึงดูดใจเขาจนแทบคลั่ง และต้องปลดปล่อยออกมาในคืนนั้น
แต่ในครั้งต่อๆไป เขาอยากให้เวลาเธอมากกว่านี้
อยากให้รู้จักตัวตนของเขาทีละหน่อย จึงได้หาวิธีพาเธอกลับมาที่เรือนของตน
แต่ตอนนี้เธอเริ่มจะทำให้เขาทนไม่ไหวอีกครั้ง
“หนูอยากให้พี่ทำแบบวันนั้นอีก”
ดาวเรือง ยืดตัวขึ้นให้หน้าใกล้ชิดกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา และกดริมผีปากจูบยังปากหยักได้รูปนั้นเบาๆ ปลายลิ้นเล็กแลบออกมาตวัดเลียหยอกเย้า และเบียดร่างตัวเองบดเบียดร่างหนาของเขา
“อืม”
เขาคำรามต่ำในลำคอ เมื่อริมผีปากนุ่มบดเคล้าหนักหน่วงขึ้น และเมื่อริมผีปากของเขาเผยอออก ลิ้นเรียวเล็กก็แทรกซอนเข้าในโพรงปากอุ่นของเขา และดูดดุนลิ้นสากร้อนอย่างที่เธอและเขาทำในคืนนั้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
เธอจูบเขาจนเหมือนลมหายใจตัวเองเริ่มจะขาดห้วงจึงถอดถอนริมผีปากออก และมองเขาด้วยสายตาปรือเชื่อม
คืนนี้อย่างน้อยเธอต้องได้ทำเป็นครั้งที่สอง
“เอ็งนี่!!..”
ปราช สอดมือเข้ายังท้ายทอยใต้เรือนผมสลวย ดันหน้าเธอให้เงยขึ้นแล้วบดจูบลงยังริมผีปากอิ่มชุ่ม ลิ้นสากร้อนสอดลึกเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างหนักหน่วง