เช้าต่อมา
เสียงนกร้องแผ่ว ๆ ดังลอดเข้ามาพร้อมแสงแดดอุ่นที่สาดผ่านม่านบางเข้ามาในห้องคอนโด
ร่างเล็กบนเตียงขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ พลิกกายพร้อมเสียงครางงัวเงีย
“งืออ… แปดโมงแล้วเหรอ…”
มือเรียวขยี้ตาเบา ๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเต็มศีรษะ
เมื่อคืนเธอเพิ่งหลับเอาตอนเกือบเช้า หลังจากนอนกลิ้งไปมาทั้งคืนด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“ให้ตายสิ…ทำไมต้องจูบกันด้วยวะ!”
เธอบ่นพึมพำกับหมอนก่อนจะควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียง
ทันทีที่ปลดล็อกหน้าจอ ภาพวอลเปเปอร์วิวลอนดอนที่เธอถ่ายไว้เองก็ปรากฏขึ้น พร้อมเวลาที่เกือบจะเก้าโมง
“โอ๊ย! ถ้าเป็นวันเรียนจริงฉันคงโดนตัดคะแนนสายแน่เลย!”
เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกดโทรออกหาคนแรกที่ผุดขึ้นในหัว คือเพื่อนสนิทคนแรก...เกล
📞 “ตื๊ด… ตื๊ด… ตื๊ด…”
เสียงดังขึ้นสามครั้ง ทางนั้นก็รับสาย
“ฮัลโหล~ เกล นี่มินเองนะ”
เสียงสดใสปลายสายตอบกลับมาทันที
“มินเหรอ! โอ้ย ดีใจมากเลย ก็ว่าอยู่เมื่อวานลืมขอช่องทางติดต่อไว้ วันนี้นึกว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้ว!”
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ พลางบิดตัว
“ใช่เลย เกือบจะไม่ได้คุยแล้วจริง ๆ”
“แล้วมินหาเบอร์เราได้ยังไงอะ?” เกลถามเสียงใสปนสงสัย
“อ๋อ… คือ…” เสียงหวานกระแอมเบา ๆ ก่อนแต่งเรื่องเฉียบพลัน
“คือ...เห็นตอนลงทะเบียนน่ะ มันมีช่องให้กรอกเบอร์ใช่ไหมล่ะ แล้วชื่อเกลก็มีคนเดียวในคณะไง มันเลยไม่ยากหรอก~”
“โห มินนี่ละเอียดจัง จำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็…ประมาณนั้นแหละ ฮ่า ๆ ๆ” มินหัวเราะกลบเกลื่อน ทั้งที่ในใจรู้ดีว่าตัวเองใช้ “ช่องทางลับของพี่เทกี้” ต่างหาก
“ว่าแต่มินมีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่า หรือว่าแค่ไปซื้อของเดินป่ากัน” เกลถามต่อ
“มีสิ~ มินว่าจะไปดูมอเตอร์ไซค์น่ะ อยากได้สักคันไว้ขี่ไปเรียน แล้วค่อยแวะไปซื้อของเดินป่าต่อดีไหม?”
“โอเคเลย! วันนี้เกลว่างทั้งวันเลยนะ ไปด้วยกันได้!”
“เยี่ยม! งั้นเจอกันที่ BTS สยามนะ ถ้ามินพร้อมแล้วจะพิมพ์ไปบอกอีกที”
“ได้เลย! แล้วนี่คือเบอร์เกลนะ ใช้เบอร์เดียวกับไลน์เลย มินแอดมาได้เลย เดี๋ยวเกลดึงมินเข้ากลุ่มรับน้องให้ด้วย”
“หืม? มีกลุ่มด้วยเหรอ?”
“มีสิ! พี่ ๆ เขาพูดตอนปฐมนิเทศไง ชื่อกลุ่มอยู่ในเอกสารที่แจก แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเกลจัดการให้เอง~”
มินยิ้มบาง ๆ เสียงหัวเราะของเกลฟังแล้วทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นแปลก ๆ
“ขอบใจมากนะเกล ดีใจที่ได้เพื่อนดี ๆ แบบนี้”
“เหมือนกันเลยมิน! ไว้เจอกัน เดี๋ยวเกลเตรียมตัวก่อน”
“จ้า”
ติ้ด!
เสียงวางสายดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างของมินที่สะท้อนอยู่ในกระจกบานใหญ่
เธอลุกขึ้นจากเตียง ลากร่างงัวเงียเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองอย่างสดใสขึ้นกว่าทุกวัน
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงยีนส์ขาว รองเท้าผ้าใบสะอาดสะอ้าน
พร้อมกระเป๋าคาดอกสีครีมใบเล็ก
“โอเค พร้อมไปซื้อของกับเพื่อนใหม่สุดน่ารักแล้ว~”
เธอยิ้มให้ตัวเองในกระจก ก่อนจะสะพายกระเป๋า เดินออกจากห้องอย่างอารมณ์ดี
แต่พอประตูปิด “ติ๊ง” ลงเท่านั้น…
ประตูข้างห้องก็ถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงทุ้มต่ำจากข้างห้องก็ดังตามมา
“อย่าลืมกินข้าวนะครับ เดี๋ยวไม่มีแรงไปซื้อของ~”
มินชะงักค้าง หันไปมองประตูห้องข้าง ๆ ช้า ๆ
“พี่คิณ…”
ไอ้บ้า! รู้ได้ยังไงว่าฉันจะออกไปซื้อของ!!
ไม่รอช้าเธอรีบก้าวเดินตรงไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว ใบหน้าแดงซ่านทั้งโมโหและเขิน ลืมไม่ได้ เพราะเมื่อวานเขาขโมยจูบแรกของเธอ
“เวรกรรมจริง ๆ… ขนาดยังไม่ถึงภูสอยดาว ฉันยังหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเลย!”
2 ชั่วโมงต่อมา
ตอน 10 โมง ที่อู่รถคาร์เดน
เสียงเครื่องยนต์และกลิ่นน้ำมันจาง ๆ ลอยอวลอยู่ในอากาศ เมื่อมินกับเกลเดินลงจากรถแท็กซี่ที่จอดหน้าป้าย “CAR’DEN MOTOR” อู่รถขนาดใหญ่ที่ดูหรูราวกับโชว์รูมซูเปอร์ไบค์ระดับพรีเมียม
“โห ที่นี่ดูดีจังเลยมิน เหมือนศูนย์รถยุโรปเลยอะ”
“ใช่มั้ยล่ะ นี่พี่ชายของฉัน(พี่เทกี้)ส่งโลเคชั่นมาให้ บอกว่ามีครบทุกยี่ห้อเลย”
มินยิ้มอย่างภูมิใจ พลางยกมือถือดูโลเคชั่นอีกรอบ
“เห็นมั้ย เขียนไว้เลยว่า มีรถทุกชนิด ยกเว้นเรือดำน้ำกับรถไถนา”
เกลหัวเราะ
“ฮ่า ๆ ถ้ามีรถไถจริง ๆ เกลคงซื้อไว้ขี่ไปเรียนแน่เลย!”
“อย่าบอกนะว่าจะขี่ไปจอดหน้าคณะวิศวะ”
มินแกล้งพูดแล้วหัวเราะคิก ก่อนจะพาเพื่อนเดินเข้าไปข้างใน
“ใช่ แล้วก็คงย้ายไปเรียนเกษตรแทนวิศวะด้วย ฮ่า ๆ”
เกลตอบแล้วเดินไปพร้อมกับมิน
ทันทีที่ประตูอัตโนมัติเลื่อนเปิดออก เสียงแอร์เย็นเฉียบพัดออกมาพร้อมกลิ่นหนังใหม่ของเบาะรถยนต์ ดวงตาคู่สวยมองไปรอบ ๆ ด้วยตาเป็นประกาย
“มีรถทุกชนิดเลยเนอะ…” เธอพูดพลางหันไปยิ้มให้เพื่อน
“ไม่มีแต่รถไถจริง ๆ ด้วยแหละ ฮ่า ๆ”
แต่คำพูดยังไม่ทันจบ สายตาของมินก็ไปสะดุดเข้ากับร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ตรงมุมโชว์รูม
เสื้อเชิ้ตแขนพับขึ้นถึงข้อศอก ท่าทางคุ้น ๆ ยังไงชอบกล…
เพียงชั่วพริบตา เขาก็หันกลับมา และรอยยิ้มมุมปากนั้นทำให้หัวใจมินหยุดเต้นชั่วขณะ
“เชี่ย…” มินอุทานเบา ๆ แต่เสียงดังพอให้เกลหันมามอง
“พี่คิณ!?”
