คิดว่ากลัวเหรอพวกมาเฟียเถื่อน

1084 คำ
“ฮึ! ว่าไง มันอยู่ที่ไหน” น้ำเสียงเย้ยหยันนั่น บอกชัดว่าไม่ได้สนใจอำนาจของชายหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลของกรีซเลยสักนิดเดียว “หรือว่าในตูดวัว” “นังนี่” เธอเท้าสะเอว จ้องจนดวงตาสีน้ำเงินถลน “ไปบอกเจ้านายปัญญาอ่อนของพวกแก ไม่เพียงแต่ชาตินี้เท่านั้น เพราะต่อให้เป็นชาติหน้าก็จะไม่มีใครย้ายออกจากที่นี่ทั้งนั้น บอกเขาให้ไสหัวออกไป แล้วก็อย่าได้ส่งหมูที่ไหนเข้ามาเหยียบในนี้อีก ออกไปเดี๋ยวนี้” แอนเดรียกับเองเกิลเบิร์ตแอบหันหน้ามองกันแล้วยิ้มจนใบหน้าสว่าง ถูกของเธอ “เจ้านายปัญญาอ่อน” แต่สำหรับลุยจิแล้วนั้น เขาตกใจจนตาลุกวาว อีกแล้วนะ ที่ยัยผู้หญิงสกปรกคนนี้ด่าเจ้านายของเขาอย่างเจ็บแสบ เขายกนิ้วชี้ที่สั่นเทาแตะจมูกเลียนแบบเจ้านายผู้เป็นไอดอล “คงไม่อยากหายใจแล้วสิ” เธอยกไหล่ “เอาคำถามนี้ กลับไปถามเจ้านายของนายสิ” “เธอเป็นใคร เกี่ยวอะไรกับบ้านหลังนี้” เจ้าอ้วนรีบแทรกบอกด้วยความรวดเร็ว “เป็นแฟนของผมเอง มีปัญหาเหรอ” ลุยจิหัวเราะหึ ๆ เพื่อให้ดูน่ากลัว “ไอ้เด็กปัญญาอ่อน” ว่าแล้วก็ปัดถาดเค้กจนตกลงบนพื้น มันทำให้ทุกคนตาค้าง ตกใจ และนึกไม่ถึง โดยเฉพาะหญิงสาวที่กำลังต่อสู้อยู่กับชายฉกรรจ์ที่ตัวโตกว่าสามเท่า ความโกรธทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำเหมือนถูกไฟเผา ยิ่งพอได้ยินเสียงร้องไห้โฮของเจ้าอ้วนที่ตะเบ็งออกมาอย่างไม่อาย ความอดทนอย่างแสนสาหัสก็พลันขาดผึง “ไม่ต้องฉลองหรอกวันเกิด เลี้ยงส่งให้กับบ้านโทรม ๆ หลังนี้จะดีกว่า” หญิงสาวขยับเท้าไปใกล้กับถาดเค้ก แล้วนั่งยองๆ ลง หยิบเค้กก้อนนั้นขึ้นมาก้อนหนึ่ง มันใหญ่กว่าฝ่ามือของเธอเล็กน้อย เธอยืนขึ้นอีกครั้ง เป่าลมออกจากปากเบาๆ ชายสวมสูททั้งห้า มองเธอเป็นตาเดียว เธอกำลังจะทำอะไร หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรเลยนอกจากคำว่า “หลีกไป” ทั้งลุยจิและพวกที่เหลือ ไม่ได้หลีกให้เธอ แต่เจ้าหล่อนสาวเท้าเดินผ่านออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว นั่นเพราะเธอเห็นแล้ว มีใครบางคนกำลังจะเดินเข้ามาในร้าน เธอคิดว่ามันเป็นโอกาสงามทีเดียว ที่ควรจะคว้าเอาไว้ “เฮ้ย...เมื่อไหร่พวกแกจะ...” เขาหยุดเพียงเท่านั้น นั่นเพราะมีเค้กโปะเต็มใบหน้า โดยเฉพาะปากที่อ้าค้าง ชายหนุ่มไม่ยอมขยับตัวอีกเลย นั่นเพราะเขากำลังทบทวนอยู่ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือแค่สิ่งที่เขาจินตนาการขึ้นกันแน่ หากแต่เพราะรสชาติของเค้ก ก็ทำให้เขาตื่น “พระเจ้า!!!” นั่นไม่ใช่เสียงอุทานของเขา แต่เป็นของพวกบอดี้การ์ดที่กรูกันเข้ามาหาเจ้านาย หลังจากที่หายตกใจกันแล้ว “เจ้านายครับ” “ออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!!!!!!” เสียงตะโกนอันสั่นเทา ดังก้องไปทั่ว เขากำหมัดแน่น จ้องมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงบานประตูอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ รอยยิ้มของเจ้าหล่อนดูออกว่าสะใจอย่างล้นเหลือ เธอกำลังดูดนิ้วชี้ของตัวเอง เลียเอาครีมขาวข้นที่ติดเต็มมือเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย “ยัยสกปรก เธอตายแน่!!!” เธอแลบลิ้นใส่เขาแล้วปิดประตูด้วยความรวดเร็ว เธอทำหน้าเย้ยหยันผ่านกระจกอย่างไม่เกรงกลัว วิกเตอร์สะบัดแขนจนลูกน้องหลุดกระเด็นไปคนละทาง เดินไปหยุดอยู่หน้าประตู มองเจ้าหล่อนผ่านกระจกใส แล้วตะโกนไม่หยุด “ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่ฉันจะพังร้านเข้าไป!!!” หญิงสาวทำหน้าล้อเลียนเขา จนทำให้เขาเลือดขึ้นหน้า ทุบประตูไปหลายครั้งจนมือเจ็บ “ออกมาเดี๋ยวนี้ยัยลิงบ้า!!!!” “ออกไปให้โง่เหรอ ไอ้ปิศาจปัญญาอ่อน ไอ้ผีดิบดูดเลือด” เขาอ้าปากค้าง ชี้หน้าเธอด้วยมืออันสั่นเทา ตอนนี้ความโกรธพุ่งเต็มสมองไปแล้ว พระเจ้า เขาไม่เคยถูกด่าด้วยคำหยาบคายขนาดนี้มาก่อน แม้จะเคยถูกด่าลับหลังก็เถอะ ไม่เคยมีใครกล้าด่าเขาต่อหน้าขนาดนี้ เขาต้องอกแตกตายแน่ถ้าไม่ได้จัดการกับผู้หญิงบ้าคนนี้ “ฉันฆ่าเธอแน่!!!!” เธอทำหน้าเวทนา “ฉันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว กลัวจังเลย” เธอพูดพร้อมกับทำท่าสั่นสะท้านไปทั้งตัวเหมือนคนจรนอนหนาวข้างถนน “แต่ขอโทษ คนอย่างฉัน ไม่มีวันตายเพราะมือสกปรกๆ ของนายหรอก อย่าฝันไปหน่อยเลยน่า ไอ้โรคจิต!!” “เธอสิโรคจิต!” “นายต่างหากโรคจิต ประสาทเสีย ไม่มีที่อยู่รึไง หรือว่าไม่มีอะไรทำ ถึงได้ว่างมาวิ่งไล่ชาวบ้านตาดำๆ ให้ออกไปจากบ้านของตัวเอง ปัญญาอ่อนรึไง พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน ไร้คุณค่า ถ้าเกิดมาแล้วไร้ประโยชน์ขนาดนี้ก็ไปตายซะ” เขากัดกรามจนแน่น ใบหน้าสั่นเทาจนเห็นชัด ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือกโปน “รับรองเลยว่าเธอจะต้องกระเด็นออกจากประเทศนี้ไปไม่เกินสิบชั่วโมง” หมอนั่นพูดจบก็หันหลังขวับ เดินด้วยความรวดเร็วกลับไปยังรถคันยาวที่แสนหรูหราและราคาแพงระยับ เหล่าสมุนรีบตามเจ้านายไปขึ้นรถด้วยความรวดเร็วไม่แพ้กัน กระนั้น เจ้าหนุ่มเองเกิลเบิร์ตก็ยังหันกลับมาแล้วส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร รถคันนั้นยังคงจอดนิ่ง แม้คนจะขึ้นไปจนครบแล้วก็ตาม หญิงสาวมองด้วยสายตาหยามเยาะ ปัดไม้ปัดมือด้วยความสะใจ “เป็นไงล่า เล่นกับใครไม่เล่น” ศจีมาศเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของหญิงสาว สีหน้านั้นมากว่าความกังวลเสียแล้ว เมื่อเธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น “ญาญ่า เธอไม่น่าไปมีเรื่องกับเจ้าหนุ่มนั่นเลย เขาต้องไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ฉันจะทำยังไงดี” หญิงสาวหันกลับมามองทุกคนที่ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นไร้ชีวิต สีหน้าของทุกคนตกอยู่ในภวังค์เดียวกัน เว้นก็แต่เจ้าหนูน้อยแก้มแดง ที่ยกนิ้วโป้งแสดงความยินดีแก่หญิงสาว “พี่ญาญ่าสุดยอดไปเลย ต่อไปนี้เราไม่ต้องกลัวหมอนั่นแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม