วันเปิดเทอม
ASID University
สองเท้าของเรากำลังเดินอยู่ริมถนนภายในบริเวณของมหาลัยขณะกำลังจะไปเรียนวิชาแรกของวัน ระหว่างนั้นเองเราก็ได้ยินเสียงรถหรูของใครบางคนขับมาจากด้านหลังก่อนจะขับแซงเราไปอย่างรวดเร็ว
"พี่ไต้ฝุ่นโคตรเท่เลยว่ะแก นาน ๆ ทีจะเห็นพี่เขาขับพอร์ชเปิดประทุน"
"วาสนาผู้ใดน้อ วาสนาฉันได้ไหมวะแก"
"วาสนาใครไม่รู้ แต่แค่ได้เชยชมไกล ๆ ยังฟินขนาดนี้อะ ฮืออ…พี่ไต้ฝุ่นสุดหล่อของฉัน" เสียงนักศึกษาผู้หญิงบริเวณนั้นซุบซิบกันให้แซ่ดดวงตาของพวกเธอทุกคนจับจ้องไปมองที่ชายคนขับรถพอร์ชด้วยแววตาหลงใหล
เรามองตามหลังรถพอร์ชสีดำด้านเปิดประทุนคันนั้นไปก็เห็นว่าเขากำลังจะจอดรถที่หน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์
แต่มองไม่เห็นคนขับอะ เขาคงเป็นพวกลูกคนรวยแล้วก็เป็นคนดังของมหาลัยอะไรแบบนี้สินะ
"ฟังเพลงดีกว่า" เราละความสนใจออกมาจากรถคันนั้นก่อนจะหยิบหูฟังไร้สายคู่ใจมาสวมใส่และเปิดเพลงฟัง ก่อนจะสาวเท้าเดินผ่านไปที่ตึกถัดไปที่อยู่ข้าง ๆ ตึก
วิศวะ
ตึกคณะบัญชี
คณะบัญชีคือคณะที่เรากำลังเรียนอยู่ ถามว่าชอบบัญชีไหม? ตอบเลยว่า ไม่! แต่ถ้าถามว่าเรียนทำไม
ก็เพราะว่าเราคิดว่ามันคงมีประโยชน์กับอาชีพของเราในอนาคตแล้วที่บ้านก็สนับสนุนให้เรียนด้วย
เราเดินเข้าไปที่ตึกคณะบัญชีด้วยสีหน้าเหี่ยวเฉา เราไม่มีอารมณ์ไปสนใจใครทั้งนั้นเพราะกำลังเศร้าใจกับพวงกุญแจรุ่นลิมิติดที่หายไป
พอนึกถึงพวงกุญแจหัวก็เผลอไปนึกถึงนักเลงหน้าหล่อคนนั้น ไอ้นักเลงปากปีจอนั่น!
"โธ่เว้ย! หงุดหงิดจริง ๆ" เราเผลอสบถออกมาเสียงดังตามความคิดด้วยท่าทางหงุดหงิด รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกได้ถึงสายตาของนักศึกษาแถวนั้นที่มองเรามาด้วยสายตาแปลก ๆ
พอรู้ตัวแบบนั้นเราก็รีบจ้ำเท้าเดินเข้าตึกคณะไปอย่างรวดเร็วยิ่งอยู่นานก็ยิ่งรู้สึกตกเป็นเป้าสายตา
คนอื่นคงคิดว่าเราเป็นคนแปลก ๆ แต่ถามว่าพวกเขาคิดถูกไหม? ก็คงใช่แหละ
ติ๊ง!
เสียงข้อความของพะแพงแจ้งเตือนที่หน้าจอโทรศัพท์ของเราขณะที่เรากำลังนั่งเรียนอยู่ เราจึงหยิบโทรศัพท์มาเปิดข้อความอ่าน
Papang : ต้นหลิว เธอมีเครื่องคิดเลขหรือเปล่า
: มีสิ เด็กบัญชีไม่พกเครื่องคิดเลขได้ไง
Papang : ขอบคุณพระเจ้า! เธอใช้มันอยู่ไหม? เอาเครื่องคิดเลขมาให้ฉันหน่อยได้ไหมอ่า ขอยืมหน่อย
: ไม่ได้ใช้นะ แต่ว่ารีบไหม รออีกยี่สิบนาทีได้รึเปล่าเราใกล้เลิกเรียนแล้ว
Papang : รอได้ เอามาให้ฉันที่ตึกวิศวะหน่อยนะคะคุณต้นหลิวคนสวย Thank you!
"อะ แฮ่ม! เก็บโทรศัพท์ด้วยครับนักศึกษา ตั้งใจกับเนื้อหาที่อาจารย์กำลังสอนหน่อย" เสียงอาจารย์ที่กำลังตั้งอกตั้งใจสอนเอ่ยขึ้น ทำให้เราและนักศึกษาคนอื่น ๆ เก็บโทรศัพท์ที่กำลังกดอยู่เข้ากระเป๋า
หลังจากนั้นไม่นานเราก็เลิกเรียนวิชาแรก เรารีบเก็บของบนโต๊ะก่อนจะสาวเท้าออกมาจากห้องเรียนด้วยความรวดเร็วและมุ่งตรงไปที่ตึกวิศวะทันที
วิศวะคือศูนย์รวมผู้ชายหล่อของมหาลัยหรือเปล่า มองไปทางไหนก็เจอแต่คนหน้าตาดี ๆ
"ต้นหลิว ทางนี้ ๆ" เสียงที่คุ้นหูของพะแพงดังขึ้นทำให้เรารีบสาวเท้าตรงไปหาเพื่อนสนิทของตัวเองทันที
"เอ้านี่ เครื่องคิดเลข" เรายื่นเครื่องคิดเลขที่พะแพงขอให้กับพะแพง
"ขอบใจมากต้นหลิว แล้วนี่เลิกเรียนแล้วเหรอ?"
พะแพงเอ่ยถามเราต่อ
"เลิกแล้ว แต่เดี๋ยวมีเรียนต่ออีกคลาสตอนบ่าย ๆ"
"งั้นไว้คุยกันนะ ฉันต้องรีบกลับเข้าห้องเรียนก่อน ขอบใจมากนะจ๊ะ" พะแพงยิ้มบอกเราก่อนจะรีบหมุนตัวเดินสาวเท้าขึ้นตึกเรียนของตัวเองไป
เราก็มองตามแผ่นหลังเพื่อนสนิทตัวเองไปเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวหมายจะกลับไปที่คณะของตัวเอง
แต่ในตอนนั้นดวงตากลมของเราก็ไปสะดุดเข้ากับแผ่นหลังของผู้ชายร่างสูงที่คุ้นตาคนหนึ่ง ซึ่งประเด็นมันอยู่ที่บริเวณกระเป๋ากางเกงด้านหลังของเขามีพวงกุญแจที่คุ้นตาเราเหน็บไว้อยู่
เราเพ่งตามองพวงกุญแจที่คุ้นตา ก่อนจะเบิกตากว้าง
เมื่อเห็นว่ามันเหมือนกับพวงกุญแจของเราที่หายไป เราไม่รอช้าที่จะรีบสาวเท้าเดินตามแผ่นหลังของชายคนนั้นไปทันที
ตึกตึก
สองเท้าของเราจ้ำเดินตามคนตัวสูงที่กำลังเดินเข้าไปที่บริเวณข้างตึกที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน เรารีบสาวเท้าเดินให้ไวที่สุดเพื่อจะได้เดินตามเขาทันและในที่สุด
หมับ!
เราจับชายเสื้อช็อปสีแดงของคนตรงหน้าไว้แน่น แต่เหมือนจะทำให้เขาตกใจ เพราะชายคนนั้นรีบหันขวับทันทีที่เราสัมผัส
"พะ พี่!"
เราเบิกตากว้างตกใจกับใบหน้าของคนที่หันมานั่นมัน…เขานี่