“ยินดีต้อนรับครับ… สาวน้อยของพี่”
เสียงทุ้มของเขาเอ่ยพร้อมยิ้มกวนประสาทเต็มรูปแบบ
มินสะดุ้งเฮือก
“พะ…พี่ตามมาจับตาดูฉันเหรอ โรคจิตขนาดนี้เลย!”
เขาหัวเราะเบา ๆ
“จับตาอะไรครับ ที่นี่เป็นของพี่เองต่างหาก วันนี้พ่อพี่ไม่อยู่ พี่เลยมารักษาการแทน”
“หา!?” มินเบิกตากว้าง
“ใช่ครับ อู่คาร์เดนเป็นธุรกิจของครอบครัว พี่มาช่วยดูแลชั่วคราว” เขาพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ ก่อนจะยกมือเสยผมแบบเท่ ๆ ตามสไตล์ตัวเอง
มินยกคิ้วขึ้น “อ๋อ… ถึงว่าทำไมเมื่อเช้าถึงรู้ว่าฉันจะออกไปข้างนอก ที่แท้ก็ลูกเจ้าของอู่นี่เอง”
เธอบ่นพึมพำเบา ๆ แต่ไม่รู้ว่าเขาได้ยิน
“ว่าไงนะครับ?” เขาเลิกคิ้วถาม
“เปล่าค่ะ!” มินรีบตอบเสียงสูง
“รบกวนเรียกพนักงานคนอื่นมาแนะนำทีเถอะค่ะ ฉันจะดูมอเตอร์ไซค์ คงไม่รบกวนเจ้าของที่นี่หรอก”
คิณหัวเราะเบา ๆ
“ไม่ต้องรบกวนคนอื่นหรอกครับ ที่นี่พี่ข้อมูลแน่นสุด ถามพี่ได้เลย สนใจรุ่นไหน? พี่มีรุ่นมาใหม่ล่าสุดด้วยนะ ส่งตรงมาจากยุโรปเลย”
มินถอนหายใจ
“ฉันอยากได้แค่คันที่ขี่ง่าย ๆ ราคากลาง ๆ ไม่ต้องมาขายของหรูหราแบบพี่ก็ได้”
“อ้าว~ พี่ก็แค่จะช่วยเลือกให้เหมาะกับสาวน้อยมือใหม่เองนี่ครับ”
“ไม่ต้องเรียกว่าสาวน้อยด้วยค่ะ!” มินขึ้นเสียงเบา ๆ หน้าขึ้นสีโดยไม่รู้ตัว
เกลที่ยืนข้าง ๆ ทำตาโต สะกิดแขนมินเบา ๆ
“มิน ๆ นี่เธอรู้จักพี่เขามาก่อนเหรอ? นั่นพี่ว้ากคณะเรานะมิน ไม่กลัวเหรอ”
มินหน้าเหวอไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบก้มหน้า กระซิบตอบเบา ๆ
“ไม่เลย ไม่เคยจะอยากรู้จัก แค่…อยู่ข้างห้อง แล้วดันชอบมาตีสนิทฉันเท่านั้นแหละ”
เกลหรี่ตา
“หืม~ น้ำเสียงแบบนี้มันยังไงนะ…”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น!” มินรีบพูดกลบเกลื่อน หน้าแดงลามถึงหู
คิณที่ยืนฟังอยู่ห่าง ๆ แกล้งยิ้มอย่างรู้ทัน “คุยกันเสร็จหรือยังครับน้องมิน จะให้พี่พาไปดูมุมมอเตอร์ไซค์ไหม?”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันเดินดูเองได้!”
“งั้นพี่จะเดินตามเงียบ ๆ เผื่อมีคำถามจะได้ตอบทัน”
มินหันขวับ “พี่นี่มัน…!”
“หล่อใช่ไหมครับ?” เขายิ้มมุมปากกวน ๆ
“บ้า!”
เสียงหัวเราะของคิณดังตามหลัง ขณะที่มินเดินหนีไปอีกทางโดยมีเกลหัวเราะคิก ๆ ตามหลัง
“เวรกรรมจริง ๆ… จะซื้อของยังต้องเจอคนเจ้าชู้แบบนี้อีกเหรอเนี่ย”