เธอคิดจะมีปัญหากับเขาเหรอ?

1173 คำ
“ของขวัญเจ้าอ้วน น่ารักจัง” เธอเอ่ยคำนั้น ก่อนที่จะเห็นผู้ชายห้าคนเดินเข้ามาในร้านราวกับทหารในกองทัพ เธอหันไปมองศจีมาศกับสามีชาวกรีซ...อัลเฟรด จาโคมิน ที่กำลังเดินออกมาจากในครัวพร้อมกับพิชซ่าจานใหญ่ พวกเขามีสีหน้าไม่ต่างจากหญิงสาวเท่าใดนัก งุนงง สงสัย...ที่มุมหนึ่งของร้านยังมีผู้ชายอีกคน รูปร่างผอมกะหร่อง ตาโปนๆ ยืนเช็ดแก้วน้ำอยู่ หมอนั่นหน้าซีดเผือด เธอเดาว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟจากครีตที่พี่ศจีมาศพูดถึง “แม่ฮะ พวกมันมาอีกแล้ว” เสียงตะโกนนั้นมาจากปากของเด็กชายเจ้าของงาน ที่เพิ่งจะลงมาจากชั้นสองของบ้าน ด้วยชุดสูทสีขาว ผูกหูกระต่าย เขาเดินมาหยุดฝีเท้าข้างๆ หญิงสาวที่เชิงบันได “ไล่พวกมันไปสิฮะพ่อ” เด็กชายทำหน้าเกรี้ยวกราด “แม่ฮะ เราไม่ได้เชิญคนเลวพวกนี้มาใช่ไหมฮะ” มาลินีหันไปมองศจีมาศ ตอนนี้แม่ของเจ้าหนูกำลังทำสีหน้าเหมือนเห็นคางคกถูกรถทับตายอยู่ตรงหน้า ส่วนอัลเฟรดที่มีใบหน้าเรียบเฉย เขาดูจะไม่สะทกสะท้านสักเท่าไหร่ แม้ดวงตาจะดูเกรงกลัวอยู่บ้าง หญิงสาวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รับรู้ว่ามันเป็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะดีนัก เธอหันไปจ้องมองพวกคนเลวที่เจ้าหนูตราหน้า “คนพวกนี้ ทำไมคุ้นหน้าจังเลย เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน” หญิงสาวจ้องพลางครุ่นคิด หากเพียงไม่นานนัก เมื่อไอ้คนที่ยืนอยู่หน้าสุดถอดแว่นสีดำออกจากดวงตาคมดุ เจ้าหล่อนถึงกับตาเหลือก หน้าค้าง ยิ่งพอได้เห็นชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอจำได้แล้วว่าหมอนั่นคือคนที่พูดจาสุภาพ ส่วนไอ้คนหน้าสุดก็คือไอ้หยาบคายที่ผลักเธอออกจากหน้าประตูโรงแรมนั่นเอง “พระเจ้า พวกนี้มานี่ทำไม” เธอหันไปมองครอบครัวจาโคมินด้วยความแปลกใจระคนสงสัย พวกเขาคบกับคนประเภทนี้ด้วยเหรอ พวกอันธพาลครองเมือง ไร้วัฒนธรรม ไร้ความเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำไป “กลิ่นของความชั่วร้าย ระงมไปหมด จะต้องมีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นแน่” หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย หันกลับมามองกลุ่มคนสวมสูทไร้มนุษยธรรม เธอพยายามจะมองว่าหัวหน้าจอมเผด็จการของพวกมันมาด้วยรึไม่ แต่ก็ว่างเปล่า ดูเหมือนจะแค่ส่งคนมาเบ่ง ลุยจิวางกระเป๋าใบใหญ่ลงบนโต๊ะอย่างไม่ระวัง จนทำให้เค้กก้อนใหญ่ที่เพิ่งจะทำเสร็จเมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว มีอันต้องพังทลายไปส่วนหนึ่ง เจ้าของงานถึงกับอุทานเสียงดังไปทั้งร้าน “นี่คือเงินหนึ่งล้านยูโร” สองผัวเมียมองหน้ากัน ก่อนจะถอนหายใจ แล้วส่ายหน้าด้วยความเวทนาใจอย่างเหลือกำลัง ศจีมาศทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขณะที่สามีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาดๆ “ได้โปรด เราไม่สามารถทิ้งบ้านของเราได้ ที่นี่เป็นบ้าน” ลุยจิตบโต๊ะดังปัง จนเจ็บมือ ต้องรีบซ่อนไว้ด้านหลังด้วยความรวดเร็ว “ถ้าพวกแกไม่เอาเงินนี่แล้วย้ายออกไป ครอบครัวของพวกแกจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุขแน่” เองเกิลเบิร์ลอบถอนหายใจอย่างระอา เขาเบื่องานนี้เต็มแก่แล้ว พอๆ กับแอนเดรียเพื่อนรักนั่นละ เขาหันไปมองหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่ที่ทางขึ้นบันได สีหน้าดุดันของเจ้าหล่อนทำให้เขาตกใจในตอนแรก หากก็ต้องตะลึงในเวลาถัดมา แล้วก็มองตาค้าง ก่อนจะสะกิดเพื่อนรัก “เธอ” แอนเดรียกระซิบตอบว่า “ใช่ ผู้หญิงที่ถูกวิกเตอร์โยนออกจากโรงแรม” “พวกแกจะต้องซวย” เสียงกังวานของลุยจิดังกลบทุกเสียงในร้าน ดังสนั่นจนทำให้หนุ่มครีตตกใจ ทำแก้วในมือหล่นลงแตก ยิ่งทำให้เจ้าของเสียงผยองเข้าไปใหญ่ “บ้านกระจอกแบบนี้ แลกกับเงินตั้งล้านยูโร นี่ก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว เจ้านายของฉันไม่อยากให้อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเขาต้องมามัวหมองเพราะร้านขนมอบบ้าบอนี่” สองผัวเมียจับมือกันแน่น คราวนี้เป็นศจีมาศที่พูด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ไปบอกเจ้านายของคุณเถอะ เราขอเวลาอีกหน่อย เรายังย้ายออกไปในเร็วๆ นี้ไม่ได้” ลุยจิทำท่าเดือดดาล “แต่เจ้านายของฉัน ต้องการให้พวกแกออกไปวันนี้เลย เขารกหูรกตามานานแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เราส่งคนมาเจรจามากกว่าสามครั้งแล้ว หมดเวลาต่อรองแล้วไอ้พวกต่างชาติ” มาลินีพยายามจะสงบจิตสงบใจให้ได้มาตลอดตั้งแต่ที่คนเลวพวกนี้เข้ามาในร้าน พอถึงวินาทีนี้ เธอไม่อยากจะทนอีกแล้ว เธอขยับเท้า เดินไปหาศจีมาศ “อย่ายอมพวกมันนะคะพี่ศจี อย่าปล่อยให้อิทธิพลมาอยู่เหนือกฎหมาย นี่เป็นบ้านของพี่ ไม่มีใครจะมายึดไปได้หรอกค่ะ” สีหน้าของศจีมาศเหนื่อยระอา “เราพยายามมาตลอด ตั้งแต่เมื่อประมาณสามเดือนก่อน ที่อธีนากรุ๊ปมากว้านซื้อโรงแรมแถวนี้ไปเกือบหมด รวมทั้งที่ดินของนักธุรกิจรายย่อยเกือบทั้งหมดด้วย คนพวกนี้มันใหญ่โตมากจริงๆ เขาไม่ได้มีแต่เงิน แต่เขามีอำนาจด้วย เราต้องต้านไม่ไหวแน่ เราอาจจะต้องเสียบ้านไปในไม่ช้า” เจ้าอ้วนปั้นหมัด ทำหน้าโหด พอเห็นว่าเจ้าลุยจิจิ้มเค้กขึ้นมาเลียกินอย่างเสียมารยาท “ผมจะไล่ไอ้หมูอันธพาลพวกนี้ออกไปให้หมดเลย” หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น หันกลับมาหากลุ่มชายฉกรรจ์ เธอเดินมาจับบ่าของเด็กชายไว้ เพื่อให้หยุดอยู่ที่เดิม ส่วนตัวเธอเองที่เดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าเจ้ายักษ์อันธพาลตัวใหญ่ ขี้กร่าง เธอเงยหน้ามองอย่างไม่นึกหวาดกลัว มองหน้าหาเรื่องเหมือนกับที่เจ้านายของเขาทำใส่เขาเป็นประจำ หมอนั่นมีแววตาที่ตระหนกพอสมควร เมื่อได้เห็นเจ้าของเล็บที่กระหน่ำข่วนใบหน้าของเขาจนเละเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา แบบใกล้ชิดขนาดนี้อีกครั้ง “ใครไม่เกี่ยว ถอยไป” หญิงสาวยิ้มมุมปาก สีหน้าไม่สะทกสะท้าน เท้าสะเอว ส่งสายตาพิฆาตไปที่เจ้ายักษ์อย่างไม่หวาดหวั่น “เธอคิดจะมีปัญหากับวิกเตอร์ ออปเปนไฮน์อย่างนั้นเหรอ” เจ้าหล่อนหัวเราะ มันหน้าค้าง ไอ้พวกข้างหลังที่เหลือจ้องเธอเป็นตาเดียว แต่เงียบกริบ “แล้วตอนนี้ วิกเตอร์ ออปเปนไฮน์ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนล่ะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม