หลายวันต่อมา
1.23 pm.
"เห็นรุ่นพี่จบเราเองก็อยากจะจบแล้วแหละ"
"ใจเย็นมึงเราเพิ่งจบมอสี่"
ฉันยิ้มมองเบลและแพทที่กำลังคุยกันหลังจากที่เราเพิ่งจะบูมรุ่นพี่เสร็จ และวันนี้คือวันปัจฉิมของรุ่นพี่มอหกแล้ว และบรรดารุ่นน้องก็ต่างเตรียมของขวัญมาแสดงความยินดีในวันนี้กันซะล้นโต๊ะ ยกเว้นฉันที่มีเพียงกล่องของขวัญเพียงแค่กล่องเดียวที่เตรียมมา
"แล้วหยกจะได้เอาของขวัญให้พี่โซ่ไหมอ่ะ?"
ทิวที่กำลังนั่งกินไอศกรีมอยู่ข้างๆฉันหันมาถามด้วยความสงสัย และมันไม่ต่างจากฉันที่กำลังสงสัยอยู่เช่นกัน
"นั่นสิ" ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ "ตอนบูมรุ่นพี่ไม่เห็นพี่โซ่เลย"
"ไม่ใช่พี่แกไม่มาอีกเหรอเขาออกจะติสท์แตกขนาดนั้น"
เบลว่าขณะที่กำลังทาลิป
"หยกชอบพี่โซ่เหรอ?"
ฉันเลิกคิ้วมองแพทที่เอ่ยถามก่อนตัวเองจะพยักหน้า
"ใช่"
เพื่อนๆต่างเบิกตามองฉันด้วยความตกใจหลังจากที่ฉันตอบพวกเขาไปแบบนั้น
"พี่โซ่ช่วยเราไงครั้งนั้นเราเลยคิดว่าเราชอบเขา"
"ชอบเพราะว่าเขาช่วยหยก?" ฉันพยักหน้าตอบทิว นั้นทำเอาทิวกุมขมับทันที "หยกต้องเรียกว่าปลื้มไม่ใช่ชอบ"
"แล้วมันต่างอะไรกับชอบล่ะ?"
"ชอบในความหมายที่แพทถามคือชอบแบบอยากได้เป็นแฟนอ่ะ "
"แฟน" ฉันขมวดคิ้วมองเพื่อนๆที่กำลังพยักหน้าก่อนจะยิ้มบางๆ "หยกไม่เข้าใจความหมายของคำว่าแฟนอ่ะ เรายังเด็กกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?"
"ฮ่าๆ" เบลหัวเราะเสียงดังลั่นจนต้องกุมท้องไว้ "ทำไมหยกมันน่ารักขนาดนี้วะเนี้ย!?"
"จริงน่าบีบไปหมด"
แพทเอื้อมมือมาบีบแก้มฉันเบาๆด้วยความมันเขี้ยว แต่นั่นมันกลับทำให้ฉันยิ่งงงไปหมด
"แล้วหยกไม่อยากคบกับพี่โซ่เหรอ แบบกุ๊กกิ๊กกันงี้"
ฉันมองเบลด้วยแววตานิ่งๆ เพราะตัวเองกำลังคิดอยู่ว่ากุ๊กกิ๊กแบบแฟนนี่ยังไง
"เคยใจเต้นแรงเพราะพี่โซ่ไหมล่ะ?"
แพทถามอีกฉันจึงค่อยๆพยักหน้า เพราะเคยใจเต้นแรงจริงๆ
"เราใจเต้นแรงเพราะเราดีใจที่พี่โซ่กินขนมที่เราทำให้"
"ใช่เหรอ?"
"เวลาพี่เขายิ้มเราก็ชอบนะ"
เพื่อนๆต่างยิ้มให้ฉันด้วยความเอ็นดูก่อนเบลจะขยับมาใกล้ๆ เพื่อกระซิบฉัน
"เบลว่าหยกชอบพี่โซ่เอามากๆเลยนะ"
"จริงเหรอ?"
