ตอนที่ 2 ความลับที่ไม่มีใครรู้

1785 คำ
ตอนที่ 2 ความลับที่ไม่มีใครรู้ สุดท้ายกลุ่มเพื่อนก็ตกลงกันว่าจะมาดื่มที่ห้องของไนท์ เพราะมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นับดาวตื่นเต้นที่จะได้เจอกับโซ่ในรอบเกือบปี ที่ผ่านมาคุยกันผ่านข้อความตลอด เธอเอาแต่คิดหนักว่าจะเอ่ยคำใดทักทายเขาเป็นคำแรก ควรจะยิ้มระดับไหนให้มันไม่เกินงาม หญิงสาวเปิดดูหน้าต่างข้อความที่คุยกับเขา ล่าสุดเมื่อตอนเช้า เขาหายไปทั้งวันแล้วไม่ยอมตอบข้อความเธอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่ได้คุย บางทีก็ข้ามวันถึงมาตอบข้อความเธอ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน “ไอ้ม่อน มึงซื้อน้ำแข็งมาด้วย แล้วก็น้ำกีวี่ มันเป็นยังไงไอ้ม่อนไม่รู้จัก” ประโยคหลังไนท์หันมาถามน้องสาวเพราะปลายสายตั้งคำถาม “ก็น้ำที่มันเป็นสีเขียว ฝาสีขาว” “เออ ๆ กีวี่ไหนมึงก็เอามาเถอะ ไม่มีก็ไม่เอา อ้วนเป็นหมูยังจะกินน้ำหวานอีก” ไนท์บ่นกับน้องสาวก่อนจะกดวางสายจากเพื่อน “เกลียดพี่ไนท์ละ คำก็อ้วนสองคำก็อ้วน” นับดาวปากคว่ำ ยอมรับว่าอ้วนแต่ไม่ต้องย้ำได้ไหม เธอพยายามลดอยู่ นี่ก็ลดมาได้ตั้งสามกิโลกรัมแล้ว “ทำหน้าให้มันดี ๆ” “ถึงอ้วนก็สวยแล้วกัน” พูดจบก็สะบัดตูดเข้าห้อง ไม่ได้โกรธหรอก นับดาวแค่จะเข้ามาเตรียมตัว ฉีดน้ำหอมกลิ่นแป้งเด็ก ประแป้งสักหน่อย ปัดแก้มอีกนิด ไม่ลืมที่จะเขียนคิ้วด้วย พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเพราะได้ยินเสียงพูดคุยกันของผู้ชาย พี่โซ่มาแล้วใช่ไหม “นั่นไง น้องกู เชี่ย ! ทำอะไรวะนับ อย่างกับลิง” ไนท์อุทานเสียงหลงเมื่อเห็นน้องสาวตัวเองเดินออกมาด้วยแก้มที่แดงแจ๋ ปากก็เคลือบลิปสติกอีก แป้งก็ขาววอก จะไม่ให้กูตกใจได้ยังไง “มึงก็ว่าน้องมันเกิน น่ารักดีออก” ใครบางคนเอ่ยปากชมพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ คนนี้เธอจำได้ว่าชื่อพี่ราม “สวัสดีค่ะพี่ราม” นับดาวยกมือไหว้อย่างมีมารยาท อีกฝ่ายก็โค้งศีรษะรับไหว้ด้วยรอยยิ้ม “ไงสาวบริหาร เก่งนะเนี่ย น้องสาวพี่อยากเข้าแต่สอบไม่ได้ หนีไปอยู่กรุงเทพฯ นู่นละ” รามเอ่ยปากชมน้องสาวเพื่อนอย่างเอ็นดู เห็นแต่งหน้ามาอย่างนี้มันก็ขำอยู่หรอกแต่เขาว่าน่าเอ็นดูมากกว่า “ขอบคุณค่ะพี่ราม แล้วพี่โซ่ไม่มาเหรอ” “มา ๆ แต่มันน่าจะมาดึก บอกว่ามีธุระ” รามบอกนับดาวด้วยรอยยิ้ม แล้วก็อดสงสารไม่ได้เพราะเขาได้รู้อะไรบางอย่างมา บางอย่างที่แม้แต่ไอ้ม่อนกับไอ้ไนท์ก็ไม่รู้ และรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้เพื่อนแตกหักกันได้เลย นับดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอไม่รู้ว่าเขามีธุระอะไรเพราะเขาไม่ได้ตอบข้อความเธอเลย ส่งไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขาก็ยังไม่อ่าน ก็แอบน้อยใจอยู่หรอก แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาไม่ตอบ เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาหนหนึ่ง ไนท์เดินไปเปิดประตูเพราะรู้แล้วว่าใคร นับจับจ้องไปที่ประตูบานนั้น ลุ้นแทบแย่ว่าจะเป็นพี่โซ่ แต่ไม่ใช่ ผู้ชายหน้าตาดีอีกคนเดินเข้าห้องมาพร้อมกับถุงพะรุงพะรัง