" แผนกำจัดเมียในนาม "

2543 คำ
ผมกลับมาถึงคอนโดนโดยพาผู้หญิงกลับมาด้วยอย่างเช่นทุกครั้ง พอเปิดประตูเข้าไปในห้องพร้อมกับกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้หญิงที่หิ้วมา เข้ามาถึงด้านในก็เห็นยัยคนใช้นั่งทานข้าวอยู่ในครัว พอผมเข้ามาเธอก็รีบเก็บทันที แล้วถือน้ำเปล่าเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ผมมองดูจานข้าวที่เธอยังไม่ได้เตะเลยสักคำ สงสัยกำลังจะกิน แต่เห็นผมเข้ามาก่อน ผมเข้าไปในห้องนอนนัวเนียกับผู้หญิงสักพัก จนเสร็จสมดังใจ จึงไล่ผู้หญิงคนนั้นให้กลับไป บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง แต่ความคิดในหัวผมกลับดังก้อง ผมยกยิ้มมุมปาก ขณะที่เท้าเริ่มก้าวออกจากห้อง เดินไปหยุดที่หน้าห้องของยัยเกล ก่อนจะเริ่มแผนการกำจัดเมียจำเป็น "ก๊อกก..ก๊อกกก...." เสียงเคาะประตูดังขึ้น ประตูเปิดออกอย่างช้าๆ ร่างของเธอโผล่มาด้วยแววตางุนงง ผมยืนนิ่ง สีหน้าเรียบเฉยอย่างที่ถนัด "คุณเวหา.....?" ดวงตาของผมเหลือบมองร่างเธอด้วยสายตาเย็นชา ชุดนอนหลวมๆ กับผมที่ชี้ฟูยิ่งทำให้เธอดูไม่พร้อมสำหรับอะไรทั้งนั้น "อืม..ไปเปลี่ยนชุด ฉันจะพาเธอไปทำงาน" เธอขมวดคิ้ว ความสงสัยฉายชัดบนใบหน้า แววตาเริ่มมีความกังวล "ทำงาน?" "ก็ใช่งัย เธออยู่ที่นี่ ไม่ได้ทำอะไร วันวันเอาแต่ใช้เงินที่แม่ฉันส่งให้ เธอต้องไปทำงานแลกกับการอยู่ห้องนี้" เธอชะงักเล็กน้อย คำพูดของผมกระแทกใจเธออย่างจัง ดวงตากลมเบิกกว้างเล็กน้อย ปากสั่นไหวเหมือนอยากพูดบางอย่าง "งะ..งานอะไรคะ.." "ไปเปลี่ยนชุดแล้วตามฉันมา" น้ำเสียงของผมเฉียบขาด ไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ เธอก้มหน้างุดก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่พูดอะไร ไม่กี่นาทีต่อมา ผมขับรถพาเธอมาที่ไนต์คลับของตัวเอง ไฟนีออนหลากสีวูบวาบ ส่องสะท้อนกระจกรถและผิวหน้าของเธอที่เริ่มซีดลงทุกที ผมเดินนำเธอเข้าไปยังโซนวีไอพี กลิ่นเหล้าแรงๆ และเสียงเพลงเบสหนักๆ ก้องอยู่รอบหู สายตาของเธอกวาดมองรอบข้างอย่างระแวดระวัง ดวงตาหวั่นๆ นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกสะใจ "สวัสดีครับ..คุณเวหา" เสียงของคาวาดังขึ้นทันทีที่เห็นผม ผมพยักหน้าส่งสัญญาณ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น "คาวา พายัยนี่ไปทำงานตามที่ผมสั่ง" คาวาหรี่ตามองหญิงสาวข้างผมเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบถามอย่างลังเล "เอ่อ...จะดีเหรอครับ...เธอดูยังไม่เคยเท่าไหร่" ผมหันขวับไปหาเขา สายตาดุดันเฉียบคม "บอกให้ไปก็ไป อย่ามาขัดคำสั่ง" คาวาเงียบไปทันที ก่อนจะรีบพยักหน้า "ครับๆ ตามผมมาครับคุณผู้หญิง" มือของเธอกำชายเสื้อแน่น ผมหันไปมองเพียงแวบเดียวก็เห็นความกลัวชัดในแววตา น้ำเสียงของเธออ่อนลงจนแทบจะเป็นกระซิบ "เกลไม่ไปได้ไหมคะ..." สายตาอ้อนวอนของเธอทำให้ผมหยุดนิ่งชั่วครู่ มุมปากของผมกระตุกขึ้นเล็กน้อยอย่างเย็นชา ในเมื่อเธอกลัว นั่นแหละคือสิ่งที่ผมต้องการ "หึ..พาไป" ผมนั่งเอนตัวพิงพนักโซฟาหนังแท้ในห้องวีไอพีสุดหรู กลิ่นซิการ์และเครื่องดื่มราคาแพงลอยอบอวลในอากาศ เสียงหัวเราะเบาๆ ของแขกคนสำคัญที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำให้ผมต้องรักษาท่าทีให้ดูเป็นมิตรในขณะเดียวกันก็ต้องจับตาดูเวลา เพราะกำลังรอใครบางคนอยู่ แล้วคาวาก็เดินเข้ามา พร้อมกับร่างบางที่ผมเคยเห็นแต่ในชุดไร้เสน่ห์ เสื้อยืดตัวหลวมและกระโปรงนักศึกษาทะมัดทะแมง แต่คราวนี้ เธอเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ ผมเห็นครั้งแรกถึงกับชะงัก ดวงตาเบิกขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง...ยัยนั่นในตอนนี้ แต่งหน้าเซ็กซี่แบบที่ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำ ดวงตาคู่นั้นมีแววขลาดเขินและหวาดระแวง ทว่าเสน่ห์ของเธอกลับยิ่งเด่นชัด เสื้อเดรสสายเดี่ยวไล่สีดำที่เธอสวมสั้นจนเผยให้เห็นต้นขาขาวนวลละเอียด ราวกับผิวเด็กสาวที่ยังไม่เคยต้องฝุ่นสังคม เธอก้มหน้า ไม่กล้าสบตาผมหรือแขกในห้อง มือทั้งสองพยายามดึงชายกระโปรงสั้น ๆ ลงมาเพื่อปกปิดความเปลือยเปล่าทางสายตา ร่างกายเธอดูจะสั่นนิด ๆ จากความประหม่า ผมหันไปมองหน้าเสี่ยวิชิตที่นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าของตาแก่นั่นชัดเจนเกินกว่าจะปิดบังได้ ตาแพรวพราวและมีแววตะกละเต็มสองตา เขากวาดตามองเรือนร่างเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเลียริมฝีปากอย่างหิวกระหาย "มานั่งข้างๆ เสี่ยวิชิตสิ" ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แสร้งไม่เห็นความกลัวของเธอที่ฉายชัดอยู่เต็มสองตา "คุณเวหาคะ...เกลขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลย" เสียงเธอสั่นเครือ ดวงตาแดงวาวด้วยหยดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไม่ให้ไหล เธอยืนตัวเกร็งนิ่ง เหมือนกำลังต่อสู้กับบางอย่างในใจ "พูดอะไรของเธอ ฉันให้เธอมาทำงาน เธอก็ต้องทำสิ" น้ำเสียงของผมเย็นเยียบ ตัดบทอย่างไร้เยื่อใย ราวกับคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมเคยนอนหายใจอยู่ข้าง ๆ "เกลขอทำหน้าที่อื่นได้ไหมคะ เป็นเด็กเสิร์ฟก็ได้" เธอยังคงอ้อนวอน ดวงตากลมโตสบตาผมอย่างวิงวอน หวังจะได้เมตตาสักนิดหนึ่ง "หึ...เด็กเสิร์ฟที่นี่เยอะแล้ว..ฉันให้เธอมาดูแลเสี่ย เธอก็ต้องทำตามที่ฉันสั่ง" ผมแค่นหัวเราะในลำคอ เย้ยหยันกับความกลัวที่ค่อย ๆ แผ่กระจายออกมาจากตัวเธอ ดวงหน้าสวยหวานซีดเผือดลงเรื่อย ๆ "แต่เกล..." เธอเอ่ยเสียงเบาเหมือนกำลังพยายามต่อลมหายใจสุดท้าย "มานั่งข้างๆ เสี่ยสิจ๊ะ ถ้าบริการถูกใจเสี่ยเหมาหนูทั้งคืนเลย..." เสี่ยวิชิตแทรกขึ้นพร้อมกับหัวเราะหึๆ ก่อนจะยื่นมือคว้าแขนเล็กของเธออย่างมืดบอดในตัณหา แล้วดึงให้เธอนั่งลงบนตักอย่างหน้าด้าน ๆ ส่วนยัยนั่นดีดดิ้นไปมาอย่างรังเกียจ ร่างของเธอพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนของตาแก่นั่น มือเล็กผลักอกเขาอย่างตกใจ ปากสั่นระริก "ปล่อยฉัน" เสียงร้องอย่างหวาดกลัวปะทะหูผมอย่างแรง แต่ผมกลับไม่สนใจ รอยยิ้มของเสี่ยทำให้ผมรู้ว่างานนี้ผมได้ใจเขาไปเต็ม ๆ "งั้นผมออกไปก่อนนะครับ...หวังว่าเสี่ยจะพอใจกับของขวัญที่ผมมอบให้" ผมพูดพลางลุกขึ้นเต็มความสูง หันหลังให้เธอโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง แต่ก่อนที่ฝ่าเท้าจะพ้นธรณีประตู "คุณเวหา...อย่าทิ้งเกล...อย่าทำแบบนี้ เกลขอร้อง" เสียงเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร ก่อนจะรีบวิ่งมากอดขาผมไว้แน่น น้ำตาอุ่นๆ ไหลเปียกเต็มขากางเกงผม "ปล่อยขาฉัน แล้วไปดูแลแขกให้ดี" ผมพูดเสียงแข็ง ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่แม้แต่จะก้มลงมองเธอ "คุณเวหา..ทำไมคุณถึงใจร้ายกับเกลนัก.. อึก อึก" เธอสะอื้นทั้งน้ำตา กัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นความเจ็บปวดไว้ในใจ แม้หัวใจจะเหมือนถูกเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากขาผม และผม...ก็ยังไม่หันกลับไปมอง ผมสะบัดออกแล้วเดินออกมานอกห้องทันที โดยมีเสียงของเธอร้องเรียกชื่อผมไม่ขาด จากนั้นผมก็เข้ามานั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิด ในจอฉายให้เห็นถึงบุคคลสองคนที่ผมพึ่งแยกตัวออกมา ยัยนั่นพยายามดิ้นหนีจากเสี่ยบ้ากาม เธอร้องไห้อย่างหนัก พอไอ้เสี่ยนั้นกำลังจะถึงตัวเธอ เธอก็เป็นลมล้มพับไป ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องดังกล่าว แล้วอุ้มเธอออกมาทันที "หยุด..อย่าแตะต้องตัวเธอ "อะไรกับครับคุณเวหา เมื่อกี้คุณยกให้ผมแล้วนิ "ผมให้เธอดูแลคุณในฐานะพนักงานเสิร์ฟไม่ใช่อีตัว ผมอุ้มร่างบอบบางที่ยังสะอื้นฮัก ๆ ออกมาจากห้องวีไอพีอย่างรวดเร็ว ร่างเธอไร้เรี่ยวแรงเหมือนไม่มีพลังจะขัดขืน น้ำตายังคงเปียกแก้ม และหยดลงบนอกเสื้อผมอย่างต่อเนื่อง หัวใจของเธอคงเต็มไปด้วยความตื่นกลัวและตกใจ ท่ามกลางบรรยากาศอึดอัดและความเงียบที่ครอบคลุมทั่วโถงชั้นบนของคลับ ผมก้าวยาวๆ อย่างเร่งรีบ พาเธอมายังห้องนอนลับที่อยู่ด้านในสุดของห้องทำงานส่วนตัว เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ดังชัดเจนในความเงียบ และเมื่อถึงที่หมาย ผมก็วางเธอลงบนเตียงช้าๆ ร่างของเธอสั่นเล็กน้อย ดวงหน้าเปื้อนคราบน้ำตานั้นดูหมองหม่น น่าสงสารแต่ก็ยังคงความสวยแบบไร้เดียงสา แต่สายตาผมกลับหลุดโฟกัสไปจากความรู้สึกนั้น...ไปหยุดอยู่ตรงเนินอกที่ขาวนวล ลาดต่ำอย่างอ่อนช้อยภายใต้ชุดเดรสสายเดี่ยวที่แทบจะไม่ปกปิดอะไรเลย แค่ผ้าผืนบางแนบชิดผิวกายอันนุ่มนิ่มที่ผมเพิ่งได้สัมผัสเมื่อครู่ เรือนร่างเธอช่างตรงข้ามกับภาพลักษณ์สาวบ้านๆ ที่เคยเห็น โครงร่างเล็กแต่น่าหลงใหล อกเป็นอก เอวคอดเล็ก สะโพกกลมกลึงได้รูป ผิวขาวละมุนละไมดูเรียบลื่นจนเผลอจินตนาการไปไกล เธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์เร้นลับแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว ผมนิ่งไปชั่วขณะ หัวใจเต้นแรงกับภาพตรงหน้า แต่แล้วสติกลับคืนมาทันที นี่มันคือยัยคนใช้ที่ผมเกลียดสุดใจ เธอเป็นเมียจำเป็นที่ผมไม่ต้องการ! "ปล่อยฉันนนนน...." เสียงหวีดร้องของเธอดังลั่นกลางห้อง เธอละเมอตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด แววตาตื่นตระหนกและหายใจแรงถี่ มือกุมผ้าห่มแน่น ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วหยุดลงที่ผมที่ยืนอยู่ปลายเตียง "มองฉันแบบนั้นทำไม....." น้ำเสียงเธอสั่นสะท้านปนโกรธ แววตาสั่นไหวเจือความผิดหวังและเจ็บลึก เธอไม่หลบตาแม้แต่น้อย "คุณอยากหย่ากับเกลมาก ถึงขนาดที่ต้องทำกับเกลแบบนี้เลยเหรอคะ" เธอถามเสียงเบาแต่ชัดเจน ความผิดหวังเอ่อล้นอยู่ในน้ำเสียงนั้น น้ำตาหยดใหม่ค่อยๆ ไหลลงมาตามข้างแก้มอีกครั้ง "ใช่..หย่ากับฉันสักที จะทนอยู่ทำไม ยังงัยฉันก็ไม่มีทางรักเธอ" ผมตอบเสียงเรียบ ดวงตาไม่หลบหลีก ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ นอกจากเย็นชา ตั้งใจตัดรอนเธอให้ได้ "ไม่รัก...แล้วจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ." เสียงเธอเบาหวิว แต่มีแรงสะท้อนกลับรุนแรงในใจผม เธอยังคงจ้องผมด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม ความเจ็บ และคำว่าทำไม...ซ่อนอยู่ในแววตาคู่นั้น "อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น" ผมพูดเสียงแข็ง ไม่กล้าสบตาเธอนานไปกว่านี้ เพราะมันทำให้ใจผมวูบแปลกๆ และนั่นไม่ควรเกิดขึ้น เธอมองผมอย่างผิดหวัง จ้องมองนิ่ง ไม่หลบสายตา ผมไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อนเลย สงสัยครั้งนี้คงจะโกรธผมมาก ก็ดีจะได้หย่าๆ กันไป เธอไม่พูดอะไรอีกแล้ว มีเพียงสายตาที่เหมือนตัดใจได้และไม่คาดหวังอะไรอีกต่อไป เงียบสงัดจนน่ากลัว "หมดหน้าที่เกลแล้วใช่ไหม เกลจะกลับ" น้ำเสียงของเธอเย็นชาเกินคาด ต่างจากน้ำเสียงที่เคยร้องไห้อ้อนวอน มือเล็กๆ ปาดน้ำตาอย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยแรงที่เหมือนรวบรวมจากความผิดหวังทั้งหมด เธอรีบลุกขึ้น แล้วเดินออกไปทันที เสียงฝีเท้าเธอเบาแต่หนักแน่น ผมยืนนิ่ง ไม่เอ่ยอะไร ขณะที่ประตูห้องค่อยๆ ถูกปิดลง…อย่างช้าๆ ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่กรีดแทงกลางอกอย่างไม่รู้ตัว @ 08.00 น. แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในความเงียบสงบที่แปลกประหลาด ความรู้สึกว่างเปล่าเอ่อท่วมจิตใจเมื่อสายตากวาดมองไปรอบห้อง แล้วพบว่า...ไม่มีร่างของยัยคนใช้อยู่เลย ตั้งแต่เมื่อคืน เธอไม่พูดอะไรกับผมเลยสักคำ ไม่มีแม้แต่เสียงบ่น เสียงสะอื้น หรือแม้แต่คำประชดประชันอย่างที่เธอมักจะทำเป็นประจำ ไม่มีการสบตา ไม่มีแม้แต่การแสดงออกทางอารมณ์อะไรทั้งสิ้น มันเงียบ...จนน่ากลัว ผมเดินออกมาจากห้องอย่างช้าๆ สายตาเหลือบไปมองที่หน้าห้องของเธอ รองเท้ายังวางอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน มันหมายความว่าเธอยังไม่ออกจากบ้าน แต่ความเงียบที่ปกคลุมชั้นล่างทั้งหมด ทำให้ใจผมเริ่มรู้สึกผิดปกติ ยัยคนใช้...เงียบเกินไป ผมเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องของเธอช้าๆ หูแนบลงกับบานไม้เย็นๆ เพื่อแอบฟังว่าข้างในมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ หัวใจเริ่มเต้นแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ "ตุบ!!!.." เสียงเหมือนของหนักกระแทกพื้นดังมาจากด้านใน ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก "นี่..ยัยคนใช้..." เสียงของผมดังขึ้นทันทีด้วยความตกใจ พยายามเรียกเธอซ้ำๆ น้ำเสียงเริ่มแฝงความร้อนรน "ได้ยินที่ฉันเรียกไหม.." ผมเอ่ยเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ยืนอยู่นาน...แต่มันไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีเสียงฝีเท้า ไม่มีแม้แต่เสียงขยับตัว ปกติแค่เรียกชื่อ เธอจะรีบวิ่งออกมาทันที แต่ตอนนี้...มันเงียบ "เกล....เกล..เปิดประตู..." ผมเคาะประตูถี่ขึ้น เสียงในอกเริ่มโหมกระหน่ำเหมือนลางร้ายกำลังกระซิบ ผมหายใจแรงขึ้น ความตื่นตระหนกเริ่มก่อตัว "......................" ความเงียบที่ไร้คำตอบเหมือนคำยืนยันว่าอะไรบางอย่างไม่ปกติจริงๆ "ปึก...ปึก..." ผมใช้แรงถีบประตูเต็มแรงหลายครั้ง จนในที่สุดมันเปิดออกได้ และภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้เลือดในกายผมเย็นวาบ ร่างเล็กๆ ของเธอนอนแน่นิ่งอยู่ใต้เตียงในท่าที่ดูเจ็บปวด มือของเธอกุมหน้าท้องแน่น เสื้อผ้ายับยู่ สายตาหลับพริ้มราวกับสลบไปแล้ว สีหน้าซีดขาวผิดปกติ ริมฝีปากที่เคยพูดจาแข็งกร้าวตอนนี้ไร้เสียง ไร้ชีวิตชีวาโดยสิ้นเชิง รีบพุ่งเข้าไปคุกเข่าอยู่ข้างๆ เธอทันที มือสั่นเทาแตะลงที่แก้มของเธอ "เกล ตื่น.... เกล...นี่เธอ..เป็นอะไร" เสียงผมสั่นเครือ ความรู้สึกผิดและความกลัวเริ่มเอ่อท่วมจิตใจ ยิ่งเห็นเธอนิ่งเฉยมากเท่าไหร่ หัวใจของผมยิ่งร้อนรนยิ่งกว่าไฟสุม ไม่รอช้า อุ้มเธอขึ้นในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ร่างเธอเบาและอ่อนแรงจนรู้สึกได้ทุกสัมผัส ความร้อนจากตัวเธอไม่เหมือนเดิม เหงื่อเริ่มผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเธอ ขณะที่ผมรีบพาเธอวิ่งออกจากห้อง แล้วพาเธอไปที่โรงพยาบาลทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม