“ข้อมูลอะไร” เธอถามเสียงขุ่น
“ข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงขายบริการว่าเขาพูดกันยังไง ทำตัวยังไง ลักษณะท่าทาง ความคิดความอ่านของคนที่ประกอบอาชีพนี้ พอดีคุณพลอยใสที่รับบทนางเอกหนังเรื่องใหม่ของเราไม่เข้าใจบทบาทโสเภณีที่ได้รับ เขามองภาพไม่ออก จินตนาการไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าควรจะเล่นยังไง ฉันพยายามอธิบายแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้มาก ทำให้ตอนนี้การถ่ายทำมีปัญหาชักช้ามากอย่างที่แกก็รู้ แถมทางค่ายก็เร่งมายิกๆ ว่าต้องเข้าฉายให้ทันกำหนด ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยต้องมาขอให้แกช่วยนี่แหละ”
จิดาภาถอนใจ ก็เข้าใจสิ่งที่พี่ชายเธอเป็นกังวลอยู่หรอกนะ นางเอกเล่นไม่ได้ การถ่ายทำก็ล่าช้า เสียทั้งเวลา ทั้งงบประมาณ ไหนจะต้องเลื่อนฉาย แล้วยังจะต้องถูกเจ้าของค่ายหนังกดดันสารพัด
แต่...
“พี่เชษฐ์ไม่ลงทุนมากไปหน่อยเหรอ นี่มันชีวิตน้องทั้งชีวิตเลยนะ”
“แต่ถ้าแกไม่ช่วย พี่ชีวิตพี่ก็มีแต่พังกับพังเท่านั้นแหละ ไหนจะลูก ไหนจะเมียอีกล่ะ ใจคอแกจะทนเห็นเราพ่อแม่ลูกอดตายได้เหรอ”
“แล้วทำไมพี่เชษฐ์ไม่ไปเองล่ะ พี่เป็นผู้กำกับ น่าจะสื่อสารกับนางเอกได้ดีกว่าจุ๊บอีก”
“พี่ไปได้ซะที่ไหน พี่เปิ้ลกำลังท้อง ขืนรู้ว่าพี่ไปลงอ่าง มีหวังอาละวาดบ้านแตกแน่”
“เออ...ก็จริง ช่วงนี้พี่เปิ้ลยิ่งอารมณ์แปรปรวนอ่อนไหวง่ายอยู่ด้วย”
“ใช่ไหมล่ะ... อีกอย่างคุณพลอยใสก็ไม่สะดวกใจด้วย เขาเลยขอร้องว่าอยากจะได้ทีมงานที่เป็นผู้หญิงมาช่วยเขาเรื่องนี้หน่อย เขาจะได้กล้าพูดกล้าถามมากขึ้น”
“หวยก็เลยมาออกที่จุ๊บ”
เชษฐาพยักหน้า ทำตาละห้อย
“แกช่วยพี่หน่อยนะ น้าๆๆๆ พี่มองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ ตอนนี้ยายฟองฟางเพื่อนซี้แกกำลังยุ่ง ต้องเตรียมตัวแต่งงานกับซุปตาร์ที่เมืองนอกโน่นไม่ใช่เหรอ แกก็ว่าง เพราะเพิ่งเสร็จจากหนังเรื่องที่แล้ว ถ้าอย่างนั้นเข้ามาช่วยพี่เต็มตัวเลยแล้วกัน จะได้หาอะไรทำแก้เซ็งด้วย...ดีไหม”
“ดีกับผีน่ะสิ งานเสี่ยงตายแบบนี้ดันโยนมาให้น้องได้”
หลังจากนั้นเธอก็บ่นพี่ชายอีกยกใหญ่จนเจ้าตัวหูชา แต่สุดท้ายก็ทนเสียงรบเร้าของเขาไม่ไหว เพราะหากไม่ทำก็จะเกิดผลเสียกับงานของเชษฐา ช่วงนี้เมียก็กำลังท้องกำลังไส้ พี่ชายเธอเลยต้องเร่งหาเงินมาทำคลอด เลี้ยงลูกเลี้ยงเมียด้วย หญิงสาวทั้งเห็นใจและสงสาร เลยจำใจต้องยอมรับปาก
แต่ตอนนี้เธอชักจะสงสารตัวเองมากกว่าแล้วสิ...
เท่าที่ต้องแต่งตัววับๆ แวมๆ โชว์เนื้อหนังมังสาล่อตาพวกตะเข้ เธอก็แสนจะอับอายมากพออยู่แล้ว นี่ยังจะต้องแสดงเป็นแม่สาวก๋ากั่นเจนโลก คอยส่งสายตายั่วยวนเชิญชวนบรรดาผู้ชายหัวงูและชักชวนคุณโสชั้นสูงพูดคุย กรีดยิ้ม แกล้งหัวเราะอย่างมีจริตจะก้าน เพื่อเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด แล้วนำไปถ่ายทอดให้นางเอกสาวเข้าใจ เห็นภาพ และสวมบทบาทได้อย่างแนบเนียนชนิดตีบทแตกกระจุย
แต่เธอนี่สิ...ความจะแตกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
จิดาภายืนกระสับกระส่ายด้วยความอกสั่นขวัญแขวน เมื่อกี้เธอก็เผลอลืมตัวเกือบทะเลาะกับแขก เพราะอีกฝ่ายดื่มหนักจนเมาแอ๋ แล้วเกิดมีอารมณ์จะลากตัวเธอเข้าห้องเชือดให้ได้ เธอสู้กัดฟันทนพยายามหลบเลี่ยงเบี่ยงตัวหนี แต่มือไม้ยุบยับของเจ้าตัวก็ตามเกาะแกะเธอไม่เลิก ซ้ำยังยิ่งจาบจ้วงหยาบคายคิดจะจับหน้าอกของเธออีกด้วย
หญิงสาวเหลืออดกับพฤติกรรมบ้ากามของอีกฝ่าย เลยสะบัดมือเขาออกเต็มแรง ชักสีหน้าไม่พอใจ จึงถูกแขกหนุ่มต่อว่าด่าทอดูถูกกันสารพัด เธอตั้งท่าจะสวนกลับ โชคดีที่สาวๆ ในวงช่วยห้ามปรามและกันเธอออกมา ก่อนจะพาเธอออกมายืนสงบสติอารมณ์อยู่ในมุมสงบตรงนี้
“เฮ้อ... วันนี้โชคไม่ดีเลยแฮะ”
จิดาภาบ่นพึมพำ กำลังสองจิตสองใจว่าจะกลับเข้าไปข้างในต่อหรือกลับบ้านดี เพราะจากการสังเกตสังกาวันนี้ เธอได้ข้อมูลเหลือเฟือพอที่จะช่วยให้นางเอกสาวสวมบทบาทเป็นโสเภณีได้ไม่ยาก ถ้าเจ้าหล่อนอยากรู้อะไรเพิ่มเติม เธอค่อยปลอมตัวไปสืบเสาะที่ไนต์คลับแห่งอื่นวันหลังอีกทีก็ได้
บอกตรงๆ เธอไม่อยากเข้าไปในที่อโคจรแบบนี้อีก เพราะรู้สึกสะอิดสะเอียนคนพวกนี้เต็มที
อีกอย่าง...นี่ก็ดึกดื่นมืดค่ำมากแล้ว ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ พอเหล้าเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่า สันดานดิบในตัวก็เริ่มเผยให้เห็นมากขึ้น โอกาสเสี่ยงที่เธอจะมี ‘สามี’ แบบไม่ได้ตั้งใจก็มากตามไปด้วย
ใช่ว่าเธอจะหวงเนื้อหวงตัวจนใครแตะต้องไม่ได้หรอกนะ...
เอาจริงๆ เธอก็หัวสมัยใหม่อยู่ แถมเธอก็มีแฟนแล้วชื่อ...ทศพล คบกันมาเกือบสามปี ก็มีกอดคอหอมแก้มกันบ้างตามแต่โอกาสพิเศษ อย่างวันเกิดเอย วันวาเลนไทน์เอย แต่เรื่องจะให้ชิงสุกก่อนห่ามเธอไม่คิดจะทำเด็ดขาด เพราะยึดศักดิ์ศรีของตัวเองและคำสอนของพ่อแม่เป็นที่ตั้ง
เธอไม่อยากลดคุณค่าของตนเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ!
ที่สำคัญเธออยากพิสูจน์ใจคนรักด้วยว่าจะมั่นคงแค่ไหน รักเธอหรือต้องการแค่ร่างกายของเธอกันแน่ เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง เธอจะได้เซย์กูดบายตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องทนคบกันให้เสียเวลา
แต่ถ้าทศพลมาเห็นเธอในสภาพนี้ สถานที่แบบนี้ละก็...
คนที่จะถูกบอกเลิกแบบฟ้าแลบ ได้แต่ยืนร้องไห้น้ำตาท่วมโลกคงเป็นเธออย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจากสภาพการณ์ที่เห็น เธอไม่อาจแก้ตัวได้เลย แม้จะเป็นเรื่องงานล้วนๆ แต่คงไม่มีผู้ชายคนไหนทำใจยอมรับได้เป็นอันขาด
ยิ่งตรองถึงผลได้ผลเสีย จิดาภาก็พยักหน้า ตกลงใจว่าจะเดินทางกลับบ้าน เพื่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเอง ขาเรียวก้าวฉับๆ มุ่งไปที่ทางออกตรงลานจอดรถ เพราะอยากจะหาผ้าผ่อนมาคลุมทับชุดวาบหวิวนี้เสียที
ทว่ายังไม่ทันก้าวพ้นผ่านกระจกเลื่อนบานใหญ่ ก็มีชายฉกรรจ์สองสามคนเดินมาดักหน้าเธอเอาไว้จากทิศไหนไม่รู้ ร่างกายใหญ่โตของพวกเขาบดบังทางออกจนมิด ทำเอาหญิงสาวต้องชะงักและยิ่งขวัญผวา เมื่อหนึ่งในนั้นเอ่ยเสียงเข้ม
“นายต้องการพบคุณ”
“นายไหน?” เธอร้องถามออกไปโดยอัตโนมัติ
“คุณฌอห์น คาร์เตอร์ เจ้าของที่นี่”
อิ๊บอ๋ายแล้ว...!
จิดาภาคิดได้เพียงเท่านั้นก็ถูกเหล่าชายหนุ่มตรงเข้าหิ้วปีกกลับเข้าไปข้างในทันที โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงที่ดังมาจากกลีบปากสีแดงสดเลยแม้แต่นิด ราวกับพวกเขาเป็นหุ่นยนต์ไร้ชีวิตที่ฟังคำสั่งจากนายเหนือหัวเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ไม่น้า...”