“เขาจะเห็นฉันไหม” ชลันธรถามเพื่อนเพราะตัวเองไม่กล้าหันไปมอง กลัวเขาเห็นว่าเธอออกมาเที่ยวกับเพื่อนโดยไม่ได้บอกเขา
“แกหันไปดูเถอะ โน้น!” อนงนาถพยักพเยิดให้เพื่อนหันไปมอง เพราะบอสใหญ่ของเรานั้นเข้าร้านจิวเวลรี่ไปเรียบร้อยแล้ว
ชลันธรค่อยๆ หันไป ในหัวใจเต้นตุบ กลัวว่าเขามีคนอื่น กลัวว่าที่เขาไม่ค่อยรักเธอเหมือนเมื่อก่อนจะเป็นเรื่องจริง นี่ก็เกือบสามปีแล้ว นอกจากได้กอดใบทะเบียนสมรส เธอก็ไม่มีสิทธิ์อื่นใดที่จะแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเขาเลย
ดวงตาหวานมองตามเพื่อนไปจนเจอร่างที่คุ้นเคย ที่เธอเคยนอนกอดอยู่ทุกคืนหากเขามาอยู่กับเธอ มีเพียงพักหลังๆ ที่เธอชวนเขามีลูก แล้วเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
‘เขามากับผู้หญิงอื่น’ เธอไม่ได้ตาบอด เพราะสิ่งที่เห็นอยู่นั่นคือสามีเธอ เดินควงกับผู้หญิงอื่น
“นาถ เขามากับใครแกรู้จักไหม” ปากเล็กกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา เธอรู้สึกจุกอยู่ในอก หัวใจเธอกำลังอยากหยุดเต้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
เธอไว้ใจเขา แต่เขากำลังหักหลังเธอ
“น่าจะคนที่มีข่าวซุบซิบว่า จะได้เป็นคู่แต่งงานแห่งปีเร็วๆ นี้มั้ง” อนงนาถมองเห็นหน้าผู้หญิงไม่ชัด แต่ก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก
“คู่แต่งงานแห่งปีงั้นเหรอ?” เธออยู่กับเขามาจะสามปี คำว่างานแต่งมันเลือนลางเต็มที แต่กับผู้หญิงคนนี้ได้รับการคาดเดาว่าจะเป็นคู่แต่งงานแห่งปีของเขางั้นเหรอ
นี่มันอะไรกัน เขาคิดจะหลอกให้เธอดีใจเล่นกับทะเบียนสมรส เพื่อจะได้ร่างกายของเธอไปเชยชมงั้นเหรอ
“อืม...แกควรหาข่าวซุบซิบของไฮโซดาราอ่านบ้าง จะได้ไม่ตกข่าว ไม่ใช่ขลุกกับสามีลับๆ ของแกอย่างเดียว”
เพื่อนเธอพูดความจริง เธอเหมือนปิดโลกปิดหูปิดตา เพื่อจะมีความสุขกับเขา โดยไม่ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขาเลย เขาอยากให้เธอรู้แค่ไหน เธอก็รู้แค่นั้น นี่เธอมันโง่จริงๆ โง่ไม่ต้องหาอะไรเปรียบเลย
เมื่ออาหารมา เธอกลับกินมันไม่ลง ใบหน้าหมองเศร้าจนเพื่อนของเธอต้องคีบหมูใส่จานของเธอให้
“กินซะ เรื่องผัวแกก็ลืมๆ ไปก่อน หัดดูแลตัวเองบ้าง รู้ไหมใบหน้าแกซีดเซียวมาก”
“จริงเหรอแก” ชลันธรรีบจับใบหน้าตัวเองทันที หรือเพราะเธอไม่สาวไม่สวยเหมือนเก่า เขาเลยเบื่อไปหาคนอื่น
“จริง” อนงนาถไม่โกหกเพื่อน เดี๋ยวนี้ชลันธรไม่น่ารักเหมือนแต่ก่อน ใบหน้าซีดเหมือนคนไม่ได้นอน แล้วก็ชอบอมทุกข์ ไม่ค่อยเฮฮาแบบเมื่อก่อนแล้ว
“ฉันต้องดูแลตัวเอง” ชลันธรคิดได้ดังนั้นจึงอยากทำตัวให้สดใสร่าเริงเหมือนเก่า เผื่อว่าสามีของเธอจะกลับมารักเธออีกครั้ง เหมือนที่เขาตกหลุมรักเธอในครั้งแรกที่เจอ
“เออ...ดีแล้ว” อนงนาถรู้สึกดีขึ้นที่เพื่อนจะหันมารักตัวเองบ้าง เอาแต่รักผัวลับแบบนั้น เธออยากจะพบหน้าคนที่เธอบอกว่าไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน แต่เพื่อนเธอกลับบอกว่าเป็นความลับ เพราะสามีเธอไม่อยากให้เปิดเผย
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ก็ไม่อยากคาดคั้น เพราะเป็นเรื่องราวของเพื่อน ก็เลยปล่อยให้เพื่อนตัดสินใจเองดีกว่า
“แก เดี๋ยวกินเสร็จกลับเลยนะ ฉันรู้สึกปวดหัว” ชลันธรบอกกับเพื่อน ทั้งก่อนกลับก็แวะร้านยาในห้างซื้อยาแก้เวียนหัวและคลื่นไส้ ไม่รู้ช่วงนี้เครียดเกินไปหรือเปล่า แต่เธอก็มีอาการมาสักอาทิตย์กว่าๆ
“ได้ แกก็พักผ่อนบ้างก็แล้วกัน” อนงนาถเป็นห่วงเพื่อน แต่ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้นัก เพราะว่าเพื่อนเธอค่อนข้างหวงพื้นที่ส่วนตัว ไม่อยากให้ใครก้าวก่าย
ชลันธรถึงบ้านโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาถึงได้อย่างไรด้วยซ้ำ เธอเหม่อลอยตั้งแต่นั่งรถกลับ จนเปิดประตูคอนโดนั่นแหละที่เธอรับรู้ว่าตัวเองมาถึงห้องแล้ว
วันนี้เธอไม่ได้กลับไปอยู่คอนโดของเขา ที่เคยอยู่เหมือนทุกวัน เธอเลือกกลับมาคอนโดตัวเอง ที่ห้องเล็กกว่า มีเพียงห้องนอน ห้องน้ำที่ให้พออยู่เพียงคนเดียว
ตอนแรกเขาอยากให้เธอขายที่นี่ แล้วไปอยู่กับเขาถาวร แต่เธอไม่รู้ว่าอนาคตเป็นอย่างไร จึงเก็บมันไว้ก่อน ที่จริงก็เผื่อวันหนึ่งที่เธอและเขาทะเลาะกัน เธอจะได้มีที่ไปก็แค่นั้นเอง
ร่างที่เหมือนไร้วิญญาณเดินไปที่หน้ากระจก เพื่อมองสภาพตัวเอง เธอรับรู้ได้ทันทีว่า ความสาวความสวยมันอยู่กับเธอได้ไม่นานจริงๆ
ตอนแรกที่เขาหลงชอบเธอก็คงเพราะความสดใสน่ารัก แต่เดี๋ยวนี้มีคนที่ดีกว่า เด็กกว่า เหมาะสมกว่าเขาก็พร้อมจะสลัดเธอทิ้งเหมือนกัน
เธอล้างหน้าล้างตาให้ตัวเองสดชื่น แล้วก็เดินไปเปิดลิ้นชักหยิบเอาใบทะเบียนสมรสขึ้นมา เพราะว่าเป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่า ตัวเองได้เป็นเจ้าของเขา
เธอมองมันอยู่นาน จนรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มเปลี่ยนไป อาการคลื่นไส้มาอีกแล้ว
อึก...อ๊วก...อ๊วก...!
ร่างเล็กโก่งคออ๊วกใส่ชักโครก แต่ว่ามันแทบไม่มีอะไรออกมาเลย
“โอ๊ย...นี่ฉันเครียดเรื่องคุณมากไปใช่ไหมคุณนาคิม” เธอบ่นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทรุดร่างลงที่พื้นห้องน้ำเพราะตัวเองนั้นเดินไม่ไหว
นาคิมพาพิมรฐาไปซื้อเครื่องประดับ และระดับไฮโซแบบเธอก็คงจะเลือกที่มูลค่าเรือนแสนเป็นเรื่องธรรมดา
“พี่คิม อันนี้เหมาะกับรฐาไหมคะ” เสียงเล็กเสียงน้อยของหญิงสาวที่ถูกตามใจโดยชายที่เธอหมายปองมานาน เอ่ยถามอย่างน่ารัก
“สวยมากครับ” เขาตอบแค่นั้นแล้วก็หยิบบัตรส่งให้พนักงานพร้อมกับรูดมันด้วยวงเงินเต็มจำนวน
เงินที่จะจ่ายกับสิ่งฟุ่มเฟือยแบบนี้เขามีได้ไม่จำกัด แต่เพราะเขาไม่เคยจ่ายให้กับใครต่างหาก กับชลันธรเธอไม่เคยเรียกร้องอยากได้ของแพงๆ เพียงขอเวลาที่เธอจะได้อยู่กับเขา ช่างแตกต่างกันเสียจริง
เขาเป็นผู้ชายที่จีบใครไม่เป็น เขาอยากได้ชลันธรก็รุกเอาเลย แล้วก็ดีที่เธอมีใจตรงกับเขา เวลาอยู่กับเธอทำให้เขาคิดว่าได้เหมือนอยู่บ้านจริงๆ
บ้านที่อยู่แล้วสบายใจไม่ต้องคิดเรื่องใด บ้านที่อยู่แล้วไม่มีความเครียด ต่างจากที่กลับบ้านแท้จริงของตัวเอง ที่คอยเป็นโน้นเป็นนี่ตามแต่มารดาสั่ง
“กลับกันเลยนะครับพอดีพี่มีงาน” นาคิมตัดบทให้เร็วที่สุด เขาไม่ชอบที่จะต้องอยู่กับพิมรฐานานนัก
“ไปฟังเพลงกับรฐาหน่อยไหมคะ” หญิงสาวเอียงคอถามเขา รอยยิ้มที่โปรยด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนได้เห็นเป็นต้องหลงรักทุกราย
“ไม่ดีกว่าครับ พี่มีงานสำคัญ” เขาตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่คิดใดๆ นั่นทำให้พิมรฐาไม่สามารถดึงดันเขาไว้ได้อีก
‘ผู้ชายคนนี้มีหัวใจหรือเปล่า’ เธอออกจากหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ตื้อเดี๋ยวเรียกเพื่อนมาดื่มกันก็ไม่เห็นเป็นอะไร
กับเขาค่อยๆ สานความสัมพันธ์ก็คงไม่สาย เพราะคุณหญิงแม่ของเขา อย่างไรก็หมายมั่นปั้นมือให้เธอเป็นลูกสะใภ้อยู่ดี
“ก็ได้ค่ะ แต่ว่าคราวหน้า ห้ามปฏิเสธรฐาแล้วนะคะ”
“ครับ” เขาตอบสั้นๆ
หลังจากส่งพิมรฐาที่หน้าบ้านแล้ว เขาก็ขอตัวกลับทันทีโดยไม่ต้องลงรถไปส่งเธอ มือหนาของเขาหยิบโทรศัพท์โทรหาชลันธร เขารอสายอยู่นานกว่าเธอจะรับ
ชลันธรได้ยินเสียงโทรศัพท์ แต่ว่าเธอไม่ค่อยมีแรงจึงพยายามพยุงตัวขึ้น แล้วก็เดินไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับ
“ค่ะ” เสียงเธอกรอกไปตามสาย
“อยู่ไหน” เขาถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทันที เพราะไม่ชอบการรอใครนานๆ
“กลับมาคอนโดค่ะ ไม่ได้อยู่นานเลยมาทำความสะอาดสักหน่อย” เธอบอกเขา
“ผมบอกให้ขายตั้งนานแล้ว” เขาหงุดหงิดทันที เพราะไม่อยากให้เธอไปอยู่ห้องเล็กเท่ารูหนูนั่น แต่เด็กดื้ออย่างชลันธรก็ยังไม่ยอมขายสักที
“เสียดายค่ะ อยู่มาตั้งนาน เก็บไว้ก่อนเถอะ”
“ตามใจ ผมจะกลับทีเดียวเย็นวันจันทร์เลยนะ”
“ค่ะ”
สิ้นเสียงตอบรับ เขาก็กดสายวางทันที ทั้งที่ตัวเองอยากจะถามเขาเหลือเกินว่าอยู่ไหน แต่เธอก็ไม่ทันได้ถามไป
ชลันธรมองโทรศัพท์ตัวเองด้วยแววตาสับสนหม่นเศร้า เขารักเธอบ้างหรือเปล่า คำนี้ดังก้องในหัว อยากรู้จริงๆ ว่าเขากับเธอตอนนี้ตกลงแล้วเรามีสถานะอะไรกันแน่
หญิงสาวคิดได้ไม่นานเท่าไหร่ อาการคลื่นไส้ก็มาอีกครั้ง เธอวิ่งไปอ๊วกในห้องน้ำ เรียกได้ว่าคืนนั้นทั้งคืนเธอแทบจะลากหมอนมานอนในห้องน้ำ
ร่างเล็กตื่นอีกทีก็เป็นช่วงบ่ายวันเสาร์ เธอหมดแรงไม่แม้สามารถลุกขึ้นด้วยซ้ำ มือเล็กควานหาโทรศัพท์เพื่อกดหาเบอร์อนงนาถ ซึ่งน่าจะรับสายเธอมากที่สุดแล้ว
“ว่าไงยัยธร” อนงนาถรับสายปกติ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสาว
“ฉันไม่สบาย แกอยู่ไหนซื้อข้าวมาให้ฉันหน่อย”
“ไหวไหม เดี๋ยวฉันไปหาอยู่ไหน” เพราะไม่แน่ใจว่าเพื่อนอยู่ที่ไหน แต่เดาว่าไม่น่าจะอยู่กับสามีลับแน่นอน
“คอนโดเก่า” เสียงของเธอตอบไป ก่อนจะฟุบหลับไปอีก
คอนโดเก่าของชลันธร อนงนาถก็มีกุญแจ เพราะเมื่อก่อนหลังจากชลันธรมีแฟน ก็อยู่ห้องบ้างไม่ได้อยู่บ้าง อนงนาถก็เลยถือกุญแจไว้ เผื่ออยากมานอนค้าง
แต่วันนี้เพื่อนโทรมาบอกอยู่คอนโดเก่า แถมไม่สบายคนเป็นเพื่อนอย่างอนงนาถก็อดห่วงไม่ได้
เมื่อถึงห้องของชลันธร อนงนาถก็เดินเข้าไปหาเพื่อนทันที
“ไหวไหม ไปโรงพยาบาลกัน” สภาพเพื่อนตอนนี้ดูไม่ได้เลย
“ฉันอ๊วกทั้งคืน”
“เป็นอะไรวะ ไม่เคยเห็นแกป่วยอย่างนี้ ไปโรงพยาบาลเถอะ” อนงนาถลากเพื่อนขึ้นมา แต่เหมือนเพื่อนก็เวียนหัวแล้วก็เป็นลมลงไปอีก
“เห้ยแก อย่างเพิ่งสิ ลุกขึ้นมาก่อน” อนงนาถตกใจ แต่ไม่รู้ทำยังไงดีจึงเรียกรถพยาบาลมาที่คอนโด เพื่อเอาร่างเพื่อนที่ไร้สติไปหาหมอ
อนงนาถอยากบอกกับสามีลับๆ ของชลันธร แต่ทว่าเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ตอนนี้ก็เลยมีแค่เธอคนเดียวที่อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
นาคิมสะสางงานเสร็จก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน เขารู้สึกแปลกๆ เพราะว่าชลันธรไม่ส่งสติ๊กเกอร์คิดถึงมาเหมือนเมื่อก่อน แต่ว่าตอนนี้ก็เย็นแล้วทำไมเงียบไปผิดปกติ
เขาโทรหาเธอแต่เธอก็ไม่รับ
“ไปไหนนะ”
ชลันธรได้รับการตรวจจากหมอ แล้วเธอก็ต้องพบกับข่าวใหม่ที่น่ายินดี
‘คุณท้องได้สองเดือนแล้วครับ’ เสียงคุณหมอยังก้องในโสตประสาท รอยยิ้มของเธอผุดขึ้นทันที เพราะอยากมีลูกมานานแล้ว
“ไหวไหม” อนงนาถถามเพื่อนขณะเดินพยุงกลับมาที่คอนโด
เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เพราะจะไม่ไหวได้อย่างไร ในเมื่อเธออยากมีลูกมาตั้งนานแล้ว
“แกจะโทรบอกเขาไหม”
“ยัง ไว้คุยกับเขาเองเลยดีกว่า”
“ก็ดี ดูแลตัวเองนะ กำลังท้องอ่อนๆ” อนงนาถบอกกับเพื่อน ก่อนออกไป
หญิงสาวนั่งลูบท้องตัวเองอย่างแผ่วเบา ก่อนพูดกับลูก
“มาอยู่กับแม่นะลูก”