เขาบ่นตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาก่อนจะชะงักเมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่ทาแป้งขาววอก ที่เขาเห็นแล้วยังตกใจ “อ้าว นับมาแล้วเหรอ” ม่อนครางถามในลำคอ ไม่คิดว่าน้องสาวไอ้ไนท์จะมาอยู่ในห้องนี้ เขาได้ยินผ่าน ๆ แค่ว่าจะย้ายมา เรื่องน้ำกีวี่ที่เถียงกันก็คิดอยู่ว่าไอ้ผู้ชายอกสามศอกคนไหนมันจะแดก เขารู้จักนับดาวมานานแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกับไนท์มาตั้งแต่มอปลาย แต่ไม่ได้เจอกันบ่อยนักเพราะน้องเรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วน ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นน้องสาวมันจริง เพราะไอ้ไนท์มันหน้าตาดี หุ่นก็ดี ถึงน้องสาวมันจะมีเค้าโครงความสวยอยู่แต่เขาก็คิดว่าไม่เหมาะจะเป็นน้องสาวไอ้ไนท์อยู่ดี พี่ชายเข้าฟิตเนสเกือบทุกวัน ส่วนคนน้องน่าจะกินทั้งวันนะกูว่า “สวัสดีค่ะ” นับดาวยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ชายที่รู้จักกันแล้วมาระยะหนึ่ง “ครับ” ทั้งคู่ยิ้มแห้งใส่กันก่อนที่นับจะหนีเข้าห้องไปเช็ดหน้าตัวเอง ก็เธอโดนมองเหมือนตัวประหลาดจะไม่ให้อายได้อย่างไร เอาเถอะ เดี๋ยวฝึกแต่งหน้าสวยขึ้นเมื่อไรเธอจะสวยให้ดู เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร นับดาวชะโงกหน้าออกมาจากห้องของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไนท์กำลังจะลุกขึ้นจากวงสนทนา พอเห็นว่าน้องสาวกำลังให้ความสนใจกับผู้มาใหม่ เขาจึงหันไปสั่งน้องตัวเอง “ไปเปิดไป ขี้เกียจลุกละ” ไนท์บอกคนเป็นน้อง นับดาวไม่ได้ตอบอะไร เธอรีบเดินไปที่ประตู ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองตาม เธอเอื้อมมือไปจับลูกบิดด้วยหัวใจที่เต้นรัว ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเขาชนิดที่ว่ามือยังสั่นไปด้วย “...” สายตาสองคู่สบประสานกันเพียงเสี้ยววินาที คนร่างสูงก็แกล้งเบือนหน้าไปทางเพื่อนที่อยู่ในห้อง เขาหลุบตาลงมาที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มให้ “นับดาว” เขาเอ่ยชื่อเธอเสียงเบา “นึกว่าพี่โซ่จะไม่มาแล้ว” นับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นและดีใจ เธอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเขิน ๆ “พอดีมีธุระน่ะ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้อง นับดาวรู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างเรามันสั้นเกินไป ทั้งที่สถานะของเธอกับเขาก็มีคำว่าแฟนอยู่ หรือเพราะเขากลัวพี่ชายของเธอจะรู้เข้าถึงต้องทำเป็นไม่มีอะไร แล้วเธอต้องปิดไปอีกนานแค่ไหนกันนะ “น้องนับมานั่งด้วยกันสิ” ม่อนเอ่ยปากชวนด้วยรอยยิ้ม แล้วสายตาอีกคู่ก็หันมามองเธอด้วย เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด สีหน้าเรียบนิ่งราวกับกลัวหลุดอะไรออกมาจากแววตาคู่นั้น หรือเหมือนไม่มีความรู้สึกใดอยู่ในนั้นเลยสักนิด แต่สุดท้ายก็ยิ้มเล็ก ๆ ส่งให้สาวรุ่นน้องไป “เอาน้ำกีวี่ไป แล้วก็เข้าห้องได้แล้ว” ไนท์ปัดมือไล่น้องตัวเอง “มึงก็ไล่น้อง