"ไปบอกรักเลยลองดู"
ฉันมองแพทที่บอกแบบนั้นก่อนหันมองเพื่อนอีกสองที่กำลังพยักหน้าเห็นด้วย
"แต่พี่โซ่ไม่รู้อยู่ไหนน่ะสิ"
"งั้นเราก็ช่วยกันหา ไปเร็วแยกย้ายเพื่อความรักของน้องหยก!"
เบลว่าเสียงดังพร้อมกับขยับลุกทำให้ฉันและเพื่อนอีกสองต้องลุกตาม ฉันจับกล่องของขวัญตัวเองไว้แน่น
"ถ้าใครเจอพี่โซ่ก็โทรบอกหยกนะหยกจะได้ไปหา"
"โอเคเจอกัน!"
ฉันพยักหน้าและรีบเดินตามเพื่อนออกจากห้องเรียนเพื่อไปหาพี่โซ่ ซึ่งที่แรกที่ฉันไปหาเลยคือที่ชั้นดาดฟ้า แต่กลับไม่มีเพราะตอนนี้คนขึ้นมาถ่ายรูปข้างบนเยอะมากอ่ะ..ในโรงเรียนพี่โซ่อยู่ไม่กี่ที่นะ ไม่อยู่ดาดฟ้าก็แอบไปนอนที่ห้องพยาบาล แต่ไม่กี่นาทีก่อนทิวเพิ่งโทรมาบอกว่าไม่เจอ ที่สวนที่เบลไปหาก็ไม่เจอ ที่โรงอาหารที่แพทไปหายิ่งแล้วใหญ่
"รึจะไม่มาจริงๆ"
ฉันพูดคนเดียวและก้มมองกล่องของขวัญในมือตัวเองอีกครั้ง ของขวัญจะได้ส่งถึงมือเจ้าของมันไหมนะ
ฉันเดินลงมาจากชั้นดาดฟ้าด้วยหัวใจห่อเหี่ยว ก่อนจะเลี้ยวเดินไปทางห้องดนตรีขณะที่สายตาก็ยังคงมองกล่องของขวัญไปตลอดทาง...รู้งี้ฉันให้เขาตั้งแต่เมื่อวานก็ดีหรอก
พรึ่บ!
ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจพร้อมกับตัวเองที่โดนดึงเข้าไปในห้องดนตรี และทันทีที่ลืมตาขึ้นฉันก็เห็นพี่โซ่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
"ไง..เธอหาพี่อยู่เหรอเด็กเบ๊?"
"พี่โซ่"
พี่โซ่เลิกคิ้วมองก่อนเขาจะยกยิ้มและขยับใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับหัวใจฉันที่กำลังเต้นแรง..มันเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาเลย
"เรียกอยู่นั้นพี่จำชื่อตัวเองได้ครับ"
"ดะดีใจด้วยที่เรียนจบนะคะ!"
ฟึ้บ!
ร่างสูงถอยหลังไปทันที เพราะโดนฉันดันออกเพื่อจะให้ของขวัญซึ่งตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พี่โซ่ขมวดคิ้วมองกล่องในมือฉันก่อนจะเงยหน้ามาสบตากันด้วยความสงสัย
"วันสุดท้ายของการมาโรงเรียนเธอก็ยังจะให้เค้กพี่น่ะนะ?"
"ไม่ใช่นะคะ พี่ต้องเปิดดู"
"อ่า.."
พี่โซ่รับกล่องของขวัญในมือฉันไปก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ในห้องเรียนดนตรี แต่เขากลับต้องหันมามองฉันที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่
"จะไปไหนไหมล่ะถ้าไม่ก็มานั่งนี่"
"ค่ะ"
ฉันตอบรับและรีบเดินไปยกเก้าอี้มานั่งข้างๆพี่โซ่ขณะที่เขากำลังมองกล่องอยู่ เขาแกะมันออกมาและโยนฝากล่องทิ้งลงที่พื้นอย่างไม่ไยดีก่อนจะยิ้มบางๆเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
"เข้าใจซื้อ"
"ชอบไหมคะ?"
"ขอลองใส่ดูก่อน"
พี่โซ่หยิบกำไลเส้นสีน้ำตาลออกมาก่อนยื่นมันให้ฉัน ซึ่งฉันก็รีบเอื้อมมือไปจับและใส่มันเข้าที่แขนเขาและมันก็เข้ากับกำไลเส้นอื่นๆบนข้อมือเขาด้วย...พี่โซ่ชอบใส่กำไลมากเลยนะทุกวันเขาจะใส่มาไม่ซ้ำแบบ
"รู้ได้ไงว่าพี่ชอบสีนี้"
"ก็เส้นที่พี่ชอบใส่บ่อยที่สุดคือเส้นสีน้ำตาลนิคะ"
พี่โซ่หัวเราะเบาๆและหันมามองฉันด้วยรอยยิ้ม
"สงสัยต่อไปเส้นนี้จะเป็นเส้นโปรดของพี่แล้วละ"
ฉันยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ปิดไม่มิดขณะที่พี่โซ่ก็เอื้อมมือมาลูบหัวฉันเบาๆ
"ขอบใจมาก แต่พี่ไม่มีไรให้เธอเลยว่ะ"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะจริงๆวันนี้เป็นวันสำคัญของพี่"
"ก็ใช่"
"พี่โซ่จะต่อที่ไหนเหรอคะ"
พี่โซ่เลิกคิ้วมองฉันก่อนเขาจะขยับขาขึ้นนั่งไขว่ห้างพร้อมเท้าคางมองไปด้านหน้าอย่างเบื่อๆ
"มอเออาร์ล่ะมั้ง"
"นั้นมันไกลมากเลยนะคะ!"
ฉันมองพี่โซ่ตาโต เพราะมหาลัยที่เขาว่ามันไกลมากจริงๆแถมยังเป็นมหาลัยขึ้นชื่อของประเทศอีกต่างหาก...นี่เขาเก่งขนาดไหนเนี้ย!?
"ไกลก็ต้องไปแหละก็มันติด"
"เก่งจังเลยนะคะพี่สุดยอดไปเลย"
"พ่อยัดไปหลายล้านอยู่"
"โถ่" พี่โซ่หัวเราะเบาๆขณะที่ฉันกำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่ "พี่ไม่มีสิ่งที่ชอบเลยเหรอ?"
"ไม่"
"แต่หยกว่าพี่มีสิ่งที่ชอบนะ"
"ล่าสุดเธอรู้ดีไปกว่าตัวพี่เองแล้ว?"
ฉันยิ้มให้พี่โซ่ที่หันมาเบิกตามองอย่างขำๆ
"ก็หยกเห็นพี่ชอบฟังเพลงบ่อยๆ"
"หยกครับทุกคนเขาก็ฟังกันหมด"
"แต่พี่แต่งเพลงด้วยนิ"
พี่โซ่เงียบไปทันทีที่ฉันพูดถึงความลับเขาไปแบบนั้น แต่จะให้ว่ายังไงดีละคือว่าฉันเคยเห็นพี่โซ่นั่งเขียนๆแล้วก็ทิ้งไปทั่วจนไม่ลงถังอ่ะฉันเลยหยิบมาดูแล้วในนั้นมันมีเนื้อเพลงที่ยังแต่งไม่เสร็จอยู่
"รู้ดีไปแล้ว"
"พี่โซ่มีพรสวรรค์นิคะ ใครๆก็อยากเก่งด้านนี้นะทำไมพี่ไม่ลองหน่อยล่ะ?"
"ถ้าลองมีหวังพี่ไม่ได้มรดกแน่ คือพี่ชอบเงินมากกว่าความฝันน่ะนะ"
ฉันเม้มปากมองพี่โซ่ขณะที่เขาก็กำลังยกยิ้มอย่างคนที่ไม่แคร์อะไรตามเคย ฉันก็ไม่มีไรจะพูดแล้วแหละในเมื่อเขาเลือกเองแบบนี้
"แต่เธอรู้ก็ดีพี่คิดอะไรดีๆออกแล้ว"
"อะไรคะ?"
"ก็ในเมื่อพี่ไม่มีอะไรตอบแทนพี่ก็จะตอบแทนเธอด้วยดนตรีไง"
พี่โซ่ขยับลุกเดินขึ้นไปบนเวทีเล็กๆในห้อง และมันมีเครื่องดนตรีหลากหลายเตรียมไว้ให้นักเรียนที่สนใจมาเล่นมากมาย แต่เครื่องดนตรีที่พี่โซ่ไปหยิบคือเบส..เขาคล้องสายมันที่คอและปรับจูนเสียงในเวลาไม่นานก่อนจะเงยหน้ามามองฉัน
ฉันไม่เคยรู้สึกว่าใครเหมาะสมกับเบสตัวนี้มากเท่าพี่โซ่เลยแหละ วันนี้เขาใส่ชุดนักเรียนชายแบบเรียบร้อยเอามากๆ และที่คอก็เต็มไปด้วยขอที่เพื่อนๆน้องๆเอามาคล้องให้ บนเสื้อก็มีสติกเกอร์รูปหัวใจติดเต็มไปทุกพื้นที่ แต่มันไม่ได้ดูรกเลยกลับกันวันนี้เป็นวันที่พี่โซ่ดูดีที่สุดตั้งแต่รู้จักกันเลยก็ว่าได้
"พี่ไม่ชอบเล่นเพลงเพราะงั้นก็อุดหูไว้หน่อยแล้วกัน"
เสียงของเบสมันทุ้มมากค่อยๆดังขึ้นอย่างสุขุมก่อนมันจะไต่ระดับในการบรรเลงในจังหวะที่ทำเอาหัวใจฉันเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พี่โซ่หลับตาแน่นพร้อมกับเอียงใบหน้าถ่ายทอดอารมณ์ของตัวเองลงในจังหวะทุ้มหนักๆของเบส ซึ่งนิ้วของเขามันเร็วมากและยิ่งมากในช่วงสุดท้ายที่พี่โซ่รูดนิ้วไปกับสายของเบสก่อนทุกอย่างจะเงียบสงัดมีเพียงเสียงลมหายใจหนักๆของพี่โซ่ที่กำลังดังอยู่
เพลงเมื่อกี้มันบ่งบอกตัวตนของพี่โซ่สุดๆ ทั้งรุนแรงและเจ้าอารมณ์จนฉันอึ้งไปเลย
แปะๆๆ
ฉันปรบมือให้พี่โซ่ทันทีที่ได้สติขณะที่พี่โซ่ก็ยิ้มกว้างและโค้งรับเสียงปรบมือของฉันอย่างอารมณ์ดี เหมือนเขาได้ปลดปล่อยอ่ะเลยอารมณ์ดีแบบนี้
"สุดยอดเลยค่ะ"
"รู้แหละ"
"พี่น่าจะมีวงดนตรีนะคะ"
"ไม่เอาหรอกยุ่งยากตายห่า"
พี่โซ่เดินกลับมานั่งข้างฉันที่กำลังมองหน้าเขาอยู่ เพราะฉันยังทึ่งในความสามารถของเขาไม่หาย
"เลิกมองแบบนั้นสักทีน่า"
"แต่เมื่อกี้มันสุดยอดมากเลยนะคะ พี่เก่งสุดๆ"
"เฮอะ พอแล้วเลิกยอกัน"
ฉันยิ้มให้พี่โซ่ขณะที่เขากำลังส่ายหน้าอย่างเอือมๆอยู่ แต่ดูเหมือนเขาจะเขินนะที่ฉันชมแบบนี้
"พี่โซ่จะกลับมาเยี่ยมโรงเรียนไหมคะ?"
"กลับมาเพื่อ" พี่โซ่หันมาตอบทันทีก่อนเขาจะเงยหน้ามองเพดาน และอิงพนักเก้าอี้อย่างเพลียๆ "พี่รอวันนี้มานานแล้วรู้ป่ะ"
ฉันกำมือตัวเองแน่นในตอนที่เขาพูดแบบนี้ และอย่างที่รู้ว่ามหาลัยที่พี่โซ่เรียนมันไกล ไกลมากและเข้ายากมากๆ...มันรู้สึกเจ็บที่ใจจังในตอนที่เขาบอกว่าจะไม่มาที่นี่อีก
"รู้ป่ะว่าถ้าเราเข้ามหาลัยเราจะมีอิสระขนาดไหน" พี่โซ่หันมามองฉันจึงต้องรีบเก็บความเสียใจและพยักหน้ามองเขาแทน "อยากไปไหนก็จะได้ไป อยากกินอะไรก็จะได้กินเหล้าเบียร์นี่ไม่ต้องแอบกินอีกแล้วเข้าใจอารมณ์ป่ะ"
"พี่ดื่มด้วยเหรอ?"
"กินดิพอกินเราก็จะลืมทุกเรื่อง"
พี่โซ่ยิ้มบางๆขณะที่แววตาคมกริบกำลังมองฉันที่กำลังมองหน้าเขาอยู่ และฉันไม่รู้ว่ากำลังทำหน้ายังไงทำไมพี่โซ่ถึงได้เอื้อมมือมาเชยคางฉันขึ้นแบบนี้
"อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้ไหม?"
"หยกไม่ได้.."
"ตาแดงขนาดนี้ยังจะเถียง" ฉันเม้มปากมองพี่โซ่ แต่เขากลับยิ้ม "เธอยังจะได้เจอคนอีกเยอะไม่ต้องมาเสียใจเพียงเพราะพี่จะไปหรอก"
"แต่หยกชะ.."
"คำว่าชอบด้วย" พี่โซ่ขัดฉันทันทีเหมือนเขาจะรู้ว่าฉันกำลังจะพูดอะไร "เก็บเอาไว้บอกคนที่ตัวเองชอบจริงๆ"
"ตะแต่หยกชอบพี่จริงๆอึ่ก.."
น้ำตาฉันไหลลงมาจนได้ ฉันพยายามไม่สะอื้นและเอื้อมมือขึ้นจับข้อมือพี่โซ่ไว้ด้วยสองมือที่กำลังสั่นเทาขณะที่พี่โซ่กำลังมองฉันนิ่ง เขาไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกยังไงกับฉันเพราะทุกอย่างมันนิ่งไปหมดในแววตาเขา
"เฮ้อ เธอยังเด็กยังแยกอะไรไม่ออกเลย"
"อึ่ก...แต่พี่จะไม่มาที่นี่อีกแล้ว"
ฉันกำข้อมือพี่โซ่แน่นขึ้นด้วยหัวใจที่กำลังเจ็บปวด ฉันไม่อยากแยกจากเขาเลยจริงๆ
"ทุกคนต้องเติบโต รวมถึงเธอเองก็เหมือนกัน"
พี่โซ่ยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปที่ท้ายทอยดึงรั้งให้ใบหน้าฉันขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าเขามากขึ้น มากจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆจากเขา
"พี่ไม่ชอบพูดแบบนี้แต่ก็ขอให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง"
ฉันกำข้อมือพี่โซ่แน่นในตอนที่เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับริมฝีปากนุ่มที่ขยับแนบชิดลงที่ริมฝีปากฉัน หัวใจฉันเต้นแรงมากและยิ่งแรงมากขึ้นในตอนที่เขาขยับริมฝีปากออกเพื่อที่จะยิ้มให้ฉันได้
"เราคงได้เจอกันในสักวัน"
พี่โซ่พูดเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่เขาจะขยับลุก และเดินออกไปจากห้องดนตรี ไม่มีแม้แต่คำพูดปลอบใจในตอนที่ฉันร้องไห้สุดเสียง ไม่มีสัมผัสอบอุ่นเหมือนเมื่อกี้ที่เขาทำเพราะเขารู้ว่าถ้าทำฉันก็คงจะไม่คิดจะลืมเขา และมันอาจจะยิ่งทำให้ฉันคิดว่าเขารักฉัน
เขาเดินออกไปไกลจนลับสายตา แต่ความทรงจำที่ดีระหว่างเขากับฉันในช่วงเวลานี้มันกลับชัดเจนในความทรงจำ...มันล้ำค่าและมีค่ามากสำหรับฉัน