ตอนที่ 3 ไม่ว่าง
หลายวันต่อมา
การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยยังคงเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับนับดาว เธอได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อย่างอายตาและทิชา ซึ่งเริ่มสนิทกันตั้งแต่วันที่มาลงทะเบียนนักศึกษาก่อนเปิดเทอม จนตอนนี้เรียนที่นี่ได้เกือบเดือนแล้วก็ยังเกาะกลุ่มกันสามคน
“เห็นคนนั้นไหม อัยมี่ ตัวเก็งดาวคณะ” ทิชาแอบชี้ไปที่ใครบางคนซึ่งทุกคนพอจะได้เห็นหน้าตากันมาบ้างแล้ว
“สวย พี่ชายก็หล่อ” อายตาเอ่ยปากชื่นชมสาวรุ่นเดียวกันด้วยรอยยิ้ม
นับดาวมองตามคนสวยที่ว่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เธอรู้จักเป็นอย่างดีเลย แต่เป็นการรู้จักข้างเดียวเพราะสาวสวยคนนั้นคือน้องสาวแท้ ๆ ของโซ่ ผู้ชายที่เธอคุยด้วยเกือบทุกวัน แถมยังมีสถานะเป็นแฟนแบบลับ ๆ
แต่นับดาวไม่เคยได้ทำความรู้จักกับอัยมี่เลยสักครั้ง แม้กระทั่งตัวโซ่เอง เธอยังไม่ได้ทำความรู้จักให้มากกว่าการส่งข้อความคุยกันเลยสักครั้ง จนตอนนี้เธอเริ่มสงสัยว่าคบกันแบบไหน
ตั้งแต่เธอเข้ามาเรียนที่นี่ เขาก็เริ่มตอบข้อความน้อยลง หน้าก็ไม่ค่อยได้เจอ ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ หรืออาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เธออยากถามและอยากได้คำตอบว่าที่ทำอยู่นี้มันคืออะไร แต่ก็กลัวว่าถ้าถามออกไปมันจะแย่กว่าเดิม
แย่ชนิดที่ว่าอาจจะไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอยอมเป็นแบบนี้ยังดีเสียกว่า
“หล่อจริง แก๊งนั้นหล่อทุกคน พี่ไนท์ก็หล่อ” ทิชาปิดปากหัวเราะ ยังไม่รู้ว่าคนที่เธอเอ่ยถึงนั้นคือพี่ชายแท้ ๆ ของยัยตัวอ้วนกลมที่นั่งอยู่ตรงนี้
“หล่อตรงไหน” นับดาวหัวเราะเบา ๆ
“หล่อสิ ถ้านับว่าไม่หล่อคงสายตาไม่ดีแล้วละ” อายตาหันหน้ามาเถียงเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
นับดาวได้แต่ส่ายหน้า เธอเห็นผู้ชายที่เพื่อนบอกว่าหล่อมาทั้งชีวิต ไม่รู้จะมองให้หล่อยังไง เห็นด้านมืดมาก็เยอะด้วย แถมชอบแกล้งเธอและแย่งของกินกันตั้งแต่เด็กจนโต
แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายพี่ไนท์ก็ยอมให้เธอเกือบทุกเรื่อง ถึงเขาไม่หล่อในสายตาเธอ แต่นับก็รักพี่ไนท์ที่สุด !
“พี่ไนท์ปากหมานะ เคยยืนด่ากับผู้หญิงด้วย”
“พูดเหมือนรู้จักพี่ไนท์เลย” ทิชายิ้มแซวพลางหัวเราะ “อย่าบอกนะว่า”
“ก็พี่ไนท์…”
“พูดเหมือนรู้ดีเลยนะนับดาว” เสียงใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ขัดจังหวะคนที่กำลังจะเฉลยความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของตัวเองกับหนุ่มหล่อที่เป็นหัวข้อสนทนานี้
ทั้งสามคนหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่สาขาเดียวกัน คนหนึ่งชื่อพันซ์อีกคนชื่อเจน สองคนนี้คือดาวเด่นของสาขาที่ถูกเลือกให้ไปคัดตัวเป็นผู้นำเชียร์ของคณะ ด้วยบุคลิกที่ดูมั่นใจแบบนั้น อันที่จริงมีทิชาอีกคน แต่ทิชาไม่ชอบจึงขอถอนตัวออกมา
“แล้วทำไมเราจะรู้ไม่ได้” ก็นั่นมันพี่ชายเธอ
นับดาวจ้องคนที่เดินมาถาม คล้ายไม่พอใจที่เธอเพิ่งกล่าวหาพี่ชายตัวเองไปแบบนั้น
“จะบอกว่าพวกพี่ไนท์สนิทด้วยว่างั้น” เจนพูดพลางหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
หุ่นก็แย่ ไม่มีอะไรให้ผู้ชายแก๊งนั้นสนใจเลยสักนิดแต่กลับเชิดหน้าพูดเหมือนรู้จักเขาดีเหลือเกิน ไม่รู้ทำไมหล่อนถึงไม่ชอบหน้ายายอ้วนนี่นัก เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเกลียด
“ก็ระดับนึง ทำไมเหรอ” นับดาวขมวดคิ้วมองสองคนที่มาหาเรื่องกันถึงที่ “แล้วเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย เราคุยกับเพื่อน”
“ก็ต้องเกี่ยวอยู่แล้ว เพราะฉันคุยกับเขาตลอด แล้วเธอมาว่าพี่ไนท์ปากหมาคืออะไร”
“ใคร เธอคุยกับพี่ไนท์” หญิงสาวถาม ทั้งที่พอจะเดาได้ แต่เธอไม่คิดว่าพี่ชายตัวเองจะมาคุยกับแม่นี่ ดูก็รู้ว่านิสัยไม่ดี
กลับห้องไปจะบ่นให้หูชาเลยคอยดู
“ฉัน แล้วจะทำไม”
“อ้อ เหรอ” นับดาวยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีกลับมามองที่ใบงานของตัวเองสีหน้าที่ติดรอยยิ้มนั้นเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยขึ้นมา “แต่ถ้าคุยกันก็ควรจะรู้ข้อมูลเขาบ้างนะ”
“หมายความว่ายังไง” พันซ์กอดอกมองยายอ้วนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
นับดาวพ่นลมหายใจ อยากจะบีบคอพี่ชายตัวเองที่มาคุยกับยายคนนี้ นิสัยก็ไม่ดีชอบหาเรื่อง ทำตัวเหมือนพวกพ่อแม่ไม่รัก
“หมดธุระยัง แปลกดี อยู่ ๆ ก็อยากมาร่วมวงสนทนากับพวกฉัน” ทิชายิ้มก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา “ทั้งที่ก็ไม่ได้ชวนคุย”
“ก็ไม่ได้อยากเสือกหรอก ถ้าเธอไม่พูดเรื่องคนคุยฉันก่อน”
กล้าพูด
นับดาวหัวเราะในใจ ทำไมแม่นี่ถึงกล้าใช้คำนั้น ถ้าพี่ชายเธอจริงจังกับนาง นับดาวต้องรู้แล้ว เวลาพี่ชายเธอมีแฟนแล้วจะคบจริงจังเขาเปิดตัวตลอด แต่นี่ก็ผ่านมาสองปีแล้วเธอยังไม่เห็นเขาคบใครเลย
“งั้นก็ขอโทษนะ วันหลังจะไม่พูดถึงแล้วจ้ะ” นับดาวแสร้งยิ้มจนตาหยี แก้มสองข้างกลมเหมือนซาลาเปาที่เคลือบด้วยสีชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติเพราะผิวที่ขาวมากอยู่แล้ว เลยทำให้เห็นว่าหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งอากาศร้อน ไหนจะคนมาทำให้อารมณ์เสียอีก เธออยากจะระเบิดอารมณ์มันตรงนี้เลย
สุดท้ายสองคนที่เดินผ่านมาหาเรื่องก็เดินหนีไปเพราะทั้งนับดาวและเพื่อนอีกสองคนเลิกสนใจ ทำเป็นมองไม่เห็น เธอไม่ได้อยากแพ้หรอก เพียงแต่ไม่อยากลดตัวไปคุยกับคนประเภทนั้นต่างหาก
“โอเค ยอมรับว่านางสวย แต่เหมือนอยากประกาศให้โลกรู้ว่าคุยกับคนนี้ ใครกันแน่อยากอวด”
“…” นับดาวหัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของอายตา “ก็สวยแต่แพ้อายตาอีกนะนับว่า”
“โอ้โฮ อยากกินอะไร เดี๋ยวเลี้ยง”
“ทิชาก็ว่านับสวยกว่านะ”
“แหม~” อายตาปรายตามองเพื่อนอย่างรู้ทัน
“แล้วนับรู้จักพี่ไนท์จริงดิ พี่โรงเรียนเหรอ” ทิชาหันมาถามเพื่อนด้วยความอยากรู้
“ก็นั่นมันพี่ชายนับ ทำไมจะไม่รู้จัก”
“หา !”
เสียงตกใจดังประสานกันจนทุกคนบริเวณนั้นหันมามอง นับถึงกับหัวเราะออกมา เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าใครได้ยินก็ต้องตกใจ เพราะพี่ชายเธอมันโด่งดังจะตายไป พอ ๆ กับพี่โซ่ แต่หลายคนลงความเห็นว่าพี่โซ่เข้าถึงยาก คนที่ถูกพูดถึงมากกว่าเลยเป็นพี่ไนท์แทน
แน่นอนละ ก็พี่โซ่ไม่ใช่คนพูดมากเหมือนพี่ชายเธอไง นับดาวมองว่าที่เขาเงียบ ๆ นิ่ง ๆ แบบนั้นมันดูมีเสน่ห์เหลือเกิน เธอเห็นคนแบบพี่ไนท์มาทั้งชีวิต นอกจากพี่ไนท์ก็มีพ่ออีกคนที่นิสัยเหมือนกัน คนที่จะทำให้ตกหลุมรักได้ก็ควรเป็นคนแบบพี่โซ่นี่แหละ
วันนี้นับดาวมีเรียนตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสาม หลังจากนั้นก็มีกิจกรรมที่รุ่นพี่นัดไว้ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม
วันนี้ทั้งวันเธอยังไม่ได้คุยกับโซ่ พอเลิกเรียนวิชาสุดท้ายจึงทักเขาไป คาดหวังว่าจะได้เจอกันสักหน่อย เพราะเธอแอบถามพี่ชายมาแล้วเวลานี้พวกเขาว่าง เลิกเรียนกันตั้งแต่เที่ยงแล้ว
นับดาว : (สติกเกอร์โบกมือ)
นับดาว : ว่างไหมเอ่ย
เธอส่งข้อความไปให้เขาระหว่างที่กำลังลงจากตึกเรียน ถ้าเขายังอยู่ในมหาวิทยาลัยก็อยากแอบไปเจอเขาสักหน่อย บางทีก็แอบน้อยใจที่เขาไม่ค่อยสนใจ แต่บางครั้งพี่โซ่ก็คุยกับเธอดี ยิ่งตอนที่เมาเขาจะน่ารักกับนับมาก ๆ
นับเข้าใจว่าโซ่เป็นคนขี้อาย หรือไม่เขาก็ไม่ชอบแสดงออกให้ใครเห็น ยกเว้นตอนเมาที่จะเปิดเผยตัวตนออกมา นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เธอยอมให้เขาเงียบหายไปบ่อย ๆ
พยายามทำความเข้าใจกับการเป็นเขา ไม่จู้จี้วุ่นวายกับชีวิตหนุ่มรุ่นพี่ให้เขารำคาญ
โซ่ : ว่ายังไงนับ
หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่ามีข้อความส่งมาจากเขา ไม่บ่อยนักที่เขาจะตอบข้อความเธอช่วงกลางวันแบบนี้เพราะเขาไม่ค่อยจะว่าง
นับดาว : นับอยู่ในมอ อยากเจอพี่โซ่จัง พี่อยู่ไหน
โซ่ : อ๋อ พี่ไม่ว่าง เดี๋ยวต้องไปคุยงานกับอาจารย์
นับดาว : อ้อ โอเคค่ะ
ถึงแม้จะรู้สึกผิดหวังกับคำตอบ แต่เธอก็เข้าใจได้แค่เขาตอบข้อความเธอมันก็ดีมาก ๆ แล้ว
นับดาว : งั้นถ้าพี่โซ่ว่างแล้ว ทักหานับนะ
เธอส่งข้อความนั้นไป ซึ่งเขาเปิดอ่านแล้วแต่ไม่ได้ตอบกลับมา นานอยู่หลายนาทีจนนับดาวต้องเลิกรอ สุดท้ายก็เก็บเครื่องมือสื่อสารเข้ากระเป๋า
“นับ จะกลับหอไหม” ทิชาหันไปถามเพื่อนที่สีหน้าเหมือนกำลังผิดหวังกับอะไรสักอย่าง “เป็นอะไรอะ”
“เปล่า กลับสิ พวกเธอจะกลับกันไหม”
“กลับ ๆ ไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน งั้นไปด้วยกันไหม”
“อื้อ”
สุดท้ายเธอก็ต้องติดรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนกลับคอนโดมิเนียม ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าถ้าได้เจอโซ่เธออาจจะไม่กลับแล้ว เพราะพกเสื้อผ้าสำหรับเข้าร่วมกิจกรรมเย็นนี้มาด้วย แต่ในเมื่อเพื่อนกลับหอกันหมด เธอก็ไม่รู้ว่าจะอยู่กับใคร