นั่งคุยกันตรงนี้ก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร” “จัดห้องยังไม่เสร็จเลยจะนอนตรงไหน รีบไปทำให้เสร็จ” นับดาวพ่นลมหายใจกับเสียงพี่ชายตัวเองที่เอาแต่ขัดใจเธอไปเสียหมด แต่สุดท้ายก็ยอมเข้าห้องเพราะมันคงไม่เหมาะที่จะนั่งตรงนี้ เดี๋ยวเขาคนนั้นจะมองเธอไม่ดี จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนกว่า เสียงด้านนอกเริ่มเงียบลงไปแล้ว เหมือนว่าเพื่อนของไนท์จะทยอยกลับกัน นับที่เผลอหลับไปก็รีบขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอน เธอยังไม่ได้คุยกับเขาเลย อย่างน้อยก็ขอให้ได้บอกลากันคืนนี้ นับดาวเดินออกมาจากห้องก็เห็นเพียงความว่างเปล่า แต่ยังมีขวดเครื่องดื่มกับแก้ววางทิ้งไว้อยู่โต๊ะกลางโซฟา พร้อมกลิ่นบุหรี่ที่โชยเข้ามาในห้อง พอมองไปที่ระเบียงก็เห็นหนึ่งชีวิตกำลังยืนอยู่ตรงนั้น “พี่โซ่ดูดบุหรี่ด้วยเหรอ” เธอเดินเข้าไปทักทายเขา เวลานี้ไม่มีใครคงคุยกันได้ใช่ไหม “อืม แค่บางครั้ง ไม่บ่อย” เฉพาะเวลาที่เขามีเรื่องให้คิดมาก ๆ นับดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะเหม็นกลิ่นบุหรี่มากแค่ไหน แต่ยอมทนยืนตรงนี้เพื่อที่จะได้สนทนากับเขาต่อ “อย่าดูดมากนะ มันไม่ดี นับเป็นห่วง” เธอบอกเขาด้วยรอยยิ้ม โซ่พยักหน้า ยิ้มตอบเธอเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังมองไปนอกระเบียงที่ตอนนี้เห็นเพียงท้องฟ้าอันมืดมิด มีแสงระยิบระยับจากดวงดาว แสงไฟจากวัดพระธาตุบนเขาสูง แสงเหล่านั้นยังสว่างไสวกว่าจิตใจเขา “ไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง นับดาวไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะนิสัยของเขาหรือเขาเย็นชากับเธอ แต่เพราะความเคยชินที่ได้คุยกันในรูปแบบนี้มาตลอด เธอจึงไม่อยากคิดมาก “แล้วพี่เมาไหม” หญิงสาวถามเขาด้วยความเป็นห่วง “ไม่” “…” นับดาวพยักหน้า เขาดูเหนื่อย ๆ เหมือนไม่มีแรงจะคุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ “งั้นกลับดี ๆ นะ นับไปนอนแล้ว” โซ่พยักหน้า เขาเกือบพูดประโยคหนึ่งออกไปแต่ก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้ในที่สุด ไหน ๆ ก็จะบอกกับนับดาวอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่มาคบกันแบบนี้ แม้แต่คำว่าฝันดีเขาก็ไม่ควรพูดด้วยซ้ำ “พรุ่งนี้พี่โซ่เรียนกี่โมงเหรอ” เธอเกือบจะเดินเข้าห้องแล้ว แต่เพราะไม่อยากเข้าไปถึงนึกขึ้นได้ว่าควรถามเรื่องนี้กับเขาสักนิด “ก็ว่าอยู่ พี่ยังไม่ได้ดูเลย มีอะไรหรือเปล่า” “คือ ไม่มีอะไรค่ะ แค่ถาม” หญิงสาวบอกแล้วยิ้มเขิน ๆ “มาทำอะไรตรงนี้ ไปนอนได้แล้วไอ้อ้วน” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง จะเป็นใครได้อีกถ้าไม่ใช่พี่ชายที่เธอคลานตามออกมา พอได้ยินเสียงเขานับดาวถึงกับพ่นลมหายใจ “รู้แล้วน่า” เธอบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “กูก็จะกลับแล้ว พรุ่งนี้เรียนกี่โมงนะ” โซ่เอ่ยประโยคนั้นดังขึ้นตามหลัง เขาทิ้งบุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเดินตามเธอเข้ามา “เก้าครึ่ง” “อืม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม